ผีเสื้อสมุทร


ความฝัน ใครจะถักทอหรือไม่เป็นเรื่องของแต่ละคน

15.ผีเสื้อสมุทร

 

            เส้นทางจากบ้านไหลน้ำ ฟองทะเลสาวเท้ากลับทางเดิม เดินลิ่วขึ้นเนิน มุ่งหน้าลงจนสุดทาง เลี้ยวไปทางซ้ายเดินเลียบริมคลอง ผ่านทุ่งโคลงเคลง ผึ้งตัวน้อยบินหึ่ง ๆ ดอมดมดอกสีบานเย็น บางตัวตอมผลกำมะหยี่สีม่วงเข้มเกือบดำ

            “ช้าหน่อยฟอง พู่เดินตามไม่ทัน” พู่กลิ่นโน้มตัวลงจับเข่าหอบแฮก ๆ

            ฟองทะเลหยุดเดิน หันหน้าส่งยิ้มแห้ง ๆ ฟ้าครามเดินตามหลังมาติด ๆ เด็ดใบโคลงเคลง ย่างเท้าเข้าหาพู่กลิ่นพัดวีให้เธอ สายลมโชยน้อย ๆ

            “สบายดีจริงหนอ สายลมเย็น” ฟองทะเลสืบเท้าเข้าไป ยั่วล้อ

            ฟ้าครามเงยหน้า ยิ้มแก้เก้อ พู่กลิ่นขวยเขิน ใบหน้าแดงกล่ำ

            “หายเหนื่อยแล้ว ไปกันต่อนะจวนจะถึงแล้ว” ฟองทะเลพูดเสียงใส

            พู่กลิ่นส่งยิ้มให้ ทั้งสามจ้ำเท้าผ่านคันดินเล็ก ๆ กระโดดข้ามลำน้ำ ดาหน้าเข้าสวนยางร่มครึ้ม วาหว่าเดินก้มเก็บเห็ดโคนตามขอนไม้ผุเก่า ฟองทะเลเก็บเห็ดสีขาวเต็มกำมือเดินเงียบเข้าไปใกล้วาหว่า ยื่นเห็ดให้เขา เขาสะดุ้งเล็กน้อยรับเห็ดใส่ตะกร้า “ขอโทษนะ ฟอง”

            “ไม่เป็นไรหรอก”

            “ไม่โกรธหรือ ?” วาหว่าพูดอ่อย ๆ

            “สัญญาสิ คราวหน้าจะไม่ทำอีก”

            วาหว่าพยักพเยิด

            “รวมทั้งไหลน้ำ และดอกหมากด้วย”

            “พวกมันหรือ !”

            “เขาเป็นเพื่อนเรานะ มิใช่ใครอื่น” พู่กลิ่นติง

            “ผมเนี่ยนะ เพื่อนพวกเขา” วาหว่าตัดพ้อ

            พลันภาพร่างของวาหว่าหดตัวเล็กลง ๆ ขณะที่ภาพร่างของไหลน้ำขยายใหญ่ขึ้น ๆ และแล้วร่างวาหว่าหายวับในพริบตา ใบไม้สั่นพลิ้ว ตะวันทอแสงส่องร่างสั่นระริก แทบไร้กระแสเสียง

             “วาหว่าตามมานี่สิ” ฟองทะเลฉวยมือวาหว่ากุมแน่น พาเขาเดินดุ่ม ๆ พู่กลิ่น ฟ้าคราม เดินตามหลังติด ๆ จนถึงเนินทรายปากทางเข้าสวนร้าง เธอปล่อยมือวาหว่า เดินเลาะเลียบริมตลิ่ง เก็บเศษใบไม้ กิ่งไม้ กระทั่งปรากฏเถาวัลย์ดัดเป็นรูปวงรียาวหนึ่งช่วงแขน กว้างหนึ่งศอก มีโครงไม้ไผ่รูปกากบาทยึดเถาวัลย์ทั้งสี่ด้านปิดด้วยกระดาษว่าวเป็นปีกสีเหลืองสองข้างวางซ้อนกัน มีไม้ไผ่ป้อมสั้นหนึ่งปล้องเป็นลำตัว ค่อนปลายลำสองด้านยึดโยงด้วยเชือกป่านผูกต่อกันเป็นเส้นเดียว กับไม้ไผ่เรียวยาวหนึ่งลำนอนแน่นิ่งข้าง ๆ ปีก

             “วาหว่าจำไม้ไผ่ลำเล็ก ๆ นั้นได้มั้ย ?”

             ฟองทะเลสืบเท้าเข้าไปจับร่างนั้นขึ้น “นี่เป็นไม้ไผ่ที่เธอตัดไว้ เพื่อทำเป็นลำกล้องยิงนก”

             “ไม่ใช่หรอก ลำที่ให้ยาวกว่านี้”

             “วาหว่าทบทวนความจำดี ๆ ฟองขอไม้ไผ่จากเธอ แล้วชวนมาทำของเล่นชิ้นนี้”

             “วันนั้นพู่กับฟ้าครามก็อยู่” พู่กลิ่นเพิ่มเติม

             “วาหว่าถามว่าจะทำของเล่นอะไร ฟองตอบว่าไม่รู้ เธอจึงบอกว่าทำของเล่นที่ทำให้คนเรารักกันไม่แบ่งแยกเขา แยกเรา”

             “พวกเราจึงชวนเธอมานั่งทำของเล่นด้วยกัน” พู่กลิ่นพูดเสียงใส

             “ทั้งที่ไม่รู้ว่า ผลสุดท้ายคืออะไร ?” ฟ้าครามหัวเราะร่วน

             “แต่แล้ว ไหลน้ำกับดอกหมากก็มาที่นี่” ฟองทะเลเสียงเครือ

             พู่กลิ่น ฟ้าคราม เงียบงัน มองหน้ากันเจื่อน ๆ

             “แล้วทุกคนก็จากไป ปล่อยให้ความฝันที่จะร่วมกันสร้างขึ้น หายไปพร้อมกับการมาถึงของเล่นจำลอง ซ้ำร้าย...” ฟองทะเลเสียงสั่น สะอื้นไห้

            “พอเถอะฟอง พวกเราขอโทษ” พู่กลิ่นถอนใจ โอบกอดฟองทะเลแน่น

             “จริง ๆ นะความฝัน ใครจะถักทอหรือไม่เป็นเรื่องของแต่ละคน” ฟองทะเลยิ้มอาย ๆ ยกหลังมือเช็คแก้ม หยิบสลักไม้ใส่กึ่งกลางท่อนไม้สั้น คว้าปีกทั้งสองข้างสวมสลัก

             “ของเล่นชิ้นนี้ ฟองสร้างมาจากความฝันครั้งนั้นหรือ ?” พู่กลิ่นถามเบา ๆ

             “อือ ! แต่มันคงจะไม่ดีนัก เพราะฟองทำคนเดียว”

            ฟองทะเลใช้ไม้ไผ่อีกอันสอดใต้ท้อง ตรึงด้วยเชือกยึดโยงทั้งสองข้าง สวมไม้ไผ่ลำยาวสี่เมตรสวมไม้อันเล็กใต้ท้องลำตัวป้อม ๆ ค่อย ๆ ยกลำตัวขึ้น

             “ฟ้าคราม” ฟองทะเลเรียก

             ฟ้าครามสืบเท้าเข้ามา เธอยื่นไม้ไผ่ลำนั้นให้ วาหว่ารี่เข้าไปจับเชือก เดินถอยหลัง พู่กลิ่นคอยประคองร่างชูขึ้นจนสุดตัว

             “พู่ปล่อย ฟ้าครามหมุนไม้” ฟองทะเลเปล่งเสียงดัง

             ฟ้าครามชูไม้ไผ่ขึ้น หมุนไม้รอบแล้วรอบเล่า วาหว่าดึงเชือกจนตึง

             “หยุดหมุน ถอดไม้ ปล่อยเชือก” ฟองทะเลตะโกน

             สายลมโกรก ร่างลอยล่อง ปีกขยับโบยบิน ร่อนลง บินฉวัดเฉวียน ก่อเงาบนพื้นทรายดั่งผีเสื้อยักษ์โบกโบย

            “วู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!”

            “เฮๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!”

            “แป๊ะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!”

            เสียงปรบมือดังสนั่น ต่างคนกระโดดโลดเต้น ส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าว

            “สวย สวยจังเหมือนมีชีวิต” วาหว่ายิ้มแป้น แหงนหน้ามองร่างบนท้องนภา ยิ้มแป้น

           ชั่ววินาทีนั้นฟองทะเลฉวยท่อนไม้ ขว้างสู่ท้องนภา ท่อนไม้หมุนกระแทกปีก ปลั๊ก ! ผีเสื้อสมุทรลอยตุปัดตุเป๋ กระพือปีกขึ้น ฟองทะเลฉวยไม้อีกท่อนปาสุดแรงเกิด ดุ้นไม้ควงปะทะโครงไม้ไผ่ ป๊อก ! นางหมุนคว้าง

            “เอาเลย ซัดมัน” ฟองทะเลแผดเสียง ยื่นไม้ให้พู่กลิ่น และฟ้าคราม ทั้งสองยืนนิ่งเหลียวมองฟองทะเล

            “ปาเข้าไป ช้าทำไม” ฟองทะเลกระตุ้น

            ทั้งคู่ซัดท่อนไม้ทะยานขึ้นเบื้องบน ดุ้นแรกลอยเฉียดข้างปีก อีกดุ้นโดนส่วนหัว ปลั๊ก ! โครงร่างฉีกขาด พุ่งถลาแน่นิ่งบนยอดไม้

            “ย่อยยับในพริบตา ถ้าเป็นเครื่องบินคนบริสุทธิ์คงตายทั้งลำ” วาหว่าอ้าปากค้าง ออมเสียงพูด

           “แย่เลย เหตุการณ์เช่นนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้น” ฟองทะเลพูดซื่อ ๆ

           “เธอรู้แล้วยังทำ” วาหว่ากระชากเสียง

           “คงเหมือนกับวาหว่าที่เคียดแค้นไหลน้ำ ดอกหมาก สงสัยจะต้องให้เขาจากไป เธอจึงยอมเลิกลา” ฟองทะเลเหน็บแนม

           “ผมไม่ใจร้ายขนาดนั้นหรอก” วาหว่าแก้ตัว

           “งั้นหรือ ?” พู่กลิ่นผินหน้ายิ้ม

           วาหว่าพยักหน้าหงึก ๆ

           “ดีแล้ว ไม่ต้องไปทำร้ายไหลน้ำกับดอกหมาก” ฟ้าครามตีขลุม

           “ได้ไง พวกเขาว่าผมเป็นไอ้หัวขโมยลูกพม่าอยู่” วาหว่าชักสีหน้า พูดเสียงแข็ง

           “เธออย่ากังวลไปเลย พวกเราจะจัดการให้ จริงมั้ย ?” ฟองทะเลเน้นถ้อยเน้นคำ พู่กลิ่น ฟ้าคราม พยักพเยิด

          “ก่อนอื่นเราไปช่วยหารถคันแดงก่อนเถอะ” ฟองทะเลเสนอ

          “ดีเหมือนกัน ไปสิ”

          บริเวณเนินทราย ใกล้ปากทางเข้าสวนร้าง พวกเขาตั้งแถวเรียงหน้ากระดานดาหน้าเข้าสวนร้าง ถือไม้เขี่ยพื้นดิน กวาดสายตามอง ควานหาตามพงหญ้า เดินถึงบ่อน้ำเลี้ยวไปทางขุมเหมือง เรียงหน้ากลับมาทางเดิม

          “ไม่มีแฮะ หายไปได้อย่างไร ? หาจนทั่วแล้ว”

          “นั่งพักหน่อย เดี๋ยวค่อยหาต่อ”

         สายลมกระโชกแรง ยอดไม้สั่นไหว ผีเสื้อสมุทรร่วงจากยอดไม้ แกรกๆๆๆๆ! ไม้ต่อไม้เบียดเสียดสีกัน วาหว่าแหงนมองร้องลั่น “หลบ ! หลบ ! หลบเร็ว”

         ซากปีกข้างซ้าย หล่นสู่พื้น

         “เดี๋ยวเราขึ้นไปเก็บอีกข้างดีกว่า” ฟ้าครามกล่าวจบ ผุดขึ้นต้นมะม่วงหิมพานต์ ปีนป่ายจากกิ่งหนึ่งไปยังอีกกิ่ง ขึ้นสู่ยอดไม้ ก้มมองเพื่อน ๆ เบื้องล่าง ปรายตาพบรถบังคับนอนแน่นิ่งบนรังนกอีกยอดไม้หนึ่ง  เขาเอื้อมมือคว้าซากผีเสื้อสมุทร ปล่อยสู่พื้น ตะเบ็งเสียง “เราเจอรถบังคับแล้ว”

         “อยู่ไหน ?” พู่กลิ่นป้องมือตะโกนถาม

         “ด้านขวาบนรังนก” ฟ้าครามชี้ไปทางกิ่งไม้ใหญ่

         “ไม่เห็นมีอะไรเลย” วาหว่าพูดเต็มเสียง

         “สงสัยใบไม้บัง” ฟองทะเลพูดเบา ๆ

         “ไปเก็บดี ๆ นะ ระวังด้วย” พู่กลิ่นเปล่งเสียง

         ฟ้าครามปีนลงจากกิ่งไม้ชั้นบน ลงนั่งคร่อมกิ่งไม้ใหญ่ แต่ละคนแหงนหน้าคอตั้งบ่าจับสายตาเฝ้ามองฟ้าคราม เขาค่อย ๆ กระดืบไปข้างหน้า

         “ช้า ๆ ไม่ต้องรีบ”

          ฟ้าครามกระเถิบตัวถึงกลางกิ่งไม้ใหญ่ ก้มมองพื้นดิน นั่งตัวแข็งทื่อ หยดเหงื่อเม็ดโตไหลร่วงลงพื้น เขายกแขนเช็ดหน้า

          “ไปต่อได้มั้ย ?” วาหว่าตะโกน

          “ได้ ไม่ต้องห่วง”  ฟ้าครามโบกมือตอบ รีบยกมือลงจับกิ่งไม้ ค่อย ๆ เคลื่อนไปจนถึงรังนก เหนี่ยวกิ่งไม้ หยิบรถบังคับหงายขึ้น ส่งเสียงร้องลั่น “ใช่จริง ๆ แฮะ รับรถด้วย”

           พวกเขายกมือสลอน ฟ้าครามปล่อยรถลงดิน พู่กลิ่นเขยื้อนชนฟองทะเล เธอซวนเซ ล้มแผละ พู่กลิ่นถลาตามล้มทับ วาหว่าขยับเข้าแทนที่ รถลอยเคว้งหล่นบนอุ้งมือเขา เขาเหยียบใบไม้เสียหลักลื่นล้มหงายผลึ่ง “ฮาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!”  เสียงหัวเราะร่วนดังครื้นเครง

           ฟ้าครามเขยิบถอยหลัง ทิ้งร่างลงโหนกิ่งไม้ โยนตัวลงพื้น

           “รถบังคับขึ้นไปอยู่บนรังนกได้อย่างไรเนี่ย ?” ฟองทะเลเกาหัว แกรก ๆ !

           “พายุพัดพาขึ้นไปมั้ง” พู่กลิ่นพูดลอย ๆ พลางมองยอดไม้

           “เราว่ารถคันนี้ติดปีก พอมันบินได้ เลยตัดสินใจไม่ยอมลงพื้นดินอีกเลย” ฟ้าครามพูดติดตลก

           “คราวนี้ ผมก็พ้นจากการเป็นหัวขโมยแล้วนะ” วาหว่าว่า

           “เอารถไปคืนไหลน้ำกัน” ฟ้าครามชวน

           “พวกเธอไปกันเถอะ ผมไม่อยากไป” วาหว่าเบาเสียง

            สายลมกระโชกหอบฝุ่นฟุ้งกระจาย ฟองทะเล พู่กลิ่น ฟ้าคราม ยืนนิ่ง ก้มหน้าลง บีบจมูก ปิดปาก หลับตาปี๋ ละอองฝุ่นตลบเกาะตามเสื้อผ้าเป็นจุดสีแดงเต็มพรืด ลมพาใบไม้ ปลิวหมุนวนจากพื้นสู่ท้องนภา กระชากร่างสลายตัวปล่อยใบไม้ลอยเคว้งคว้าง ทั้งสามปัดฝุ่นตามตัว มุ่งตรงไปเบื้องหน้า ใบไม้สิ้นเรี่ยวแรงร่วงผล็อยนอนแน่นิ่งทับถมกัน

            “ไหลน้ำ ! เราเอารถมาคืน” ฟ้าครามส่งเสียงดัง

            “รถใคร ?” ไหลน้ำโผล่หน้าออกมา เดินทอดน่องเข้าไปใกล้ จ้องรถบังคับคันแดง

           “ของเธอ ที่หายไป”

           “ไม่ใช่หรอก”

           “ไม่เชื่อ ลองบังคับดู”

           ไหลน้ำหายเข้าไปในบ้าน กลับออกมาพร้อมโยกคันบังคับ รถนิ่งสนิทไม่ขยับ ฟ้าครามหน้าถอดสี

           “สงสัยถ่านหมด” ฟองทะเลเปรย

           ไหลน้ำให้หน้าดอกหมากเข้าไปหยิบถ่านก้อนใหม่มาเปลี่ยน ดอกหมากเดินจ้ำอ้าวเข้าไปหยิบถ่านไฟฉายใส่ใต้ท้องรถ ไหลน้ำโยกคันบังคับ ล้อรถหมุนเร็วจี๋ ฟริ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!

           “สิ้นเรื่องสักที” พู่กลิ่นถอนใจเฮือก

           “ยังหรอก วาหว่ายังไม่หายโกรธไหลน้ำ” ฟองทะเลพูดอ่อย ๆ

           “คงจะใช่ ถ้าไม่เช่นนั้นก็ตามพวกเรามาแล้ว” ฟ้าครามว่า

           “ยังโกรธผมอยู่ เรื่องอะไรอีก” ไหลน้ำตีหน้าเซ่อ

           “เธอใส่ร้ายเขา” พู่กลิ่นลากเสียง

           “ผมจะไปขอโทษ” ไหลน้ำยืนยัน

           “อย่าลืมละ” ฟองทะเลย้ำ

 

*      *      *

หมายเลขบันทึก: 321669เขียนเมื่อ 20 ธันวาคม 2009 14:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 16:51 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ให้อภัย

ยอมรับผิดขอบในสิ่งที่กระทำ

เกิดสันติสุข

สวัสดีคะ แวะมารับอรรถรสทางวรรณกรรม

ของผู้เสียสละเพื่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท