การนำนักเรียนไปจัดกิจกรรมค่ายของโครงการศิลป์ของครูภาทิพในครั้งนี้ ครูภาทิพมีความบกพร่องมากมาย เริ่มตั้งแต่ ลืมโทรศัพท์ไปเตือนเวลานัดหมายกับเจ้าของรถ มานึกได้ก็ตอนที่จะถึงเวลารถออก แต่รถยังไม่มาเลย ต้องโทรหาผู้ประสานงานในกลางดึกของคืนนั้น เพื่อปลุกเจ้าของรถ เสียเวลาไปเกือบหนึ่งชั่วโมง นั่นคือข้อบกพร่องที่พบในเวลานั้น เมื่อเดินทางมาถึง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ขณะที่เจ้าของรถกำลังหาเส้นทางไปวัดขนอน ครูภาทิพจึงนึกได้อีกว่า ลืมนำหมายเลขโทรศัพท์ของวัดขนอนมา เพื่อจะได้ติดต่อสอบถามเส้นทาง เจ้าของรถจึงใช้วิธีการของหอย คือใช้ปากพาไปจนถึงที่หมาย
เมื่อรถจอดที่บริเวณจอดรถของวัด มีรถทัศนศึกษาจำนวน ๔ คันกำลังจะเคลื่อนออก หันไปมองยังโรงแสดงหนังใหญ่ประตูทุกบานปิดสนิท จึงเข้าไปแจ้งพระภิกษุรูปหนึ่งว่าคณะของเรามาชมหนังใหญ่ตามหนังสือที่ได้แจ้งมา พระภิกษุรูปนั้นพาไปพบเจ้าอาวาส เจ้าอาวาสยืนอยู่ที่กระดานบันทึกรายการผู้ขอเยี่ยมชม ในวันที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๕๓ ไม่มีรายการขอมา ทั้งๆที่น้องที่โรงเรียนแจ้งว่า ได้ส่งโทรสารมาเรียบร้อยแล้ว นี่คือบกพร่องต่อมาคือลืมโทรศัพท์มายืนยันการเข้าชม ก็บอกท่านเจ้าอาวาสว่า เรามาไกลและตั้งใจมาชมโดยเฉพาะเลย ระหว่างนี้จะพาเด็กไปชมพิพิธภัณฑ์ก่อน แต่ในใจนั้นไม่มีความสุขรู้สึกผิดต่อความบกพร่องในหน้าที่ และกังวลต่อความรู้สึกของเด็ก
เด็กๆ ที่นั่งหลับมาในรถเกือบครึ่งคืนก็ยังมีอาการง่วงนอนและความไม่พร้อมให้เห็นอยู่ แต่พวกเขาก็ลุกไปชมพิพิธภัณฑ์อย่างเสียไม่ได้ ชั่วระยะเวลาไม่ถึง ๑๐ นาที ก็มีจักรยานของเด็กเล็กๆ ทั้งหญิงและชายปั่นเข้ามาที่หอแสดงหนังใหญ่ เสียงเปิดประตูโครมคราม เสียงเอะอะโวย โขมงโฉงเฉง ลั่นไป และก็มีรุ่นพี่ๆ ของเด็กเดินมาหน้าตางัวเงีย ใจยิ่งสั่นหวาดหวั่นว่า ตายแน่กิจกรรมแรกเด็กก็คงจะเบื่อเสียแล้ว เมื่อเด็กเดินดูพิพิธภัณฑ์เสร็จแล้ว และเห็นว่าหอแสดงหนังใหญ่เปิด ก็บอกเด็กมานั่งที่นี่ ระหว่างรอ ก็เห็นความเคลื่อนไหวทุกอย่างเป็นไปอย่างรวดเร็ว เห็นภาพการแต่งตัวด้านไหน สิ่งที่รวดเร็วที่สุดเห็นจะเป็นดนตรีไทยที่โหมโรงก่อนเลย เหมือนจะบอกว่าพวกเราพร้อมเสมอนะ ครูภาทิพก็ลองสังเกตสีหน้าของนักเรียนดูว่ามีอาการเบื่อหน่ายหรือไม่ ยังไม่เห็น เห็นแต่อาการสนใจใคร่รู้ สักพัก พิธีกรก็บอกว่า ขณะนี้ผู้แสดงกำลังจะไหว้ครู ก็เห็นควันธูปฟุ้งพร้อมเสียงนะโม ตามด้วยบทไหว้ครูดังเป็นจังหวะ ก็ดูขลังดี
จากนั้นพวกเขาก็เริ่มนำเสนอ โดยเริ่มจาก การฝึกหัดเล่นหนังใหญ่ ว่าต้องฝึกอย่างไร ท่าแต่ละท่าคืออะไร มีความ หมายอย่างไร ซึ่งปีก่อนโน้นที่ครูภาทิพมาไม่มีกิจกรรมนี้ ผู้สาธิตเป็นเด็กรุ่นเล็ก ที่ครูภาทิพเห็นปั่นจักยานเข้ามาเมื่อกี๊นี่เอง พวกเขาสาธิตอย่างคล่องแคล่วตั้งใจ ไม่มีอาการให้เห็นว่า ไม่พร้อมให้เห็นเลย ในตอนสาธิตครูภาทิพก็จะจ้องอยู่กับเจ้าหนุ่มน้อยผิวเข้มที่สีหน้าเขาขึงขังจริงจังมาก ครูภาทิพติดใจเด็กคนนี้ตั้งแต่มาดูครั้งก่อน คิดในใจว่าเด็กคนนี้อนาคตต้องเป็นดาวของที่นี่แน่ มีลักษณะการเอาจริงเอาจัง มุ่งมั่น ที่แตกต่างจากคนอื่นอย่างเห็นได้ชัด
