ไม่นานมานี้ได้ทราบข่าวว่ารุ่นพี่คนหนึ่งป่วยเข้าโรงพยาบาล หมอบอกว่าเขาเป็นมะเร็งระยะที่3 ไม่น่าเชื่อ ปกติเขาเป็นคนแข็งแรง ไม่เจ็บป่วย ตรวจสุขภาพทุกปี แต่ไม่เคยมีสัญญาณเตือน
หลังจากพูดคุยปลอบใจแฟนของเขาหลายครั้งๆละหลายสิบนาที ทางโทรศัพท์ เราก็ได้โอกาสไปเยี่ยม....
สัมผัสแรกที่ได้พบทำให้เรารู้สึกสะท้อนใจ ภาพของรุ่นพี่ในความทรงจำ คือ ผู้ชายหน้าตาดี สุขภาพแข็งแรง แต่บุคคลที่อยู่ตรงหน้าเราตอนนี้คือ ผู้ชายรูปร่างผ่ายผอม ผิวดำคล้ำ แต่สิ่งเดียวที่ไม่เปลี่ยนแปลงคือจิตใจที่เข้มแข็งของรุ่นพี่คนนี้ เขาบอกกับเราว่ายังอยากสู้ อยากอยู่กับลูกให้นานกว่านี้...
ระหว่างที่ไปเยี่ยมคนป่วยมีอาการอาเจียนออกมาเป็นเลือดสด 2 - 3 ครั้ง ดูจากสภาพแล้วอาการหนักทีเดียวแต่คนป่วยมีสติดีและเข้มแข็งมาก ไม่ร้องไห้เลย... ส่วนแฟนของรุ่นพี่เธอดูซึมเศร้า มีน้ำตาคลออยู่เกือบตลอดเวลา..
ฉันได้เอาหนังสือกับ CD เสียงธรรมะไปให้..รุ่นพี่ถามเราว่า "มันจะเจ็บมากไหมตอนคนเราจะตาย" เราบอกตามหนังสือที่เคยอ่าน " จิตช่วงก่อนจะออกจากกายจะเจ็บอยู่ แต่ร่างกายในภาวะนั้น จะอยู่ในภาวะไม่รับรู้แล้ว... เป็นช่วงที่อาจเหมือนอยู่ในภวังค์ อาจได้ยินเสียง แต่ไม่สามารถโต้ตอบอะไรได้ บางคนอาจมีสีหน้ากระตุกหรือมือไม้ไขว่คว้าสะเปะสะปะ แต่น่าจะมาจากระบบของสมองอัตโนมัติมากกว่าที่จะส่งสัญญาณว่าเขากำลังเจ็บปวดทุกข์ทรมาน.."
รุ่นพี่บอกเสียงแผ่วๆ ว่า "ยังไม่อยากถอดใจ ห่วงลูก.."
เราพยักหน้ารับรู้ก่อนเสริมว่า ..กายนี้ก็เหมือนกับเสื้อนะ เก่าขาดก็ต้องเปลี่ยนแต่จิตนี้จะยังคงอยู่ไม่แตกดับไปกับกาย ดังนั้นมุ่งหวังรักษากายให้แข็งแรงไม่พอต้องรักกษาใจด้วย เพราะเมื่อถึงจุดนั้นในแต่ละคนถ้าไม่หัดวางใจให้ถูกแล้วจะลำบากนะ..อย่างตอนนี้เวลาที่พี่เจ็บปวดนอกเหนือจากความคิดห่วงลูกแล้วพี่รู้สึกอย่างอื่นอีกไหม..
"โกรธตัวเองที่ทำไมต้องเป็นอย่างนี้"
เออ..แล้วอย่างอื่นๆล่ะ "กลัวตาย กลัวทรมาน"
เราก็กลัวเหมือนกัน... เราตอบ
แล้วความเงียบก็เข้ามาแทนทีการสนทนา ไม่มีคำพูดใดๆ อีกนอกจาก....น้ำตา ทั้งเราและเขาเริ่มน้ำตาคลอ....โชคดีก่อนที่เขาจะป่วย เขาเคยบวช เคยฝึกสมาธิ มาบ้าง เราจึงชวนเขาให้พยายามฝึกสติตามลมหายใจ เราคาดหวังว่ามันอาจจะช่วยลดความหมกหมุ่นกับอาการเจ็บป่วยลงไปได้บ้าง เขาว่าจะลองดู.... ในความเงียบนั้นต่างก็รู้สึกได้ถึงความอาลัยอาวรณ์ซึ่งกันและกัน
ก่อนลากลับ รุ่นพี่ยิ้มให้ เขาบอกขอบใจด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา...เรายิ้มรับบอกกับเขาเบาๆ ว่า...อย่าลืมรักษาใจให้ดีๆ ด้วยนะพี่
เขาไม่ตอบแต่ส่งยิ้มให้พร้อมกับ ชูมือแบบลูกเสือ........
...ดอกไผ่บานสัญญาณแห่งรัก
แรกเริ่มประจักษ์บานเพื่อลาจาก
สื่อความหมายให้เธอปล่อยวาง
อ่อนแอไกลห่าง..เข้มแข็งเคียงข้าง..อยู่รอบกายเธอ
พอดีกำลังอ่านหนังสือของดร.สนอง วรอุไรชื่อ "ทำชีวิตให้ได้ดี และมีความสุข"ได้พูดถึงกำลังใจก็เหมือนกำลังกาย ที่ต้องฝึกฝนบ่อยๆ กำลังของกายมี 5 ตัว ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา ถ้าฝึกจิตให้สงบนิ่งได้จะเพิ่มพลังให้ร่างกายได้ด้วย เคยมีผู้ป่วยเนื้องอกในรังไข่มาฝึกจิตให้นิ่ง และคิดแต่ในทางบวก ทำเพียงเดือนเดียวเท่านั้น ปรากฏก้อนเนื้อเล็กลงไปเอง ครบ 3 เดือนหายไปเลยทั้งก้อน หมอนัดผ่าตัดไว้ ก็ไม่ต้องผ่า ปัจจุบันยังแข็งแรงค่ะ
ขอบคุณข้อคิดเห็นและคำแนะนำดีๆที่ได้รับ...ในวันนี้รุ่นพี่ได้จากไปแล้วอย่างสงบถึงแม้เขาอาจจะไม่ได้ใช้คำแนะนำเหล่านี้แต่หวังว่าสำหรับผู้อ่านท่านอื่นๆจะได้ประโยชน์จากข้อคิดและคำแนะนำเหล่านี้...