มารู้จักการใช้วิตามินซีกันเถอะ


วิตามินซี

ประเทศไทยเราตั้งอยู่ในบริเวณเขตร้อนเหมาะแก่การทำเกษตรกรรมเป็นอย่างยิ่ง ด้วยเพราะตำแหน่งที่ตั้งของประเทศจะได้รับแสงแดดตลอดทั้งปี ด้วยความได้เปรียบของตำแหน่งที่ตั้งบนโลกใบนี้ของประเทศไทย ทำให้คนไทยมีพืชผักผลไม้ไว้รับประทานได้ตลอดไปและมีความหลากชนิดหลายพันธุ์ผักผลไม้ไว้รับประทาน

 

รูปจาก http://www.liv.ac.uk/Chemistry/Events/SchoolsEvents/YAC08/Young_Analyst_08.html

วิตามินซีเป็นสารอาหารชนิดหนึ่งในจำนวน 5 หมู่ที่ร่างกายต้องการ และสามารถพบหาได้อยู่ในพืชผลผลไม้บ้านเราแทบทุกชนิดด้วยปริมาณที่แตกต่างกันตามชนิดของพืชผักผลไม้นั้น ๆ  แม้ว่ากรดแอสคอร์บิค (Ascorbic acid) หรือวิตามินซีนั้น จะเป็นสารต้านอนุมูลอิสระโดยธรรมชาติที่พบได้ในผลไม้และผักต่างๆ สรรพคุณทางการแพทย์ที่เป็นเหตุผลให้คนเรานิยมบริโภคในเวลานี้คือ การตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันและกระบวนการชีวเคมีอื่นๆ อย่างการสร้างคอลลาเจนและการดูดซึมธาตุเหล็ก อย่างไรก็ตาม การรับประทานในปริมาณที่มากเกินไปก็มีผลต่อร่างกายเหมือนกันคือ การรับประมานวิตามินซีที่สูงเกินก็เป็นสาเหตุของท้องร่วงและปัญหาในระบบทางเดินอาหารได้

การเก็บรักษาผักผลไม้และน้ำผลไม้พร้อมดื่มที่มีวิตามินซีเป็นองค์ประกอบก็มีส่วนสำคัญ หากว่าต้องการเก็บรักษาน้ำผักหรือผลไม้ให้มีวิตามินซีในปริมาณที่ไม่เสื่อมสลาย ไม่ลดปริมาณวิตามินซีลงก็ควรเก็บไว้ที่อุณหภูมิ ไม่เกิน 4 oซ (ใส่ไว้ในตู้เย็น) หากว่าทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้อง(25 oซ) วิตามินซีจะสลายไปหมดเกลี้ยงไปในวันเดียว ชวนเชิญท่านผู้อ่านทุกท่านมาทานผักผลไม้กันเยอะ ๆ กันเถอะ...

 

อ้างอิง : http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9520000118793

คำสำคัญ (Tags): #วิตามินซี
หมายเลขบันทึก: 327830เขียนเมื่อ 14 มกราคม 2010 10:00 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:14 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท