นมัสเต ครับท่าน...ไม่นึกว่าจะพบกันที่ อัมพวา(สมุทรสงคราม ตอนที่๑)


ข้อเขียนท่าน เสมือนหนึ่งแผนที่และเข็มทิศ ในยามที่ชีวิตต้องมาพบกับทางแยก

ขับรถตามเส้นทางสาย ๓๕ จากกรุงเทพไม่นาน ผ่านนาเกลือที่อยู่ตามข้างทาง พอถึงหลักกิโลเมตรที่ ๖๓ เลี้ยวขวา มุ่งหน้าสู่จังหวัดสมุทรสงคราม จังหวัดที่ร่ำรวยด้วยวัฒนธรรม สถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และวัดวาอารามโบราณมากมาย

ผมและครอบครัว เราใช้วันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมากันที่ อัมพวา โดยเข้าพักที่โฮมสเตย์ บ้านครูปู โฮมสเตย์บรรยากาศดีริมคลอง บริการอย่างเป็นกันเอง เราตั้งใจจะท่องเที่ยวตามสถานที่สำคัญที่มีอยู่มากมาย กระจายอยู่ทั่วบริเวณนี้ รวมถึง ตลาดน้ำอันเลื่องชื่อ อย่าง ตลาดน้ำอัมพวา


บรรยากาศคลองยามเช้าหน้าโฮมสเตย์บ้านครูปู

ทุกวันเสาร์ อาทิตย์ ตลาดน้ำแห่งนี้จะคราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวจากต่างถิ่น ผู้โหยหาบรรยากาศการค้าทางน้ำแบบโบราณ ที่ปัจจุบันแทบจะเหลือให้เห็นไม่กี่ที่ บรรยากาศของบ้านไม้เก่าๆริมน้ำ กับ ความแออัดคับคั่งของเรือขายอาหาร ขายผลไม้ เป็นเสน่ห์ตรึงตาตรึงใจ ให้ผู้พบเห็นยากที่จะลืมเลือน

คลื่นมหาชนดันผมจนข้ามมายังอีฟากของสะพาน ผมแทบจะหยุดเดินไม่ได้ ด้วยแรงผลักหนุนจากด้านหลัง ทำให้ผมต้องขยับไปข้างหน้าเรื่อยๆ มือหนึ่งประคองกล้องถ่ายรูปไว้ อีกมือก็จับกระเป๋ากล้องวีดีโอ ส่วนภรรยาผม เธอต้องอุ้มเจ้าเฟวา ลูกสาวตัวน้อย ก็ทุลักทุเลไมแพ้กัน


คลื่นมหาชนที่ตลาดน้ำอัมพวา


เรือขายอาหารจอดบริการนักท่องเที่ยว


เรือขายส้มเช้งจากสวนดำเนิน

พอลงพ้นจากสะพานได้ ผมเดินเลี้ยวซ้ายเพื่อจะเดินไปตามทางขนานกับคลองที่มุ่งลงสู่แม่น้ำในเบื้องหน้า โดยหวังจะเก็บภาพบรรยากาศความเวิ้งว้างของลำน้ำแม่กลอง ตลอดสองข้างทางเดินแคบๆ มีร้านค้าเรียงรายอยู่มากมาย ฝั่งบนบก เป็นร้านขายของกิน ของที่ระลึก เสื้อผ้า ส่วนฝั่งในคลอง เป็นเรือขายอาหาร ขายผลไม้ และเรือทัวร์คอยบริการนักท่องเที่ยว

เสียงภรรยาผมเรียกให้หยุดหน้าร้านขายของร้านหนึ่ง เห็นชื่อร้านแล้วไม่ธรรมดา "ที่อยู่ของจิตใจ" ภายในร้านมีภาพถ่าย ภาพวาด สวยๆ กรอบรูปไม้เก๋ๆ หนังสือ และเสื้อผ้า ไว้จำหน่ายนักท่องเที่ยว ภรรยาผมเธอสนใจเสื้อผ้าจึงฝากเจ้าลูกสาวจอมซนไว้กับผม ผมเองก็สนใจรูปถ่ายที่ขายอยู่ในร้านเช่นกัน เป็นภาพถ่ายที่มีข้อความสั้นแฝงอยู่ อ่านแล้วได้อารมณ์ความรู้สึกคล้อยตามภาพจริงๆ


แค่ชื่อร้านก็น่าค้นหาแล้ว


ภาพนี้ดูแล้วรู้สึกสงบแบบเหงาๆ "สุดท้ายชีวิต ต้องการแค่นั่งพัก"


"ดูแลจิตใจตนด้วยสติ ที่ปราศจาก โลภ โกรธ หลง เท่ากับเป็นการดูแลโลกและสังคม" วันนี้คุณดูแลจิตใจตนเองหรือยัง? ข้อความที่ปรากฎบนผนังในร้าน

ด้วยความซุกซนตามประสาเด็ก เจ้าลูกสาวจอมซนของผม เริ่มบรรเลงการรื้อค้น หยิบโน่น ดึงนี่ ผมเกรงว่าสินค้าของร้านจะได้รับความเสียหาย จึงต้องรีบเอ่ยปากห้ามปราม แต่ทันใดนั้น สิ่งที่เจ้าเฟวาดึงออกมาจากชั้น มันคือดีวีดี ที่หน้าปกเป็นรูป กฤษณมูรติ..."กฤษณมูรติ จริงๆด้วย นมัสเต ครับท่าน...ไม่นึกว่าจะพบกันที่ อัมพวา"ผมคิดในใจ

