รศ.ดร.ยงยุทธ ตัณฑุลเวสส อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) เปิดเผยถึงผลงานหมากฝรั่งผสมนิโคตินว่า อาศัยหลักการทางเคมีสกัดสารนิโคตินจากใบยาสูบผสมลงในหมากฝรั่ง สำหรับผู้ป่วยในคลินิกอดบุหรี่ใช้เคี้ยว เพื่อให้ร่างกายได้รับสารนิโคตินทดแทนการสูบบุหรี่ คนที่เลิกสูบบุหรี่จะเกิดอาการหงุดหงิด ง่วงเหงาหาวนอน จิตใจสับสน ขาดสมาธิในการทำงาน ซึ่งป็นผลมาจากปริมาณสารนิโคตินในร่างกายลดต่ำอย่างกะทันหัน จากเดิมที่ร่างกายได้รับสารเสพติดดังกล่าวจากบุหรี่ จึงส่งสัญญาณไม่สบายเพื่อเรียกหาสารนิโคตินที่ขาดหายไป ดังนั้น ผู้ป่วยในคลินิกอดบุหรี่จะได้รับหมากฝรั่งนิโคติน เพื่อทดแทนนิโคตินจากบุหรี่และบรรเทาความรู้สึกทรมาน ที่ผ่านมา หมากฝรั่งที่ใช้ในไทยเป็นสินค้านำเข้าและราคาแพง ทำให้ผู้อดบุหรี่จำนวนมากเข้าไม่ถึงสินค้านี้ ด้วยเหตุดังกล่าวจึงผลิตหมากฝรั่งผสมนิโคตินที่ราคาถูก โดยผลงานได้ผ่านการทดสอบในกลุ่มอาสาสมัครเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่สามารถผลิตจำหน่ายได้เพราะอยู่ระหว่างการหารือในรายละเอียดกับมหาวิทยาลัยต้นสังกัด ในฐานะผู้ถือสิทธิบัตรร่วม ในการวิจัยได้พัฒนาหมากฝรั่ง 2 สูตรคือ สูตรนิโคตินเข้มข้น 2 มิลลิกรัม เหมาะกับผู้ติดบุหรี่ไม่มาก และสูตรความเข้มข้น 4 มิลลิกรัม สำหรับผู้ที่สูบบุหรี่จัดหรือมากกว่า 1 ซองต่อวัน โดยความเข้มข้นระดับนี้ถือว่าไม่อันตราย นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างพัฒนาสูตรไร้น้ำตาล เพื่อตอบสนองผู้สูบบุหรี่ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานอีกด้วย "คุณสามารถใช้หมากฝรั่งนิโคตินเพื่อการบำบัดได้ไม่เกิน 12-15 เม็ดใน 1 วัน จากนั้นค่อยๆ ลดปริมาณลงในสัปดาห์ที่ 2 อาจจะเหลือ 10 และ 8 เม็ดต่อวัน จนถึงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนที่ 3 อาจจะใช้หมากฝรั่งเพียง 3 เม็ดหรืออาจจะไม่ใช้เลย" รศ.ดร.ยงยุทธ กล่าว อย่างไรก็ตาม บางคนกังวลว่าคนที่ไม่เคยสูบบุหรี่จะหันมาติดหมากฝรั่งนิโคตินแทนนั้น น่าจะเป็นไปไม่ได้ เพราะหมากฝรั่งประเภทนี้จัดอยู่ในกลุ่มยาควบคุมพิเศษ มีขายในสถานพยาบาลเท่านั้น และในการซื้อขายต้องใช้ใบสั่งแพทย์ด้วย ประกอบกับรสชาติออกไปทางเผ็ด ไม่อร่อยเหมือนหมากฝรั่งทั่วไป