ได้มีโอกาสไปร่วมงานงาน HR knowledge Sharing ครั้งที่ 6ในหัวข้อ Encourage People in Challenging Time เตรียมพลัง ฝ่าวิกฤติ เตรียมองค์การสู่อนาคต ที่จัดโดยสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติเมื่อ 14 ม.ค.53 นับว่าคุ้มค่าและมีโยชน์จริง จึงขอนำแนวคิดดี ๆ ที่ได้รับมาแลกเปลี่ยนแบ่งปัน แบบสรุป ๆ ดังนี้
(ฉบับเต็มประมาณ 13 หน้า A4 อยู่ที่ http://gotoknow.org/file/nairua85/HRknowledgesharing6.pdf)
1. ข้อคิดจากการกล่าวเปิดของ ดร.พานิช เหล่าศิริรัตน์ ผอ.สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ
- ก่อนที่จะดำเนินกิจกรรม HR ต่าง ๆ จำเป็นต้องประเมินขีดความสามารถของบุคลากรก่อน ซึ่งการประเมินขีดความสามารถดังกล่าว จะขึ้นกับปัจจัยหลายประการ ตัวอย่างเช่น เพศ อายุ และระยะทางใกล้-ไกลจากบ้านถึงที่ทำงาน เป็นต้น
- หน้าที่ของ HR คือ จะต้องสร้างบรรยากาศในการทำงานให้บุคลากรของคุณสามารถแสดงขีดความสามารถในการทำงานให้สูงที่สุดให้ได้
2. การบรรยายของรองศาสตราจารย์ ไว จามรมาน ผอ.สถาบันทรัพยากรมนุษย์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- เราต้องสร้างคนก่อนสร้างระบบคุณภาพเสมอ
- มีความต้องการภาวะผู้นำในรูปแบบใหม่ ซึ่งต้องยอมรับว่าการนำโดยการทำตัวให้เป็นตัวอย่างนั้น หายากจริง ๆ
- งาน Encouragement (กระตุ้นพลังบุคลากร)ไม่ใช่เรื่องเทคนิคแต่เป็นเรื่องจิตวิทยา เป็นพันธะสัญญาระหว่างคนในองค์การกับระบบขององค์การ องค์การต้องมีแผน ต้องเปลี่ยนแปลงบางสิ่งบางอย่างใหม่ มีหลายเทคนิคที่ต้องใช้ ท้ายที่สุดคนดีเหล่านั้น จะสร้างผลผลิตที่ดีให้องค์การ
- งานการจัดการผลการปฏิบัติงาน (performance management) ไม่ได้ประเมินผลงานอย่างเดียว แต่ต้องประเมินคุณธรรมด้วย โดยต้องมีองค์ประกอบให้ครบทั้ง 3 ด้าน คือ คุณธรรม ความเก่ง และผลงาน
- Cooperate HR Responsibility การสร้างคนดีเป็นหน้าที่สำคัญที่สุดขององค์การ ที่จะก่อให้เกิดการสร้างงานที่ยิ่งใหญ่และมีคุณค่าต่อมนุษยชาติ
3. บทสรุปจาก คุณพูนธนา มุกสิกบุญเลิศ จาก บริษัท ซีพี ออลส์ จำกัด มหาชน
- การสร้างบุคลากร จะต้องสร้างทัศนคติก่อนแล้วค่อยสร้างทักษะ
4. บทสรุปจาก คุณพงษ์เดช ศรีวชิรประดิษฐ์ จาก บริษัท ฮอนด้ามอเตอร์ จำกัด
- ปัญหาคือเราตีค่าของเงินเดือนตามจากคุณวุฒิ เช่น ปวช.อาจะได้ 5,000 บาท ปวส. 7,000 บาท ปริญญาตรี 10,000 บาท ทำให้คนอยากเรียนแต่ระดับปริญญา เพื่อให้ได้เงินมาก
- แต่ในมุมของผู้ว่าจ้างจริง ๆ แล้ว ก็ยังไม่รู้ว่า ที่จ่ายเงินเดือนไปตามคุณวุฒินั้น เราได้ผลงานจากพนักงานคุ้มหรือไม่
- ปัจจุบันองค์การส่วนใหญ่มักจะไม่เคยสนใจคนทำงานว่าเขารู้สึกอย่างไร
- HR บางที่ทำงานตามที่ผู้บริหารสั่ง โดยไม่ได้ติดตามความเป็นไปทางธุรกิจขององค์การ จะมี HR กี่คนที่รู้ผลประกอบการขององค์การ รู้ ROI (Return on Investment : อัตราส่วนผลตอบแทนของการลงทุน) and ROE (Return on Equity : อัตราส่วนผลตอบแทนของผู้ถือหุ้น)
5. บทสรุปจาก คุณบัณฑิต หิรัญวัฒนกุล ที่ปรึกษาอาวุโส บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน)
- ให้คำจำกัดความของ Encourage อย่าง่าย ๆ ว่า การสร้างความฮึกเหิม
- ให้คำจำกัดความของ Business ว่าเป็นการสร้างคุณค่าให้องค์การเพิ่มขึ้น ไม่จำเป็นต้องเน้นว่าเป็นการทำธุรกิจเสมอไป
6. บทสรุปจาก คุณชฎาวรรณ ตังคะเกตุ จาก ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) จำกัด (มหาชน)
- เรื่องเล่า classic เกี่ยวกับ HR คือ ครั้งหนึ่งประธานาธิบดี Kanedy เดินทางไปที่องค์การนาซ่า ได้ถามพนักงานทำความสะอาดคนหนึ่งว่า เธอทำอะไรอยู่ที่นี่ พนักงานทำความสะอาดคนนั้นตอบว่า “ผมทำงานเพื่อช่วยส่งจรวดไปดวงจันทร์ครับ” แสดงให้เห็นถึงความผูกพันของคนที่มีต่อองค์การ
7. การบรรยายเรื่อง Encourage People in the challenging time : “Inspire and Support” โดย อาจารย์ อภิวุฒิ พิมลแสงสุริยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออคิด สลิงชอท จำกัด
- ภายหลังจากวิกฤติจะมี มีคนย้ายจากองค์กรมากขึ้น กรณีนี้แทนที่เราจะสนใจอัตราการย้ายออก (turned over rate) ควรหันไปสนใจว่าคนอยากให้ออกอยู่กี่คน คนอยากให้อยู่แต่กลับลาออกมีกี่คน การสูญเสียคนที่ต้องการ (regretted loss) จึงเป็นคำที่เกิดขึ้นใหม่แทน turned over rate สรุปง่าย ๆ คือถ้าเสียเขา เราก็เสียใจ
- จริง ๆ แล้ว สหภาพแรงงาน คือ ผลลัพธ์จากการที่ผู้บริหารและพนักงานมีความรู้สึกไม่ไว้วางใจกัน ดังนั้นการแก้ปัญหาสหภาพจึงเป็นการแก้ปัญหาเรื่องความไว้วางใจ ทั้งนี้การสื่อสารในองค์กรนับเป็นปัจจัยสำคัญ
- คนเราเข้าทำงานเพราะองค์การ ลาออกเพราะผู้บริหาร
- เราไม่ค่อยพัฒนาจุดแข็งของคน เรามุ่งแต่จะพัฒนาจุดอ่อนของคน ซึ่งการพัฒนาจุดแข็ง อาจทำให้เขาได้ไปไกลกว่าที่เป็นอ่อน รวมทั้งช่วยป้องกันไม่ให้เขาตกไปอยู่ในภาวะที่เป็นจุดอ่อนของเขา การแก้ไขโดยพัฒนาจุดอ่อนอาจสู้การพัฒนาจุดแข็ง เพื่อไม่ให้คนตกไปอยู่ในจุดอ่อนไม่ได้
- องค์การที่ดีจะไม่ได้ดูแลบุคลากรเฉพาะเรื่องการทำงาน งานแต่จะดูแลบุคลากรในฐานะ 1 ชีวิต
- คนไทยส่วนใหญ่พูดกับคนใกล้ตัว ดีน้อยกว่าคนไกลตัว
- การใช้ตัวชี้วัดผลการปฏิบัติงาน (KPI) หากนำมาใช้อย่างไม่ถูกต้อง จะนำมาสู่ความล่มสลายของการทำงานเป็นทีม ความเป็นเพื่อนจะลดลง ทุกคนจะเอาแต่ตัวเอง (รอด) ก่อน
- การให้รางวัลเท่ากัน เนื่องจากการกลัวความแตกแยก อาจจะสูญเสียคนเก่งไป การให้รางวัลตามความสามารถ อาจเกิดความแตกแยก แต่คนที่จะไปจากองค์การคือคนไม่เก่ง
สั้น ๆ เท่านี้ก่อนนะครับ แบเต็ม ๆ อ่านได้ตามลิงค์ข้างบน
ไม่มีความเห็น