บันทึกรัก (ลับ) ...แห่งความทรงจำของจิรประภา


บันทึกแห่งความทรงจำเก่าๆๆที่ไม่อาจลืมเลือน

ตอนที่  1  สมัยยังเยาว์วัย

              สมัยยังเด็ก ยังเยาว์วัย  มีความทรงจำที่ดีๆๆๆที่ไม่อาจลืมเลือนได้...หลายอย่างที่สะสมอยู่ในความทรงจำ และยังจำได้ดีจนทุกวันนี้ค่ะ

              เรื่องมีอยู่ว่า...ครั้งหนึ่งข้าพเจ้าในวัยเด็กเคยพบความยากลำบากที่หลายๆๆคนไม่เคยเจอ ถึงขั้นเกือบเอาชีวิตตนเองไม่รอดนะคะ

              ข้าพเจ้ามีฐานะทางครอบครัว ถ้าเปรียบในหมู่บ้านเรานะคะ ก็ยังถือว่า พอดี พออยู่ พอกิน  อยู่หรอก  พ่อแม่มีอาชีพทำไร่ทำนา  เลี้ยงสัตว์ ่ ส่งลูกเรียนด้วยการประกอบอาชีพทำไร่ ทำนา  ด้วยความที่เราเป็นลูกชาวไร่ชาวนา เราก็มีความขยันในตัวพอสมควร

              วันหนึ่ง...เราได้ไปช่วยแม่ทำไร่ปอ  เคยได้ยินไหมคะ  ปอที่เขาใช้มาทำเชือกป่าน  ส่วนลำก็ใช้ในการทำฟืน จุดไฟหุงข้าว ก่อนจะเอาถ่านใส่...พูดไปจะเข้าใจไหมหนอ จะนึกภาพออกไหมหนอ  เพราะเรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับคนบ้านนอกตัวจริงค่ะ

ปอที่มีอายุสมบูรณ์พอตัด  พ่อแม่ก็จะพาไปตัด สมัยนั้นตัดเองบ้าง...จ้างบ้าง  ตัดเสร็จจะมัดเป็นมัดๆๆๆ  แล้วจะเอาลงแช่ในนํ้า...หลายวันพอสมควร เห็นพ่อเอาดินที่มีก้อนใหญ่ๆๆๆทับปอให้จมนํ้าเพื่อให้แช่ในนํ้า  ไม่ลอยตัวขึ้นมา  หลายวันเข้านํ้าที่แช่ปอ จะเหม็นมาก  ในสมัยนั้น  ประมาณ  32  ปีที่แล้ว  ข้าพเจ้าก็จะมีอายุราวๆๆ 8-9  ปีนี่ค่ะแต่เชื่อไหมคะ  แม้เหตุการณ์จะผ่านมา  32  ปีแล้วก็ตาม  ข้าพเจ้ายังจำได้ดี  ติดตา  ตรึงใจเสมอค่ะในบทเรียนครั้งนั้น

              พอปอเปื่อยได้ที่  เราคนในครอบครัวก็จะไปช่วยกัน นำปอขึ้นจากนํ้า  แล้วนำมาปอกเปลือกออก   ให้เหลือแต่ลำปอ  (ภาษาอิสาน เรียกว่า  ลอกปอ) สมัยนั้นนะคะค่าจ้างลอกปอก็จะตกประมาณ  5  มัด  ต่อเงินค่าจ้าง  1  บาท  (1  มัด ประมาณ  สี่ร้อยลำ)  คนมารับจ้างถ้าลอกเก่ง ก็จะได้วันละประมาณ  12  บาท  ส่วนข้าพเจ้าก็รับจ้างเหมือนกัน  บอกแม่ว่าลูกไม่ช่วยฟรี  จะลอกเอาตังค์แม่  ว่างั้นเถอะ  พอทำได้ประมาณค่าจ้าง  1  บาท  กับอีก  50  สตางค์  ข้าพเจ้าเหนื่อยมาก จึงได้ขึ้นไปพักผ่อนโดยนั่งใต้เกวียนที่พ่อนำมาจอดทิ้งไว้  ตรงขอบถนนค่ะ  ทราบไหมคะว่าเกิดอะไรขึ้น

              รถมอเตอร์ไซด์...ไม่ทราบมาจากไหน  วิ่งเข้ามาชนใต้ท้องเกวียน  คิดดู...แล้วกัน   เราก็ว่าปลอดภัยแล้วนะคะ  ชนปัง!  เข้าให้เสียงดังมาก  พ่อใหญ่(หมายถึงคุณตา)ของข้าพเจ้ารีบวิ่งขึ้นมา  พบสภาพที่ข้พเจ้านั้น  สลบไปแล้ว  ไม่รู้สึกตัว  แต่แขนขาไม่ได้หักนะคะ  ยังดี  ชนอย่างแรง  ฟกชํ้าดำเขียวไปหลายแห่ง  คนชนเมาแต่ไม่เป็นอะไร  พอได้สติพ่อใหญ๋รีบอุ้ม ซ้อนมอเตอร์ไซด์คันที่ชน  ไปโรงพยาบาลกุมภวาปี....

               ก็เฝ้าดูแต่หลานลืมคิดถึงคนขับฯที่โรงพยาบาล... พอข้าพเจ้าฟื้นขึ้นมาลืมตาอีกที พูดได้ก็ได้แต่กลิ่นยาดม  ยาหอม  พร้อมการทำแผลและฉีดยาจากคุณหมอ...คุณพยาบาล  พ่อใหญ่คิดได้ถึงคนขับ...รีบวิ่งออกมา...สายเสียแล้ว  คนขับหายไปแล้วค่ะ  นี่แหละสังคมเรา...ยังดีที่นำส่งโรงพยาบาล  ขาดความรับผิดชอบต่อผู้อื่น 

               จากบทเรียนในเรื่องนี้ข้าพเจ้าได้ความรู้เกิดขึ้นหลายเรื่องด้วยกันค่ะ

                1.  เงินทองเป็นของหายาก  กว่าจะได้มา  ยากลำบากจริงๆๆ(หาเอง)

                2.  คนในสังคมขาดความรับผิดชอบชีวิตผู้อื่น

                3.  พ่อใหญ่รักเรามาก  จนไม่ได้ระวังเรื่องคนขับจะหลบหนีไป

                4.  อุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลาจริงๆๆๆๆ



 


หมายเลขบันทึก: 326547เขียนเมื่อ 10 มกราคม 2010 14:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 14:03 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

เป็นเรื่องเล่าจากความทรงจำที่เป็นประสบการณ์ชีวิตจริงๆคะ

อนันต์ ก้องบัวบาน

ประสบการณ์แบบนี้...น่ากลัวนะครับ  ก็ดีแล้วที่ไม่ลืม  เพราะถ้าเป็นผมก็ลืมยากเหมือนกันครับ  แต่โชคดีนะครับ ที่รอดมาได้

ผมอ่านเจอ  ตกใจแทนครับ  คราวหลังเราต้องช่วยกันระวังนะครับ

อุบัติเหตุ...เกิดแบบไม่คาดคิดเสมอค่ะ

สวัสีครับ

  • ครูจ่อยมารับรู้เหตุการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตของเจ้าหญิงแห่งท้องทะเลบัวแดง
  • ให้ข้อคิดเตือนใจได้เป็นอย่างดียิ่ง สำหรับหลายๆท่านที่มารับรู้
  • ต่อแต่นี้ไปขออวยพรให้ท่านสุขสมหวังและโชคดีตลอดไปนะครับ
ครูกานดา กาฬสินธุ์

โชคดีแล้วค่ะ...ปลอดภัยมาได้  เล็กๆๆลำบาก  โตมาเราได้รับราชการ 

ก็โอเคนะคะ

เมื่อไหร่จะเขียนบันทึกตอนที่ 2  คะ

เรื่องเล่าจากประสบการณ์จริง...เราจะเล่าได้อย่างละเอียดทุกขั้นตอนค่ะ

เรื่องจริง...ที่น่าอ่านค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท