เมื่อถึงเวลาบ่ายโมง บุรุษพยาบาลหนุ่มในชุดผ่าตัด ๒ คน หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส ท่าทางขี้เล่น เข้ามาเข็นเตียงผมออกจากห้องเตรียมคนไข้ผ่าตัด คนหนึ่งเข็น คนหนึ่งจูงลาก เขาบอกให้ผมหลับตา จะได้ไม่มึนกับการมองฝ้าเพดานที่ไหลเลื่อนผ่านตาไปในขณะที่ผมนอนหงาย แต่ผมก็ไม่หลับตาเพราะอยากมองซ้ายมองขวา รู้สึกสนุกที่ได้มองอะไรไปเรื่อยๆ ก็เห็นป้ายบนกรอบประตูห้องที่เขาเข็นผมผ่านเข้าไปไปมีตัวอักษรโตๆ ว่า “เขตกึ่งปลอดเชื้อ” แล้วต่อมาก็เป็น "เขตปลอดเชื้อ"
ผมยังรู้สึกดีกับสีขาวของผนังทุกด้านที่ดูสะอาดสะอ้านมาก อุณหภูมิบนทางเดินเย็นมาก และก็เงียบสงบมาก เงียบกริบจริงๆ ขณะเคลื่อนไปไม่สวนกับใครเลย
ขณะที่เขาเข็นผมไปในเส้นทางสู่ห้องผ่าตัดนี้ มีคนเดินเข้าสมทบที่ข้างเตียงผมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ บางคนก็เอามือเกาะข้างเตียงผมไปด้วย คุณหมอไพโรจน์ ศัลยแพทย์ที่จะเป็นผู้ลงมีดก็เดินออกมาสมทบขบวนของเรา ท่านเดินอยู่ข้างๆ ทางขวามือผม ทุกคนแต่งชุดคลุมหัวแบบเดียวกันหมด มีแต่ผมที่แม้จะสีเขียวเหมือนกัน แต่ไม่ได้นุ่งกางเกง ผ้าห่มที่คลุมอยู่ทำให้ผมรู้สึกอุ่นทั้งกายและใจมาก
ขณะที่ขบวนเคลื่อนไปเรื่อยโดยไม่ใครพูดกับใครอยู่นั้น จู่ๆ ผมก็รู้สึกว่า “เวลาภายใน" ตัวผมช้าเวลาภายนอก รู้สึกเหมือนเตียงที่ผมนอนอยู่จะไหลไปอย่างช้าๆ ทุกคนที่เดินอยู่รอบๆ เตียงก็ดูราวกับจะค่อยๆ ก้าวเท้าไปแบบสโลว์โมชั่น จนผมอดรำพึงกับตนเองผ่านริมฝีปากออกมาเบาๆ ไม่ได้ว่า “เหมือนในหนังเลย” แล้วก็ได้ยินบุรุษพยาบาลคนนั้นพูดยิ้มๆ ทวนคำผมขึ้นมาเบาๆ ด้วยว่า “เหมือนในหนัง”
แล้วทันใดนั้น ผมก็เกิดความรู้สึกว่าทุกคนในขบวนนี้กำลังเดินทางไปปฏิบัติภารกิจอะไรบางอย่างร่วมกัน จะเรียกว่ากำลังไป "ออกรบ" ร่วมกันก็คงได้
ชั่วขณะนั้นผมรู้สึกถึงความเป็น "น้ำหนึ่งใจเดียว" กันของทุกคนในขบวนขึ้นมา...รู้สึกเชื่อมโยงกับทุกคนที่กำลังเคลื่อนขบวนไปอย่างช้าๆ นั้นอย่างลึกซึ้ง
มันเป็นช่วงเวลาของความปีติสุขที่ผุดพรายขึ้นภายในอย่างเข้มข้นมาก
ในภาวะนี้ไม่มีความกลัวอะไรหลงเหลืออยู่เลย แม้จะต้องตายไปในสงครามครั้งนี้ก็รู้สึกเป็นเกียรติด้วยซ้ำ เหมือนได้เป็นวีรบุรุษคนหนึ่งเลยทีเดียว
ชั่วขณะนั้นผมอยากให้ "เวลา" มันลื่นไหลเรื่อยๆ ช้าๆ อย่างนั้นตลอดกาล...
อยากให้ขบวนของเราเคลื่อนเหมือนลอยล่องไปในปุยเมฆอย่างนั้นชั่วนาตาปี...
เป็นช่วงเวลาที่ผมรู้สึกชื่นชมกับความเมตตากรุณาที่มนุษย์มีต่อกันขึ้นมาอย่างลึกล้ำ...
เป็นช่วงเวลาที่ผมสามารถเชื่อมโยงกับมนุษย์คนอื่นๆ อย่างแท้จริง...
เป็นช่วงเวลาที่ไม่มีใครโดดเดี่ยวในโลกใบนี้...
เป็นช่วงเวลาที่ทุกชีวิตเป็นหนึ่งเดียวกัน...
------------------------------------------------------------------------------------------------
อ่านบันทึกทั้ง ๙ ตอนในชุดผ่าตัดไส้เลื่อนของผมได้โดยคลิกลิงก์ข้างล่างนี้ครับ
สวัสดีค่ะ
*** ไม่มีใครที่ไม่เคยเจอเรื่องราวของความเจ็บป่วย เพียงแต่หนักเบาต่างกันไป
*** เคยเป็นคนสำคัญในขบวนมาแล้วหลายครั้งค่ะ...เป็นเวลาที่ไม่มีใครโดดเดี่ยวเลยในโลกใบนี้ ที่ได้พบเจอมาแล้ว
สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้สัมผัสกับความสุขนะคะ
ทุกคนทำหน้าที่เป็นผู้ให้ความสุขกับคนไข้ค่ะ
สุขสมหวังจงมีแด่ท่านในปีใหม่
เป็นช่วงเวลาที่ผมรู้สึกชื่นชมกับความเมตตากรุณาที่มนุษย์มีต่อกันขึ้นมาอย่างลึกล้ำ...
เป็นช่วงเวลาที่ผมสามารถเชื่อมโยงกับมนุษย์คนอื่นๆ อย่างแท้จริง...
เป็นช่วงเวลาที่ไม่มีใครโดดเดี่ยวในโลกใบนี้...
เป็นช่วงเวลาที่ทุกชีวิตเป็นหนึ่งเดียวกัน
ดีใจมากที่มีโอกาสได้อ่าน
...ขอบคุณอาจารย์ครับ...
ขอบคุณมากครับที่อ่านแล้วแสดงความคิดเห็น