ทุกข์ที่เกิดจากการให้
เมื่อหลายสิบปีที่แล้วอำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช มีความจำเป็นที่จะต้องย้ายที่ว่าการอำเภอจากในตลาดสู่เขตรอบนอก ในขณะนั้นมีนายอำเภอท่านหนึ่งชื่อ นายอำเภอปกประสิทธิ์ ท่านเป็นคนดีมาก เข้าถึงประชาชนมากๆ ไม่ถือตัวชาวบ้านชอบท่านมากๆ เมื่อต้องย้ายที่ว่าการอำเภอท่านก็วางแผนผังการพัฒนาในอนาคตของที่ตั้งที่ว่าการอำเภอว่าน่าจะพัฒนาสู่ระดับเทศบาล แต่เนื่องจากที่ดินบริเวณรอบที่ว่าการอำเภอทั้งหมดเป็นที่สงวนและเป็นที่ตั้งของศูนย์ราชการของอำเภอเกือบทั้งหมด ท่านจึงคิดว่าความเจริญของประชาชนน่าจะอยู่อีกฝากหนึ่งของถนนหน้าที่ว่าการอำเภอ ท่านจึงไปขอที่ดินชาวบ้านเพื่อทำถนนหน้าที่ว่าการอำเภอ 3 สาย เพื่อเชื่อมต่อระหว่างถนนเอเชีย หน้าที่ว่าการอำเภอสู่ถนนอีกสายหนึ่ง โดยให้ถนนแต่ละสายกว้าง 10 เมตร ยาวประมาณ 500 เมตร ครอบครัวสามีดิฉันก็เป็นครอบครัวหนึ่งที่ท่านขอที่ดิน (ที่ดินที่บริจาคกว้าง 10 เมตร ยาวประมาณ 450 เมตร) ในครอบครัวก็ปรึกษากันและตกลงใจมอบที่ดินเพื่อทำถนนโดยตัดสินใจให้ถนนผ่ากลางที่ดินทั้งหมดเพื่อลูกหลานทุกคนจะได้มีเส้นทางที่สะดวกและที่ดินมีมูลค่าเพิ่มขึ้น เมื่อแบ่งแยกที่ดินโฉนดเป็นสาธารณะ ท่านนายอำเภอบอกว่าในสมัยของท่านคงไม่มีงบประมาณจะตัดถนน (ปัจจุบันท่านเกษียณแล้ว) เวลาผ่านไปถนนเอเชีย(สายหลักภาคใต้)ได้งบพัฒนาเป็นถนนสี่เลน บริษัทรับเหมาทำถนนต้องการซื้อดินถมถนนจึงไปซื้อดินถมที่ภูเขาใกล้ๆ โดยมาขออนุญาตท่านนายอำเภอและพ่อสามีถมดินทำถนนเพื่อให้รถขนดินวิ่งได้ ในครอบครัวเห็นว่าเป็นทางเดียวที่จะทำให้มีถนนผ่านที่ดินของทุกคน ก็ยินยอม เวลาผ่านไป ถนนเอเชียเสร็จกลายเป็นถนนสี่เลน ถนนที่บริจาคก็ยังเป็นถนนลูกรังขี้ฝุ่นเขลอะอยู่เหมือนเดิม แต่สิ่งที่ตามมาตอนนี้ก็คือถนนทั้ง 2 สายที่เหลือพัฒนาเป็นถนนคอนกรีตทั้งหมดยกเว้นถนนสายนี้ เพราะ นายก อบต.ก็เป็นผู้รับเหมามีรถถมดิน กำนันก็รับเหมามีรถถมดิน แต่ที่น่าเจ็บปวดยิ่งกว่าเมื่อ อบต. บอกว่าถนนสายนี้มีแค่ 7 ครอบครัว ไว้ทำสุดท้าย เพราะถนนทุกสายเป็นคอนกรีต รถดินวิ่งไม่ได้...เอาไว้ให้รถดินวิ่ง ...ท่านคิดดูสิว่าวันหนึ่งๆ รถวิ่งทั้งวัน ฤดูแล้งฝุ่นเขลอะ ฤดูฝนดิฉันไม่สามารถนำรถเข้าบ้านได้ ร้องเรียนหลายครั้ง นายอำเภอคนใหม่ๆ มา ก็ไม่แก้ไขปัญหา เพราะอะไรท่านก็พิจารณาวินิจฉัยให้ด้วยก็แล้วกัน...