ช่วงที่ผ่านมามีโอกาสได้ไปทัศนศึกษาดูงานที่เวียตนามใต้มาครับ เลยมี "เกร็ดชีวิตการเดินทาง" ที่จะนำมาเล่ามาแบ่งปันให้เพื่อน ๆ ชาวโกทูโนว์ได้อ่านกันครับ บันทึกนี้เป็นสถานที่แรกที่ได้เข้าชมคือ พิพิธภัณฑ์สงคราม ที่โฮจิมินครับ ซึ่งสถานที่นี้ผู้ร่วมเดินทางหลายท่านรู้สึกหดหู่กับภาพหลาย ๆ ภาพที่ได้แสดงไว้ครับ...
ประกอบกับคำบรรยายของไกด์ผู้เชี่ยวชาญที่ได้ถ่ายทอดเรื่องราวความเป็นมาของเวียตนามที่ต้องผ่านอะไรมาบ้างแล้วด้วย ทำให้พวกผมรู้สึกเห็นใจชนชาติเวียตนามนะครับ ที่กว่าจะได้เป็นอิสระก็ต้องผ่านการอยู่ใต้การปกครองของชนชาติต่าง ๆ มาแล้วหลายชนชาติและเป็นระยะเวลาที่ยาวนานด้วยครับ...
แต่บทเรียนจากสงครามเหล่านี้ก็ย่อมก็หล่อหลอมความเป็นคนเวียตนาม ให้รู้สึกรักและหวงแหนชาติของตน และฝึกฝนให้คนเวียตนามเป็นคนที่มีความอดทน ดังที่หลายคนมักจะมองชนชาติเวียตนามเป็นชนชาติที่มีความอดทนไม่แพ้ชาติใดในโลกนะครับ รวมถึงสตรีชาวเวียตนามด้วยที่ร่วมรบเพื่อเรียกร้องและปกป้องอธิปไตยของตนนะครับ...
สำหรับผมแล้วภาพที่เห็นในปัจจุบันของเวียตนาม ประเทศที่เคยผ่านสงครามมาอย่างยาวนาน กำลังเริ่มต้นการพัฒนาประเทศซึ่งเป็นการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ผู้คนในเวียตนามในวันนี้ที่เห็นเป็นเยาวชนและคนรุ่นใหม่ที่พร้อมเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศต่อไปนะครับ...
ร่องรอยของสงครามก็มีให้เห็นแต่เพียงในพิพิธภัณฑ์นะครับ แต่ในสังคมปัจจุบันของเวียตนาม ประเทศเพื่อนบ้านอาเซียนของเรา กับการเปิดประเทศเพื่อการพัฒนาอย่างเต็มที่ สิ่งที่ผมในวันนี้ของเวียตนามเหมือนประเทศไทยเมื่อหลายสิบปีก่อน แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นในเวียตนามในอีกหลายปีต่อไปเป็นสิ่งที่น่าสนใจนะครับ...
สวัสดีค่ะ
เปิดประตูเรื่องราว...ด้วยฉากในอดีต น่าสนใจน่าสนใจค่ะ
ว่าแต่ว่า...มีตลุยเข้าไปสู่วิถีชีวิต...ด้วยไหมคะ
แต่...หากว่าไปแล้วนะ ใจของชาวเวียดนามนี่ น่าชื่นชมอย่างมาก เป็นใจที่มีความอดทน เข้มแข็งมาก หนักเอาเบาสู้และไม่หวั่นไหว แม้แต่ชาวเวียดนามในไทยเอง ซึ่งกะปุ๋มก็มีเพื่อนหลายคน...ต้องยอมรับเรื่อง "ใจ" ของเขาเลยค่ะ แต่สำหรับนิสัยอย่างไปว่ากัน เพราะนิสัยด้านลบนั้นชาติไหนๆ ก็มีเหมือนกัน...
สวัสดีค่ะ Mr.Direct
เห็นด้วยกับบันทึกของคุณค่ะ
เข้ามาทำความรู้จักเวียตนาม ในมุมมองของคุณ Mr.Direct
ทำให้หนูรู้สึกว่า ประเทศนี้ น่าจับตาดูทีเดียวค่ะ
(^_^)
สวัสดีค่ะ คุณMr.Direct
+ สวัสดีค่ะ...
+ ไม่ได้เจอกันนานมากนะค่ะ...น้องดิเรกสบายดีนะค่ะ...
+ พี่อ๋อยตามมาเที่ยวเวียดนามด้วยคนค่ะ...
+ บทเรียนจากสงคราม...ซึ่งมาจากความต้องการของชนชั้นผู้นำจำนวนไม่กี่คน...แต่ประชาชนต้องสังเวยชีวิตเป็นล้านเป็นแสน...ทำให้เวียดนามต้องรีบพัฒนาประเทศแบบยั่งยืน...โดยให้ความสำคัญกับการศึกษามาเป็นอันดับแรก...
+ ทุกวันนี้...ไม่ว่า ข้าว กีฬา การศึกษาดูเหมือนเวียดนามกำลังไปไกลค่ะ...
+ ด้วยความคิดถึง...พี่อ๋อยเองค่ะ
ครับ...คุณนิตยา เรืองแป้น
เห็นด้วยเลยครับ...
ระบบจราจรเขาน่าสนใจจริง ๆ ครับ...
ขอบคุณมากครับ...
ครับ... คุณ noktalay
เห็นด้วยเลยครับ...
ว่าเวียตนามเป็นอีกหนึ่งประเทศที่น่าจับตามอง...
ขอบคุณมากครับ...
ครับ... พี่อ๋อย ที่นี่...บ้านควนเสม็ด
เวียตนามพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วในหลาย ๆ ด้านเลยนะครับ...
เป็นการเร่งพัฒนาประเทศหลังจากอยู่ภายใต้สงครามมานานนะครับ...
ขอบคุณครับผม...
สวัสดีค่ะ คุณดิเรกเห็นภาพของเด็กผู้หญิงที่วิ่งท่ามกลางระเบิดโดยไร้เสื้อผ้าหรือป
สวัสดีค่ะ
คุณดิเรกเห็นภาพของเด็กผู้หญิงที่วิ่งท่ามกลางระเบิดโดยไร้เสื้อผ้าหรือป่าวคะ????
เด็กผู้หญิงคนนั้น...
ปัจจุบันเธอเดินทางแบ่งปันเรื่องราวเกี่ยวกับสงครามครั้งนั้นทั่วโลก
และหนึ่งผู้ที่ให้ความช่วยเหลือเด็กผู้หญิงคนนั้น
ก้อคือซิสเตอร์โจนส์แห่งศูนย์ธารชีวิตเด็ก, ศูนย์ธารชีวิตสตรีที่พัทยา และศูนย์ธารชีวิตที่กัมพูชา
นี่คือซิสเตอร์ผู้ที่มีแต่ความรัก และความอบอุ่นให้กับผู้ที่ได้พูดคุยด้วยค่ะ
ขอบคุณค่ะ
ครับ... คุณณัชชา Natcha Chalermklang
เห็นครับ...
และทางไกด์ก็เล่าเรื่องราวของเด็กน้อยคนนั้นด้วยครับ...
ขอบคุณสำหรับภาพและเรื่องราวเพิ่มเติมนะครับ...
ดีใจครับที่มีโอกาสเห็นภาพเด็กน้อยคนนั้นตอนโต...
ขอบคุณมากครับ...
สวัสดีค่ะ
มาขออนุญาตนำ Print เรื่องราวนี้ไปให้คุณยายโจนส์(Joan) อ่านนะคะ เพราะได้เล่าให้คุณยายฟังนานแล้ว ว่าเพื่อนในเน็ตไปเที่ยวที่เวียดนามแล้วได้ถ่ายทอดเรื่องราวลงในเน็ต คุณยายบอกว่านำมาให้คุณยายอ่านได้มั๊ยคะ ได้ตอบคุณยายไปว่า "ได้ค่ะ" แต่นู๋ต้องขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อน แล้วก้อลืมไปเลยค่ะ เพิ่งจะนึกได้ ก้อเลยมาขออนุญาต นะคะ
ขอบคุณค่ะ