การเกิดมะเร็งของระบบต่อมน้ำเหลือง (Non-Hodgkin lymphoma)อาจเกี่ยวข้องกับการใช้ยาย้อมผมชนิดถาวรโดยหากเริ่มใช้ก่อนปี พ.ศ2523 สูตรของยาย้อมผมเหล่านี้มีสารก่อมะเร็งในสัตว์ทดลอง โดยที่หลังจากปี พ.ศ.2523 มีการเปลี่ยนสูตรยาย้อมผมโดยเอาสารบางตัวที่เป็นสารก่อมะเร็งออกไป สีของยาย้อมผมก็มีส่วนสำคัญ หากเป็นสีเข้มจะมีความเข้มข้นของสารก่อมะเร็งมากกว่าชนิดสีอ่อน สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างยาย้อมผมชนิดถาวรที่ผลิตหลังปี พ.ศ.2523 กับการเกิดมะเร็งของระบบต่อมน้ำเหลือง ยังไม่สามารถสรุปได้ เพราะระยะเวลาที่ใช้ยาย้อมผมชนิดถาวรที่ผลิตหลังปี พ.ศ.2523 อาจน้อยไปที่จะสังเกตพบมะเร็งดังกล่าว ซึ่งต้องศึกษาข้อมูลต่อไป
สำหรับการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งกระเพาะปัสสาวะที่เพิ่มขึ้นของ ผู้หญิงอาจมีความสัมพันธ์กับการใช้ยาย้อมผมชนิดถาวรเป็นประจำ และใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งดังกล่าว ทั้งนี้อาจขึ้นอยู่กับชนิดของยีนของบุคคลนั้นที่ใช้ในขบวนการกำจัดสาร Arylamines ซึ่งอยู่ในยาย้อมผม โดยยาย้อมผมชนิดถาวรจะมีสารบางอย่างที่ทำให้การดูดซึม Arylamines เพิ่มขึ้น หากบุคคลนั้นมียีนที่เป็นชนิดที่กำจัดสารดังกล่าวได้ช้า (slow version) ทำให้การกำจัด Arylamines ทำได้ช้า จะมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งกระเพาะปัสสาวะสูงขึ้นด้วย
ดังนั้นผู้บริโภคควรระมัดระวังในการใช้ยาย้อมผมชนิดถาวร โดยใช้ให้ถูกวิธีและไม่ใช้บ่อยๆหรือใช้ติดต่อกันเป็นระยะเวลายาวนาน นอกจาก ผู้ใช้ยาย้อมผมต้องระมัดระวังแล้ว ช่างตัดผมและช่างเสริมสวยที่ต้องสัมผัสกับยาย้อมผมชนิดถาวรเป็นประจำก็ต้องระมัดระวังด้วยเช่นกัน สำหรับการใช้ยาย้อมชนิดชั่วคราว (temporary hair colors) และ ชนิดกึ่งถาวร (semi-permanent dye) ไม่พบความเกี่ยวข้องกับการเกิดมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
ที่มาและข้อมูลเพิ่มเติม
http://www.fda.moph.go.th/fda-net/html/product/cosmetic/cosmetic/dat/article/HairColorPerm.htm