นมัสเต ครับท่าน...ไม่นึกว่าจะพบกันที่ อัมพวา

 

ความรู้สึกเก่าๆในอดีตไหลบ่ามาท่วมท้นความรู้สึกในปัจจุบัน ความทรงจำที่งดงาม จากหนังสือของท่านเล่มเดียวที่ผมเคยอ่าน "แด่หนุ่มสาว" ข้อเขียนอันเป็นเสมือนหนึ่งแผนที่ เข็มทิศ ในยามที่ชีวิตของนิสิตหนุ่มคนหนึ่งต้องมาถึงทางแยก


ทรรศนะของกฤษณะมูรติต่อระบบการศึกษา

บนชั้นวางมีหนังสือและดีวีดี งานของท่านกฤษณมูรติ อยู่หลายชิ้น ผมพิจรณาอยู่พักใหญ่ จนสุดท้ายได้ "Does Free Will Exist?" เป็นดีวีดีบันทึกการสนทนาแลกเปลี่ยทรรศของท่าน กับปราชญ์ทางพุทธศาสนา และหนังสือชื่อ "สมองใหม่ Ending of Time" บันทึกสนทนาของท่านกับ ศ.ดร.เดวิด โบฮ์ม อัจฉริยะนักฟิสิกส์ ส่วนภรรยาผมได้เสื้อสวยๆมาหนึ่งตัว

ท่านเจ้าของร้าน ยังได้แนะนำผมให้รู้จักกับสถานที่หนึ่ง ชื่อว่า "สวนต้นน้ำ" สถานที่สัปปายะ ท่ามกลางธรรมชาติป่าเขา ห่างจากหาดใหญ่ประมาณ ๓๙ กิโลเมตร เป็นสถานที่เหมาะแก่การพักผ่อนทั้งทางกายและทางใจ มีห้องหนังสือที่รวบรวมงานของ กฤษณมูรติ ไว้ให้ผู้สนใจได้ศึกษา มีการจัดกิจกรรมและการเสวนาแลกเปลี่ยนทรรศนะกันทุกปี ดำเนินงานโดย มูลนิธิอันวีกษณา ที่ไม่มุ่งหวังกำไร ไม่สังกัดนิกาย ไม่ใช่ความเชื่อทางศาสนาใด เป็นสถานที่ที่น่าสนในที่หนึ่ง ซึ่งผมคงต้องหาโอกาสไปเยี่ยมเยือนสักครา


กิจกรรมที่สวนต้นน้ำ

แผ่นพับสวนต้นน้ำ

กฤษณมูรติ (พ.ศ.๒๔๓๘-๒๕๒๙) ปราชญ์และนักคิดอิสระ ผู้เป็นที่เคารพนับถือที่สุดผู้หนึ่งของโลก ในฐานะของครูทางจิตวิญญาณผู้ร่วมยุคสมัย สิ่งที่ท่านสนใจคือ การปลดปล่อยมนุษย์ให้เป็นอิสระปราศจากเงื่อนไขใดๆอย่างสิ้นเชิง

เป็นเวลากว่า ๗๐ ปีที่กฤษณมูรติได้เดินทางพบปะสนทนากับผู้ที่สนใจค้นหาและเรียนรู้ร่วมกันด้วยหัวใจที่เปิดกว้างเป็นอิสระจากอดีต เพื่อทำความเข้าใจปัญหาและปัจจัยต่างๆที่เป็นอิทธิพลหล่อหลอมและกำหนดชีวิตเราอยู่ทั้งภายในจิตใจและภายนอก เพราะที่สุดแล้ว เราคือโลก สังคมโลกคือสภาพที่เราแต่ละคนร่วมกันสร้างขึ้น ฉะนั้นจากความเข้าใจในตนเองอย่างลึกซึ้ง อาจนำไปสู่สังคมที่มีความรัก ความเมตตา มีมนุษยธรรมและความรู้สึกรับผิดชอบ

กฤษณมูรติลาโลกไปเมื่อ พ.ศ.๒๕๒๙ รวมอายุ ๙๑ ปี โดยทิ้งคำสนอที่เกิดจากการหยั่งเห็นอันยิ่งใหญ่ ซึ่งช่วยปลุกให้เราตื่นจากความหลับใหลและกลับสู่แก่นแท้แห่งการดำรงชีวิตที่เปี่ยมด้วยสติปัญญาและความเบิกบาน

 

เราพากันเดินถือของพะรุงพะรัง กระเตงลูกออกจากตลาด มาเที่ยวตลาดน้ำอัมพวา สมุทรสงคราม คราวนี้คุ้มค่าจริงๆ นอกจากจะได้ชมวิถีชีวิตริมน้ำ อิ่มอร่อยกับอาหารเลิศรส แล้วยังได้ปัญญาติดตัวกลับบ้านอีก ทำให้ผมนึกถึงสโลแกนเก่าๆของการท่องเที่ยว "เที่ยวเมืองไทย ไม่ไปไม่รู้"... จริงอย่างท่านว่าทุกประการครับ

 

หมายเลขบันทึก: 330035เขียนเมื่อ 22 มกราคม 2010 11:51 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:16 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท