Baby
นางสาว อังสินี ฤทธิภักดี

<º))))><ราชาแห่งปลาเค็ม><((((º>


"เพราะฉันอยากกิน....ฉันจึงเขียนเรื่องนี้"

ปลากุเลาเค็ม เป็นอาหารและสินค้าที่ขึ้นชื่อของอำเภอตากใบ จ.นราธิวาส คนตากใบมักจะพูดเล่นๆ กันว่า เป็นปลาที่ “คนกินไม่ได้ซื้อ คนซื้อไม่ได้กิน เนื่องด้วยปลากุเลาเค็มมีราคาแพง จึงมักจะถูกซื้อหาไปเป็นของกำนัลผู้หลักผู้ใหญ่ หรือผู้บังคับบัญชามากกว่าที่จะซื้อหามาทานเอง ขนาดราคาแพงเวลาจะซื้อต้องจองกันเลยทีเดียว

ปลากุเลาเค็ม

ปลากุเลาเป็นปลาเนื้อละเอียด เมื่อนำมาทำเค็มจะอร่อยมาก ดังนั้นปลากุเลาเค็มจึงได้ชื่อว่า "ราชาแห่งปลาเค็ม" ค่ะ

ปลากุเลาสด

มาดูวิธีการทำปลากุเลาเค็ม กันนะคะ

1. นำปลากุเลาไปควักไส้ และล้างให้สะอาด ปลากุเลาจะต้องสดขึ้นจากน้ำมาใหม่ ๆ ถ้าใช้ปลาแช่น้ำแข็งจะไม่อร่อยค่ะ ตรงนี้แหละคือเคล็ดลับความอร่อยค่ะ เพราะปลากุเลาตากใบจะไม่ใช้ปลาแช่น้ำแข็งมาทำค่ะ

2. ใส่เกลือเม็ดในท้องปลากุเลา และนำปลามาหมักในเกลือเม็ด โดยใส่ภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด

3. หมักปลาไว้ให้ได้ที่ แล้วนำมาล้างเกลือออก

4. ห่อหัวปลาด้วยกระดาษขาว ผูกเชือกที่หางปลาแล้วนำไปแขวนตากแดด (แขวนแบบเอาหัวลง)

ตากปลากุเลา

5. ตอนเย็นเก็บปลามาแล้วเช็ดเกล็ดปลาที่อาจจะมีสีดำ หรือสิ่งที่ไม่ต้องการออก

6. นำปลามาวางเรียงกันแล้วใช้ไม้หรือหินที่มีน้ำหนักพอสมควรทับตัวปลาไว้ (แต่อย่าให้ไม้มีน้ำหนักมาก เพราะเนื้อปลาจะเละ)

7. ตอนเช้าเปลี่ยนกระดาษที่หอหัวปลา และนำปลาไปตากแดดอีก ทำเช่นนี้จนกว่าปลาจะแห้งได้ที่ ประมาณ 4 - 5 วัน

หลังจากนั้นก็นำไปประกอบอาหารเพื่อรับประทานได้ ขณะนี้ราคาปลากุเลาเค็มอำเภอตากใบ ประมาณกิโลละ 800 – 900 บาท ค่ะ

บี๋เป็นคนตากใบโดยกำเนิด ถ้าถามว่าปลากุเลาเจ้าไหนอร่อย? ขอบอกว่าเจ้า อาม่า ค่ะ เพราะที่บ้านถ้าอยากกินปลากุเลาอาม่าจะเป็นคนทำเอง อร่อย สด สะอาด เมื่อทำเสร็จแล้วก็จะแจกจ่ายไปให้ญาติๆที่อยู่ต่างจังหวัดรวมทั้งต่างประเทศได้ลิ้มรสด้วย เพราะทุกคนต่างก็เป็นแฟนพันธ์แท้ปลากุเลาเค็มของอาม่า  ปลากุเลาเค็มเมื่อแห้งดีแล้วสามารถเก็บไว้ได้นานเป็นปี โดยห่อด้วยกระดาษขาว แล้วนำไปใส่กล่องถนอมอาหารหลังจากนั้นก็นำไปแช่ในช่องแช่แข็ง เมื่อต้องการทานก็นำออกมาทอด รสชาติจะยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงค่ะ อาม่าของบี๋เป็นคนที่ทำอาหารไม่เป็นเลย แต่ทำปลากุเลาเค็มและหอยเสียบดองซีอิ้ว อร่อยที่สุดในโลกเลยค่ะ :-p

ระหว่างที่นั่งเล่นคอมฯอย่างเพลินๆ อยู่ๆก็เกิดหิวข้าว อยากกินข้าวกับปลากุเลาเค็มตากใบขึ้นมาซะงั้น:-) เลยทำให้อยากเขียนถึงเรื่องปลากุเลาเค็มที่ตัวเองอยากกินค่ะ ตอนนี้ก็เขียนเสร็จแล้วขอตัวไปทอดปลากุเลาก่อนนะคะ เวลาทอดปลากุเลาเค็มกลิ่นจะหอมไป 5 บ้าน 10 บ้านเลยหล่ะค่ะ เมื่อทอดเสร็จนำมาคลุกข้าวสวยร้อนๆ บีบมะนาวนิด ซอยหอมแดง และพริกขี้หนูสีเขียวเพื่อเพิ่มความหอมหน่อย อร่อยจนฝันถึงเลยค่ะ... ^-^

หมายเลขบันทึก: 329548เขียนเมื่อ 20 มกราคม 2010 19:48 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:16 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

สวัสดีครับคุณ Baby

หิวเลยแวะมากินข้าวหอมมะลิใหม่ร้อนๆ

กับปลากุเลาเค็ม จิ้มน้ำส้มสายชูผสมน้ำตาลนิด พริกขี้หนูหน่อย หร่อยแรง

ขอขอบพระคุณครับสำหรับวิธีทำปลากุเลาเค็ม

วันหลังจะแวะมาใหม่

มือยังติดกลิ่นปลาเค็มอยู่เลย อิ.อิ.

สวัสดีค่ะ...คุณชาวฝนแปดแดดสี่

ขอบคุณมากนะคะที่แวะเข้ามาเยี่ยมและแบ่งปันสูตรน้ำจิ้มปลากุเลาค่ะ

ก่อนนอนอย่าลืมล้างมือให้สะอาดนะคะ เดี๋ยวคนข้างๆได้กลิ่นปลาเค็มแล้วจะพาลนอนไม่หลับ เพราะท้องร้องค่ะ :-)

อยู่กทม.อยากทาน เจ้านายก็อยากทาน

หาซื้อได้ที่ไหนค่ะ

ด่วนเลย

สวัสดีค่ะ..คุณ nunu

ที่ตากใบมีปลากุเลาเค็มขายอยู่หลายเจ้า เจ้าที่ดังที่สุด คือเจ้าป้านงเยาว์ วัฒนชนม์ ซึ่งปัจจุบันได้เลิกทำแล้ว เนื่องจากอายุมากและไม่มีใครสืบทอดกิจการ ดังนั้น ยังมีอีกหลายเจ้าค่ะ ที่อร่อยเช่นกัน แต่ที่พอจะหาเบอร์ได้มีดังนี้ค่ะ

1. ปลากุเลา ป้าเอง โทร 073-581145

2. ปลากุเลาร้านยูงทอง โทร 073-581141 (ญาติเจ้าของร้านทำขายค่ะ สามารถสั่งได้ที่ร้าน)

3. ปลากุเลาร้านแสงงาม โทร 073-581004

ลองโทรไปสอบถามดูนะคะ

ตอนนี้ ลูกชายป้านงเยาว์ได้ มาทำต่อแล้วค่ะ โดยทำตามสูตรเดิมเลย ลองโทรติดต่อดูนะคะ รับรองรสชาติ เหมือนเดิมไม่เปลี่ยน

เพราะ ลองมาแล้วค่ะ แต่อาจต้องรอคิวนานหน่อยนะคะ เพราะ กว่าจะได้ทาน รอนานกันเลยทีเดียว

เบอร์ติดต่อ 086-964-9820

yingkul

ขอบคุณมากนะคะที่มา Update ข้อมูลให้ค่ะ ^-^

ดีจัง จะได้ทานปลาอร่อยๆอีกแล้ว เสียดายถ้าต้องเลิกกิจการค่ะ

ปลากุเลาย่าเยาว์อร่อยจิงๆๆ เราเป็นหลานย่าแท้ๆเลย :)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท