เพราะเหตุใดจึงจำเป็นต้องมีหลักสูตรนี้
ในการจัดการประชุมและสัมมนาทั้งในระดับชาติ และนานาชาติของมหาวิทยาลัยในหลายครั้งที่ผ่านมา เช่น การประชุมผู้นำชาวพุทธโลก การประชุมสมาคมมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนานานาชาติ (IABU) และการประชุมวันวิสาขบูชาโลก ได้มีการประกาศเชิญชวนให้ผู้ทรงคุณวุฒิทั่วไปรวมทั้งคณาจารย์มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย นำเสนอบทความทางวิชาการในการประชุม แต่ปรากฏว่ายังมีคณาจารย์และนักวิชาการทั่วไปนำเสนอบทความและได้รับการตีพิมพ์ไม่มากนัก ซึ่งสาเหตุของปัญหาดังกล่าวเกิดจาก "นักวิชาการไทยหลายท่านขาดความรู้เกี่ยวกับเทคนิคการเขียนบทความทางวิชาการให้ได้มาตรฐาน" และในขณะเดียวกัน เป็นที่ประจักษ์ว่า เราไม่ได้ไม่ได้เตรียมหลักสูตรเพื่อสนองตอบต่อความต้องการของผู้สนใจใฝ่รู้ในประเด็นเหล่านี้อย่างเพียงพอ
ดังนั้น เพื่อเป็นการสนองตอบต่อปรัชญาของมหาวิทยาลัย ในการเป็นศูนย์กลางการศึกษาพระพุทธศาสนา บูรณาการกับศาสตร์สมัยใหม่ พัฒนาจิตใจและสังคม และเพื่อให้เป็นไปตามตัวชี้วัดในการประกันคุณภาพการศึกษา จึงสมควรจัดให้มีกระบวนการในการพัฒนาคณาจารย์ประจำมหาวิทยาลัย และบุคคลที่สนใจทั่วไปให้สามารถเขียนบทความทางวิชาการที่มีคุณภาพ และนำเสนอบทความทางวิชาการในการประชุมทางวิชาการทั้งในระดับชาติและระดับนานาชาติ จึงสมควรให้มีการจัดการพัฒนาและฝึกอบรมเทคนิคการเขียนบทความทางให้ได้มาตรฐานมากยิ่ง ขึ้น
ขอบข่ายเนื้อหาในหลักสูตร
๑.การเขียนบทความทางวิชาการกับการเขียนบทความทั่วไปต่างกันอย่างไร
๒. ความหมาย คุณค่าและความสำคัญของการเขียนบทความทางวิชาการ
๓. โครงสร้างของการเขียนบทความที่ดีและได้มาตรฐาน เช่น Title, Introduction, Body และ Conclusion
๔. เทคนิคของการเขียนบทนำ การวางเนื้อหา และการสรุปเนื้อหา
๕. เทคนิคการอ่าน และย่อยเนื้อหาเพื่อนำไปเขียนบทความ
๖. ภาษาไทย และภาษาอังกฤษที่จำเป็นสำหรับการเขียนบทความทางวิชาการ
๗. เขียนบทความอย่างไรจึงจะได้รับการตีิพิมพ์
ฯลฯ
น่าสนใจเสียยิ่งกระไร เป็นการเปิดโอกาศการพัฒนาตนเองในด้านการเขียนได้ดีมากจริง ๆ ครับ
อาจารย์พิมล
สนใจข้อมูลมากค่ะ
สนใจข้อมูลมากค่ะ
ขอบใจครูณัฐที่แวะมาเยี่ยม โอกาสดีๆ เชิญมาเยี่ยมมหาวิทยาลัยพวกเราด้วย