เจ้าหนูที่เป็นผู้สาธิตการถูกดัดขาด้านขวามือนี่ล่ะ พระเอกของครูภาทิพ
ด้านบน นี่ท่าโก่งศร
ต่อมาผู้พากย์ก็เริ่มเล่าความเป็นมาของหนังใหญ่และปูพื้นเรื่องรามเกียรติ์ก่อนถึงตอนที่จะแสดง ซึ่งตอนที่แสดงนี้คือหนุมานถวายแหวน การแสดงครั้งนี้มีดาราใหม่เจ้าหนูน้อยเพิ่มมาอีกคนหนึ่งน่าจะอยู่ประมาณ ป.๑ หรือ ป.๒ ถือลิงเล็ก ยัง เก้ๆ กังๆ มองคนโน้นคนนี้อยู่ แต่ก็เห็นถึงความตั้งใจ ฝ่ายรุ่นพี่ ๑๖ -๒๐ นั่นเป็นตัวดึงดูดใจในด้านลีลาท่าเต้น ความแข็งแร็งของท่วงท่า สิ่งที่ครูภาทิพประทับใจมากคือ เมื่อถึงเวลาแสดง พวกเขาไม่เหลือร่องรอยความไม่พร้อม ความไม่รู้ตัวล่วงหน้ามาก่อน ที่เขาแสดงออกมา ก่อนเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เห็นเลย ทุกคนเต็มที่กับมัน เต็มที่จนนักเรียนที่มา ซึ่งเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่หลงใหลดาราเกาหลี เทใจให้ ยกย่องชื่นชม ซึ่งสังเกตได้จากสีหน้าขณะชมและผลงานการเขียนของพวกเขา
ที่ถือลิงเล็กนี่ล่ะ ดาราคนใหม่
ออกมาขอบคุณผู้ชม
ครูภาทิพเว้นการดูหนังใหญ่ไปเพียงปีเดียวแต่ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่พัฒนาของหนังใหญ่ที่วัดขนอนไปมากมาย เริ่มตั้งแต่ มีการสาธิตขั้นตอนการฝึก ให้ความรู้เรื่องท่าทางและความหมาย บอกจังหวะดนตรีไทยที่ใช้ในการดำเนินเรื่องแต่ละช่วงให้ฟัง เดินเรื่องรวดเร็ว ทั้งใช้เวลาการแสดงเพียง ๓๐ นาที ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่พอเหมาะพอดีสำหรับเด็กวัยรุ่นในยุคนี้ ทำให้ไม่มีช่วงเวลาใดที่เบื่อเลย
ที่นั่งซ้อนท้ายคือเจ้าหนูดาราใหม่
เมื่อการแสดงจบปุ๊บ เด็กๆเหล่านั้นก็เปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว และพุ่งลิ่วไปพร้อมจักรยานคู่ชีพ ส่วนรุ่นพี่ก็ไปนำอาหารจากพระลงมาจัดให้น้องๆ และทีมงานรับประทานกัน ดูแล้วน่ารักน่าชื่นชมมาก ๆ
หนุ่มผิวเข้มตัวเล็ก คือพระเอกของครูภาทิพ
พระเอกคนนี้ ก่อนขึ้นเวลาทีมาในสภาพของคนที่ถูกปลุกจากที่นอน แต่เมื่อถึงเวลาแสดง ไม่เหลือร่องรอยให้เห็น
ในความบกพร่องของครูภาทิพที่ไม่ได้ติดต่อยืนยันมายังวัดขนอนถึงกำหนดการมาชม ทำให้เกือบจะอดชมหนังใหญ่ และทำให้พวกเขาต้องต้องรีบตามสมาชิกกันอย่างจ้าละหวั่น แต่ในวิกฤตนี้กลับทำให้ครูภาทิพได้เห็นความน่ารักงดงามของพวกเขา เห็นว่าเขานั้นเป็นผู้สืบต่อลมหายใจที่ใสสะอาด เป็นลมหายใจที่ไม่ติดขัด มีความพร้อมตลอดเวลาแม้ในภาวะที่ไม่รู้ตัวมาก่อน และขณะที่แสดงพวกเขาไม่ทรยศต่อการสืบต่อลมหายใจของหนังใหญ่เลย พวกเขาเต็มร้อยกับมัน เต็มที่กับมัน เต็มที่จนไม่เห็นข้อบกพร่องของครูภาทิพที่ลืมติดต่อประสานงานยืนยัน ทุกภาพที่เห็นล้วนเป็นภาพประทับใจ