ตอนนี้ถนนสายนี้คือทุกข์ของครอบครัวของเรา การบริจาคควรพิจารณาให้รอบคอบ ถ้าในตอนนั้นเราทุกคนเชื่อพี่ชายอีกคนหนึ่ง ซึ่งบอกว่าให้เราทำถนนสายนี้เป็นถนนส่วนบุคคล เรื่องก็จบตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว...แต่เพราะเราให้โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ ตอนนี้นายอำเภอคนปัจจุบันซึ่งไม่รู้ที่มาของที่ดินถนนทั้งสายยังมาข่มขู่ครอบครัวเราให้ยอมรับสภาพฝุ่นอย่างนี้.....นี่คือทุกข์ของผู้ให้
ดูภาพถนนของจริงเลยค่ะ
ที่ว่าการอำเภอสิชลและถนนบริจาค สายที่ 1 พัฒนาแล้ว (ตรงกันข้ามที่ว่าการอำเภอ)
ถนนสายที่ 2 ที่ครอบครัวบริจาค (อยู่ตรงกันข้ามที่ว่าการอำเภอ ห่างจากถนนสายที่ 1 ประมาณ 300 เมตร)
ถนนสายที่ 3 ห่างจากถนนสายที่ 2 ประมาณ 300 เมตร (อยู่ตรงกันข้ามหน่วยรักษาป่า ป่าไม้) พัฒนาแล้ว
น่าเห็นใจครอบครัวโยมและเพื่อนบ้าน
ผู้นำรัฐที่เคยขอที่ดิน น่าจะช่วยเราได้บ้าง
น่าเห็นใจค่ะ แต่ทำดีแล้วต้องได้ดีค่ะ
ขอให้กำลังใจค่ะ
สวัสดีค่ะ
แวะมาเยี่ยมด้วยความคิดถึง
น่าเห็นใจจริงๆค่ะ
มีความสุขในวันหยุดนะคะ
นมัสการ พระมหาแล ขำสุข (อาสโย)
ขอบคุณพระคุณเจ้าที่มีเมตตาจิตกับครอบครัวดิฉัน ผู้นำรัฐที่เคยขอที่ดินเขาก็ปลดเกษียณไปแล้ว เขาก็แก้ให้ไม่ได้หรอกค่ะพระคุณเจ้า
สวัสดีค่ะ คุณnoktalay
ขอบคุณสำหรับกำลังใจ หวังว่าความดีที่ครอบครัวได้ทำจะส่งผลให้ลูกหลานไม่ต้องทนทุกข์อย่างทุกวันนี้
สวัสดีค่ะ เจ้าหญิงแห่งท้องทะเลบัวแดง
สวัสดีค่ะ คุณmena
สวัสดีค่ะ คุณครูดาวเรือง
สวัสดีค่ะ คุณ ธรรมทิพย์
■ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่มอบให้
■ก็หวังว่าสักวัน..ปัญหาคงบรรเทา แต่จะขับรถเข้าบ้าน
ได้อย่างไร
สวัสดีค่ะ คุณครูปริมปราง
เมื่อปีใหม่กลับบ้าน
กะว่าจะเรียกครูปริมปรางหน้าบ้าน เกรงใจ๊เกรงใจ
ก็เลยอยู่แค่หน้าบ้าน พี่ณี เพื่อซื้อของเข้าบ้าน สบายดีนะคะ
คิดถึงค่ะ
สวัสดีค่ะ น้องครูจิ๋ว
ช่วงปีใหม่พี่ก็สงสัยเหมือนกันว่าทำไมน้องไม่มาเยี่ยมบ้าน วันที่ 1 พี่ทำหน้าที่จัดกิจกรรมที่โรงเรียนตลอดครึ่งวันไม่เคยได้อยู่บ้านหรอกค่ะ ต้องไปโรงเรียนตั้งแต่ ตีสามแนะ เพราะที่โรงเรียนให้ทานไฟและมอบทุนการศึกษา ทำอย่างนี้มา 23 ปีแล้วไม่เคยได้อยู่ปีใหม่กับครอบครัวเลยค่ะ
สวัสดีครับคุณครูปริมปราง
วันก่อนหายไปเลยต้องประกาศหาคนหาย แฮ...
คิดว่าหายไปไหน ที่แท้แอบไปเอาน้ำราดถนนไม่ให้ฝุ่นฟุ้งเข้าบ้านนี้เอง อิ.อิ.
ผมไม่เคยสงสัยว่าปัญหาจังหวัดภาคใต้ถึงแก้ไม่ได้สักทีเพราะอะไร
ในเมื่อผู้ถืออำนาจในองค์กรของรัฐยังคงความคิดแบบนี้หละครับ
แล้วจะมาเรียกร้องขอความร่วมมือจากชาวบ้านไปหาขนมจีนน้ำยาอะไร
ขอยุยงสักกะหน่อย ยากรู้จักทนายดีนัก แฮ...
M 79 ยังไม่ต้องใช้ ฮา.....
แต่ให้ใช้นโยบาย "เองไม่ทำข้าจะทำ" เออ...แล้วทำไงหละ ยากรู้ตามมา
1.ถ่ายสำเนาหลักฐานการบริจากที่ดินให้ทำถนนทั้งหมด (จากสนง.ที่ดินพร้อมให้เจ้าหน้าที่รับรองเอกสารทั้งหมด
เหตุผล
เพื่อป้องกันเอกสารหายหรือไฟไหม้ หรือถูกปล้นเอาเฉพาะเอกสารของเราไปทรัพยสินมีค่าอื่นไม่ยากได้ ยากได้เฉพาะเอกสาร เออ..งง..นะ
2.ทำหนังสือร้องเรียนไปยัง ทุกองค์กร คือตั้งแต่ผู้ใหญ่ กำนัน อบต. อบจ. ปลัดอำเภอ นายอำเภอ ปลัดจังหวัด ผู้ว่าฯ ปลัดกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย ส.ส./ส.ว. นายอำเภอคนเก่าที่หมดอำนาจ เทศบาล แขวงการทาง กรมทางหลวง น.ส.พ. คือเรียกว่าคิดถึงใครก็มีหนังสือถึงคนนั้น ท้ายหนังสือให้ระบุไว้ว่าสำเนาถึงใครบ้างให้คนที่รับได้รู้
เหตุผล
เพื่อเป็นการเร่งระยะเวลาดำเนินการเพราะผู้ที่เกี่ยวข้องในระดับใต้บังคับเกรงจะถูกหน่วยเหนือถามแล้วตอบไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ส่วนที่มีไปถึงผู้ไม่เกี่ยวข้องก็หวัง (แค่หวังนะ) ประจานให้หน่วยงานอื่นรับรู้ เวลาเจอหน้ากันเค้าอาจมีมุกฮา..มาคุยกันเพื่อสร้างบรรยากาศการประชุม
3.สาระสำคัญในหนังสือร้องเรียน
3.1ต้องบรรยายให้ชัดว่าเรื่องเดิมทำไมยกที่ดินให้ทางเราเอาไปยัดให้ทางการหรือทางการแบบมือขอ ใครเป็นผู้ขอ มีหลักฐานอะไรแนบท้ายให้หาเจอ เพราะหน่วยงานที่รับเรื่องประเภทนี้ตอนสอบรับสมัครบุคคลเข้าทำงานจะฉลาดมากแต่พอทำไปสมองสึกจนไม่มีรอยยัก ทำให้หาเอกสารไม่เจอ
3.2ต้องบรรยายให้ชัดว่าเคยไปร้องที่ใดมาก่อนนี้บ้าง ใครรับเรื่องและผลเป็นอย่างไร เขาแจ้งหรือพูดอย่างไร เพื่อสกัดไม่ให้ผู้ที่กำลังทำเรื่องให้อยู่เกรงการถูกประจานต่อ
3.3ต้องบรรยายให้ชัดว่าต้องการอะไร ถนนแบบใด มีคูระบายน้ำ มีไฟฟ้าแสงสว่าง มีระบบประปา ระบบโทรศัพท์หรือไม่ ถ้านึกไม่ออกไปถ่ายรูปถนนที่ต้องการแนบเป็นเอกสารไว้ท้ายหนังสือ อย่าลืมบอกเลขเอกสารแนบท้ายด้วยนะสมองเค้าไม่มีรอยแล้วหาไม่เจอจริงๆ
3.4ในหนังสือให้ระบุเป็นสารบัญไว้ด้วยว่าส่งอะไรมากับหนังสือไม่ระบุทำหาย จิง.จิง.นะเออ
3.5ห้ามส่งหนังสือทางไปรษณีย์เด็ดขาด ให้ไปส่งที่ฝ่ายรับ-ส่งเอกสารของแต่ละหน่วงงาน แล้วจดเลขรับไว้ด้วย ไม่งั้นหาย จิง.จิง.นะเออ
3.6ในท้ายหนังสือเขียนด้วยตัวแดงๆโตๆว่า จะมาขอรับทราบคำตอบภายใน 45 วัน อย่าให้น้อยกว่านี้หรือมากกว่านี้ เพราะถ้าน้อยไปคนพวกนี้อ่านหนังสือช้าจะอ่านไม่ทัน ให้มากไปเดี๋ยวลืมต้องอ่านใหม่
3.7เอกสารทั้งหมดทำสำเนาตั้งแฟ้มไว้เป็นหลักฐานในศาลหากจำเป็น
3.8 M 79 ให้ส่งไปให้จังหวัดอื่นที่เขามีความจำเป็นมากกว่าเพราะเขาทนมานานกว่า... ฮา
ลองไปดำเนินการดูนะครับคุณครูดีกว่ามานั้งทนฝุ่น ส่วนหนังสือหากต้องนำส่งที่ไกลๆลองใช้ ลูกศิษย์ลูกหาให้ไปส่งและลงรับเลขหนังสือแทนก็ได้
อิ.อิ.บอกแล้วคบทนายเป็นต้องได้เรื่อง
กราบลาหละครับวันหน้ามาใหม่
สวัสดีค่ะ คุณ ชาวฝนแปดแดดสี่
สวัสดีค่ะ คุณปริมปราง สบายดีน่ะค่ะ ครูบันเทิงก็เคยไปสิชลค่ะ..บรรยากาศดี คิดถึงที่นั่นเหมือนกันค่ะ..ครูบันเทิงเคยอยู่ นครตั้ง 8 ปี เวลาคุยกับคน นครทีไร เหมือนคุ้นเคยยังงัยก็ไม่รู้น่ะค่ะ..
สวัสดีค่ะ New.ครูบันเทิง
ตอนนี้สบายขึ้นแล้วค่ะ อำเภอสิชลอากาศดีและทะเลสวย ที่บ้านสิชล (บ้านสวนปาล์ม) อยู่ใกล้ชายทะเลประมาณ 3 กิโลเมตรค่ะ เช้าๆ อากาศดีมากเลยค่ะ ครูปริมปรางกลับบ้านสวนหลังนี้อาทิตย์เว้นอาทิตย์ค่ะ ครูบันเทิงถ้าว่างมาเที่ยวนครอีกนะค่ะ ชาวนครยินดีต้อนรับ....โน่น...พูดไปโน่น
ดีใจค่ะ ที่ได้รู้จักคุณครูปริมปราง
ขออนุโมทนาด้วยนะคะ
ครูต้อยเคยไปเที่ยวทะเลที่อ.สิชลค่ะ
สมัยก่อนมีแต่ข่าวดุๆ อาจเป็นเพราะยังเด็กอยู่นะคะ
ได้ยินอะไรมาก็กลัวไปหมด จึงได้เที่ยวเพียงครั้งเดียวเอง
เรื่องความทุกข์เห็นใจจริงๆ
ไม่นานทุกข์นี้จะหายไป ขอเพียงทำใจสักนิดหนึ่ง
ให้รู้สึกผ่อนคลายไม่เครียด
แล้วแผ่เมตตาให้เจ้ากรรมนายเวร
เชื่อว่าไม่นานทุกอย่างต้องเรียบร้อยค่ะ
เห็นด้วยกับคุณฝนแปด แดดสี่ค่ะ
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณ krutoiting
ไปใช้ชีวิตอยู่ที่ปลายทอน เมื่อปี2515 ทะสวยงามมาก ปลามะหยง ตัวหนึ่งตั้ง 30 กก ได้แล้วแบ่งปันกัน หินงามไปนอนฟังเสีงคลื่น บรรยากาศช่วงนั้นสงบมากครับ
สวัสดีค่ะ คุณวอญ่า
อ่านเรื่องของคุณปริมปรางแล้วทำให้คิดถึงคุณย่าและญาติๆ ที่สิชลค่ะ คุณพ่อบี๋ก็เป็นคนอ.สิชล บ้านคุณย่าตั้งอยู่ บ.ทุ่งคา ต.ทุ่งปรังริมถนนเอเชีย ติดกับวัดปัณณาราม ซึ่งน่าจะไม่ไกลจากที่ดินของคุณปริมปราง
อย่าคิดมากไปเลยนะคะ อย่างน้อยก็ทำให้เราภูมิใจได้ว่าครอบครัวเราได้ทำประโยชน์เพื่อส่วนรวมแล้ว ถึงไม่มีใครรู้ ใครเห็นแต่เราก็สามารถเล่าให้ลูก ให้หลานเราฟังได้ค่ะ
เป็นกำลังใจให้นะคะ :-)
* ครับ เข้ามารับรู้ความรู้สึกครับ ทุกข์จากการให้
* ผมเองก็เคยมีลักษณะทุกข์จากการให้เหมือนกันครับ แต่เป็นลักษณะอื่น เป็นเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ก็คงต้องทำใจครับ ตอนนี้ผมก็ทำใจได้มากแล้วครับ
สวัสดีค่ะ คุณ Baby
ยินดีที่ได้รู้จักลูกหลานคนสิชลค่ะ บ้านคุณย่าอยู่ใกล้วัด ไม่ทราบว่าบ้านของคุณครูเขียน (คุณปู่) หรือเปล่า ถ้าใช่ก็รู้จักค่ะ....เอ...น้องคือลูกท่านรองผู้ว่าใช่ไหมเอ่ย
สวัสดีค่ะ คุณครูใจดี
ใช่ค่ะ...ดีใจจังที่คุณปริมปรางรู้จักคุณปู่และคุณพ่อด้วย :-)
ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ^-^
สวัสดีค่ะ คุณ Smalman
สวัสดีค่ะ
สวัสดีค่ะ ดาวเรือง
สวัสดีค่ะ คุณ ปริมปราง
เพลงไพเราะนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ.. มีความสุขมากๆ นะคะ.. ปล. เนื่องจากเรื่องที่ทำดีแล้วเป็นความทุกข์ ต้องลองอธิษฐานให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยค่ะ ซึ่งบางครั้ง อาจอธิษฐานนาน.. แต่ก็ต้องตั้งใจทำดู.. เผื่อว่า พอถึงคิวของเรา ก็จะมีผู้ผ่านมาช่วยเหลือ (เหมือนสวรรค์ส่งใครมาช่วย) ให้มีทางออกที่ดีๆ ได้ค่ะ เคยเห็นคนทำดีได้ดีมามากมายค่ะ.. แล้วเราก็ต้องถือศีลเท่าที่ทำได้ด้วยนะคะ..
ขอบคุณค่ะ คุณนีนานันท์ ที่เข้ามาเยี่ยม เมื่อคืนเข้าไปรับความรู้และโหลดโปรมแกรมภาพ เพื่อลองฝึกหัดทำ แต่คงใช้เวลาหน่อย เพราะขนาดโหลดโปรแกรมยังทำตั้งหลายหน.....อิ..อิ คนโลแท็ก
ปัญหาก็คือเมื่อบริจาคให้เป็นทางสาธารณะไปแล้วเอาคืนไม่ได้ ลองช่องทางร้องไปที่ศูนย์ดำรงธรรมหรือยังครับ ขอความช่วยเหลือจากจังหวัดอธิบายสาเหตุความเป็นมา พูดถึงสุขภาพของคนในครอบครัว การป้องกันและแก้ไขปัญหาที่ภาครัฐควรเอาใจใส่ดูแล ร้องไปที่ ส.ส./ส.ว./ผู้ตรวจการแผ่นดิน มีหลายช่องทางที่สามารถยื่นได้ครับ
สวัสดีค่ะครูปริมปราง
* มาเยี่ยมคุณครู วันหยุดพักผ่อน สบายดีไหมคะ แค่ครูใจดีไม่ได้หยุด เพราะมาเวร ฮิ ฮิ
* แต่ไม่เหงา เพราะนักเรียนมากันเต็มห้องเลย เขามาทำงานต่อกันค่ะ งาน Phptoshop ค่ะ
* วันนี้มาเชิญชวนครูปริมปราง ไปพักใจที่บันทึกค่ะ สร้างคุณภาพชีวิตด้วยการเจริญภาวนา ว่างๆ ขอเชิญนะคะ
* มีความสุขทุกวันนะคะ
* ระลึกถึงค่ะ
สวัสดีค่ะ ท่านอัยการชาวเกาะ
สวัสดีค่ะ คุณครูใจดี
เพื่อนๆ กัลยาณมิตรทั้งหลายคะ หากท่านรู้สึกว่า ท่านสับสนวุ่นวายกับสภาวการณ์ต่างๆ จนบางครั้งรู้สึกถึงความไม่สมดุลในชีวิต หรือความไม่สมดุลทางอารมณ์ ท่านลองทบทวนตัวเอง โดยการอยู่คนเดียวเงียบๆ และเลือกวิธีการที่จะช่วยให้จิตใจเราผ่องแผ้วแจ่มใส ดูนะคะ ไม่ต้องปฏิบัติธรรมก็ได้ แค่ลองมองอะไรในด้านดี ไอ้ที่ไม่ดีไม่ต้องเก็บมาใส่ใจ ไม่ยึดมั่นถือมั่น มีทิฐิจนเกินไป อย่าคิดถึงเรื่องเงินหรือผลประโยชน์เป็นที่ตั้ง มีน้อยใช้แต่น้อย พอใจในสิ่งที่เราเป็น นี่ก็เป็นวิธีการที่สร้างสุข และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีแล้ว ทุกอย่างล้วนอยู่ที่ใจเป็นสำคัญค่ะ.... อย่าให้กิเลสมันมาครอบงำเราได้ก็แล้วกัน...
สวัสดีค่ะ คุณครู
ดิฉันแวะเข้ามาเยี่ยมเยียน เลือกเรื่องนี้ก็เพราะการให้เขาว่าไม่เป็นทุกข์น่ะค่ะ แต่ก็ไม่ขอ Comment ทุกอย่างเกิดขึ้นได้สำหรับมุสลิมแล้วเขาเรียกว่าเป็นการทดสอบค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณS-me
ผมเข้าไป ที่ทุ่งปรังหลายครั้ง เพื่อติดตามข่าว นิคมอุตสาหกรรม
และโรงงานปาล์ม-ไฟฟ้าชีวมวลที่หมู่ ๔
หากพี่ปริมปรางค์ ไม่ขัดข้อง ศูนย์สื่อพลเมือง ออกทุกเดือน
ยินดีลงบทความนี้ให้ครับ
หลักการของหนังสือ คือ ทำฟรี และส่งฟรีแก่ผู้สนใจทุกๆเดือน หากสนใจ
ส่งบทความมาได้ และ แจ้งความประสงค์รับหนังสือพิมพ์ได้ที่
ทรงวุฒิ เบอร์ ๐๘๓ - ๑๐๓๒๗๒๗ [email protected]
หรือ จินดา เบอร์ ๐๘๖-๙๕๒๕๒๕๘ [email protected]
หรือ เมล์สื่อ โดยตรงที่ [email protected]
หรือ มีบทความ เรื่องราวดีดี ส่งมาได้ครับ เป็นสื่อที่แจกฟรี
ในจังหวัดนครศรี และทั่วประเทศ
ยังไง เป็นกำลังใจให้คนคิดดี ทำดีครับ
ทรงวุฒิ พัฒแก้ว
บรรณาธิการ ศูนย์สื่อพลเมืองฅนคอน
สวัสดีค่ะ ศูนย์ข่าวพลเมือง ฅนคอน เกาะติดชุมชน สิทธิชุมชน สิทธิพลเมือง