วันที่ ๒๔ ธ.ค. ๕๒ ผมพบ นพ. หทัย ชิตานนท์ จึงเรียนถามวิธีการที่ท่านใช้ดับเซียนส่งเสริมตลาดบุหรี่ ที่มาจัด Tabinfo Asia Expo 2009 ที่เมืองทองธานีเมื่อวันที่ ๑๑ – ๑๓ พ.ย. ๕๒ ซึ่งมีผลให้บริษัทจัดงาน คือ Tobacco Reporter Magazine ถูกตำรวจจับ ส่งฟ้องศาล และถูกปรับ ๒๐,๐๐๐ บาทฐานทำผิดกฎหมายควบคุมยาสูบ ตามข่าวนี้
เป็นการต่อสู้กันแบบใช้ไหวพริบสุดสุด
Tobacco Reporter Magazine มี event organizer จากอังกฤษ เอานักกฎหมายจากบริษัท White & Case มาขอคำแนะนำจากกระทรวงสาธารณสุข ว่าทำอย่างไรจะจัดงานโดยไม่ทำผิดกฎหมายไทย แต่ทีมกระทรวงฯไม่หลงกล ไม่ให้พบ ให้ต้องศึกษากฎหมายเอง และให้รู้ว่าถ้าทำผิดกฎหมายก็จะโดนจับ คือไม่มีไมตรีให้
ทีมต่อต้านของไทยแบ่งเป็น ๒ กองทัพ
กองทัพของ ศ. นพ. ประกิต วาทีสาธกกิจ ใช้วิธีนำนักศึกษาไปถือป้ายประท้วง
กองทัพของ นพ. หทัย ชิตานนท์ เป็นกองซุ่มซ่อน ใช้วิธีบอกให้ตำรวจจับเพราะทำผิด กม. ฐานวางบุหรี่โฆษณาในงานนิทรรศการ
มีวิธี (เทคนิคขู่) ทำให้โรงพักปากเกร็ดร่วมมือจับ ตามที่ฝ่ายกระทรวงสาธารณสุขชี้ความผิด เมื่อตำรวจจับ ทางบริษัทขอร้องอย่าให้นักข่าวรู้ ส่งฟ้องศาล สารภาพ ปรับ ๒ หมื่น ลดจาก ๔ หมื่น
นี่คือเรื่องราวของการต่อสู้กับมารร้ายต่อสุขภาพที่เป็นมารข้ามชาติ เรื่องการเมืองที่เป็นการต่อสู้ระหว่างพระกับมาร ระหว่างความดีกับความชั่ว ระหว่างสุขภาวะกับผลประโยชน์บนความตายของคนอื่น
วิจารณ์ พานิช
๒๔ ธ.ค. ๕๒
เป็นการต่อสู้ที่หนักจริงๆครับ ระหว่างกายกับใจสัปยุทธ์กันอย่างดุเดือด โดยมีสุขภาพร่างกายเป็นเดิมพัน ผมกัดฟันสู้กับมันจนเลิกสูบมาได้ครึ่งปีแล้ว ภูมิใจมาก ถือเป็นเกียรติยศสูงสุดในชีวิต ยึดเอาอากาศบริสุทธิ์ที่ไม่มีควันบุหรี่เจือ คืนมาได้ ถ้าเราเลิกสูบกันได้หมดทั้งโลก มันคงไม่รู้จะไปขายใคร....เป็นกำลังใจให้กับทุกท่านที่กำลังต่อสู้นะครับ
เป็นสงครามที่ไม่มีคนตาย /มีแต่อายุยืนขึ้น เป็นชัยชนะที่น่ายกย่องครับ
สวัสดีปีใหม่ครับอาจารย์
แถวๆบ้านผม มีร้านที่ขายพวก เครื่องมวนยาสูบด้วยครับ อาจารย์
มันถูกกฏหมายไหมครับ