มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เป็นองค์กรทางศาสนาที่จัดการศึกษาด้านพระไตรปิฏกและวิทยาการชั้นสูงตามวิสัย ทัศน์ของมหาวิทยาลัยที่ว่า "เป็นศูนย์กลางการศึกษาพระพุทธศาสนา บูรณาการกับศาสตร์สมัยใหม่ พัฒนาจิตใจและสังคม" ได้นำเครื่องมือ "การจัดการความรู้" มาพัฒนาด้านการบริหารมหาวิทยาลัย ภายใต้กรอบแนวคิดดังต่อไปนี้
๑. หลักการและเหตุผลในการใช้ “เจดีย์โมเดล” Stupa Model
๑.๑ พระพุทธศาสนาประกอบด้วยองค์ ๓ ที่เรียกว่าพระรัตนตรัย คือพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาสูงสุด และเป็นศูนย์รวม หรือแกนกลางการยึดเหนี่ยวทางจิตใจของพระพุทธศาสนิกชน
๑.๒. ที่ตั้งของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยลัย ณ ต.ลำไทร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา มีเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และพระไตรปิฎก รวมถึงพระราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ ๕ องค์ผู้สถาปนามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยซึ่งเจดีย์ดังกล่าวถือเป็นสัญลักษณ์และเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตของประชาคมชาวมจร
๒. องค์ประกอบของเจดีย์
๒.๑ ส่วนที่ ๑ ฐานล่าง ที่เป็นฐานเจดีย์ มีคำว่า Learning Organization
๒.๒ ส่วนที่ ๒ ฐานรอง มีลักษณะต่างระดับกันตามลักษณะเจดีย์ SANGHA DHAMMA และ BUDDHA
๒.๓ ส่วนที่ ๓ ส่วนที่เป็นองค์เจดีย์ มีลักษณะตั้งตรง มีภาษาอังกฤษ ๙ อักษร คือ MAHACHULA
๒.๔ ส่วนที่ ๔ ส่วนยอด มีลักษณะแหลม มีภาษาอังกฤษ คำว่า Vision
๓. นิยามความหมาย
๓.๑ ส่วนที่ ๑ ฐานล่าง มีคำว่า Learning Organization หมายถึง องค์กรมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ที่มุ่งมั่นพัฒนาองค์กรให้เป็นองค์กรมีชีวิต เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ เพื่อมุ่งสู่ปรัชญาของมหาวิทยาลัยที่เป็นส่วนยอดของเจดีย์ ทั้งนี้โดยการจัดการความรู้ เป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนองค์กร
๓.๒ ส่วนที่ ๒ ฐานรอง มีลักษณะต่างระดับกันตามลักษณะเจดีย์ SANGHA DHAMMA BUDDHA
ก. SANGHA หมายถึง การจัดการความรู้โดยเก็บ และการรวบรวมสาธารณปัญญา (Explicit Knowledge) ของผู้บริหาร คณาจารย์ เจ้าหน้าที่และนิสิตของมหาวิทยาลัยซึ่งเป็นชุมชนนักปฏิบัติที่เรียกว่า (CoP) รวมไปถึงการดึงองค์ความรู้ในแง่ปัจเจกปัญญา (Tacit Knowledge) ออกมาพัฒนาให้เป็นสาธารณปัญญา และสามารถนำไปใช้ได้ภายใต้กรอบ ๕ อย่างคือ ด้านการบริหารจัดการ ด้านการผลิตบัณฑิต ด้านการวิจัย ด้านการบริการวิชาการ และด้านการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม
ข. DHAMMA หมายถึง คลังความรู้ หรือขุมทรัพย์ความรู้ (Knowledge Asset) ที่เกิดจากการเก็บและรวบรวมองค์ความรู้ทั้งปัจเจกปัญญา และสาธารณปัญญา ของผู้บริหาร คณาจารย์ เจ้าหน้าที่และนิสิตของมหาวิทยาลัย ที่เกิดขึ้นและตกผลึกจากการแบ่งปันปัจเจกปัญญาและพัฒนาไปสู่สาธารณปัญญา อันจะก่อให้เกิดประโยชน์การต่อบุคลากรของมหาวิทยาลัยที่ประสงค์นำองค์ความรู้ที่ถูกต้องไปใช้ได้ถูกกาละและเทศะ
ค. BUDDHA หมายถึง องค์ความรู้ชั้นสูง ที่ผ่านกระบวนการจัดระบบ การคิด วิเคราะห์ และสังเคราะห์ จนกลายเป็นความรู้ในระดับ ปัญญา เป็นภาวะที่มุ่งให้บุคลากรสามารถใช้ปัจเจกปัญญาและสาธารณปัญญาเพื่อพัฒนาตนเองและองค์กรให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้อย่างยั่งยืน อันจะทำให้บุคลากรของมหาวิทยาลัยเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น เบิกบาน รู้เท่าทันความเปลี่ยนแปลงของโลกสอดคล้องกับนวลักษณ์ซึ่งเป็นวัฒนธรรมองค์กรของมหาวิทยาลัย
๓.๓ ส่วนที่ ๓ ส่วนที่เป็นองค์เจดีย์ มีลักษณะตั้งตรง มีภาษาอังกฤษ ๙ อักษร คือ MAHACHULAหมายถึง อัตลักษณ์ของบุคลากร และนิสิตของมหาวิทยาลัย ๙ อย่าง ที่มหาวิทยาลัยมุ่งมั่นพัฒนาให้เกิดขึ้นโดยใช้การจัดการความรู้ที่เป็นฐานของเจดีย์ที่กล่าวมาเป็นเครื่องมือ
๑. M – Morality มีปฏิปทาน่าเลื่อมใส
๒. A – Awareness รู้เท่าทันความเปลี่ยนแปลงทางสังคม
๓. H – Helpfulness มีศรัทธา อุทิศตนเพื่อพระพุทธศาสนา
๔. A – Ability มีความสามารถในการแก้ปัญหา
๕. C – Curiosity มีความใฝ่รู่ใฝ่คิด
๖. H - Hospitality มีน้ำใจเสียสละเพื่อส่วนรวม
๗. U – Universality มีโลกทัศน์กว้างไกล
๘. L – Leadership มีความเป็นผู้นำด้านจิตใจและปัญญา
๙. A – Aspiration มีความมุ่งมั่นพัฒนาตนให้เพียบพร้อมด้วยคุณธรรมและจริยธรรม
๓.๔ ส่วนที่ ๔ ส่วนยอด คือ “Vision” ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์ที่มหาวิทยาลัยมุ่งมั่นจะพัฒนาตัวเองเพื่อไปให้ถึงความสำเร็จ คือ ศูนย์กลางการศึกษาพระพุทธศาสนาระดับนานาชาติ สร้างคนดีและเก่ง อย่างมีสมรรถภาพ จัดการศึกษาและวิจัยดีอย่างมีคุณภาพ บริการวิชาการดีอย่างมีสุขภาพ บริหารดีอย่างมีประสิทธิภาพ
ครับ
ผมสนใจจะศึกษา KM ในพระพุทธศาสนายุคต้น
จะมีกรอบแนวคิดอย่างไร ครับ
ขอบคุณครับ