KM กับความเป็นเลิศทางการบริหาร
การจัดการความรู้เป็นการรวบรวมเอาความรู้ที่มีอยู่ในส่วนราชการ ซึ่งกระจัดกระจายอยู่ในตัวบุคคล หรือเกสารใพฒนาให้เป็นระบบ เพื่อให้ทุกคนในองค์กรเข้าถึงความรู้ พัฒนาตนเองให้เป็นผู้รู้และปฎิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้องค์กรมีความสามารถในการแข่งขัน
ความรู้จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ
1.ความรู้ที่ฝังอยู่ในตัวบุคคล (Tacit Knowledge) ที่ได้จากประสบการณ์ พรสวรรค์หรือสัญชาตญาณของแต่ละบุคคล เป็นความรู้ที่ไม่สามารถถ่ายทอดออกมาเป็นคำพูดหรือลายลักษณ์อักษรได้โดยง่าย เรียกว่าเป็นความรู้แบบนามธรรม
2.ความรู้ที่ชัดแจ้ง (Explicit Knowledge) เป็นความรู้ที่สามารถรวบรวมได้ ถ่ายทอดได้
การจัดการความรู้จะเป็นเครื่องมือในการบรรลุเป้าหมาย เช่น เป้าหมายของงาน การพัฒนาคน การพัฒนาองค์กร และการเอื้ออาทรระหว่างกันในการทำงาน
การจัดการความรู้เป็นการดำเนินการอย่างน้อย 6 ประการต่อความรู้ ได้แก่
(1) กำหนดความรู้หลักที่จำเป็นหรือสำคัญต่องานหรือองค์กร
(2) เสาะหาความรู้ที่ต้องการ
(3) ปรับปรุง ดัดแปลง หรือสร้างความรู้บางส่วน ให้เหมาะต่อการใช้งานของตน
(4) ประยุกต์ใช้ความรู้ในกิจการงานของตน
(5) นำประสบการณ์จากการทำงาน และการประยุกต์ใช้ความรู้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และสกัด “ขุมความรู้” ออกมาบันทึกไว้
(6) การจดบันทึก “ขุมความรู้” และ “แก่นความรู้”
กระบวนการจัดการความรู้ (Knowledge Management) มี 7 ขั้นตอน คือ
1.บ่งชี้ความรู้ เป็นการพิจารณาว่าองค์กรมีวิสัยทัศน์ พันธกิจ ยุทธศาสตร์ เป้าหมายคืออะไร และเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย เราจำเป็นต้องใช้อะไร ขณะนี้เรามีความรู้อะไรบ้าง อยู่ในรูปแบบใด อยู่ที่ใคร
2. การสร้างและแสวงหาความรู้ สร้างความรู้ใหม่ แสวงหาความรู้จากภายนอก รักษาความรู้เก่า
3. การจัดความรู้ให้เป็นระบบ
4. การประมวลและกลั่นกรองความรู้
5. การเข้าถึงความรู้
6. การแบ่งปันแลกเปลี่ยนความรู้
7. การเรียนรู้ ต้องทำให้การเรียนรู้เป็นส่วนหนึ่งของงาน
ความเห็น (3)
ชอบค่ะ
อยากอ่านอีกจัง
ชอบเรื่องบริหารมาก
อยากเป็นนักคิด นักบริหารคนค่ะ
ชี้แนะต่อด้วยนะ ขอบคุณค่ะ
คุณใช เค เอมแล้วได้ผลจริงหรือคุณรัตนา
นายพลากร ศิริพงศื
น่าสนใจมากครับ ได้ความรู้มาก ขอบคุณครับ