ในฐานะที่เป็นหัวหน้าคณะทำงานในจัดพัฒนาและฝึกอบรมการเีขียนบทความทางวิชาการ เรื่อง “การฟื้นตัวจากวิกฤติการณ์ของโลกตามทัศนะของชาวพุทธ” ระหว่างวันที่ ๑๓ – ๑๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ ณ มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาลัยเขตขอนแก่น นั้น
การดำเนินการโครงการดังล่าวนั้น สามารถสรุปที่ได้ดังนี้
๑. วิทยากรที่เข้าร่วมให้ความรู้ และวิจารณ์หัวข้อร่วมไปถึง Contains ประกอบด้วย ผศ. ดร. พระมหาหรรษา ธมฺมหาโส ดร.พระมหาสมบูรณ์ วุฒิกโร มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ศ.ดร.จำนงค์ อดิวัฒนสิทธิ์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และรศ.ดร.วัชระ งามจิตรเจริญ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
๒. จำนวนผู้เข้าอบรม ๖๑ รูป/คน ประกอบด้วย คณาจารย์ ๕๓ รูป/คน และนิสิตปริญญาเอก สาขาพุทธศาสนศึกษา มจร. จำนวน ๘ รูป/คน
๓. ผลการดำเนินงาน ได้รับโครงร่างบทความ จำนวน ๓๒ แบ่งเป็น
หัวข้อย่อย (Sub-Theme)
๑.การฟื้นตัวจากวิกฤติการณ์ของโลก โดยอาศัยการพัฒนาทางจิต ๖ บทความ
๒.การฟื้นตัวจากวิกฤติการณ์ของโลก โดยอาศัยการศึกษาเชิงพุทธ ๘ บทความ
๓.การฟื้นตัวจากวิกฤติการณ์ของโลก โดยอาศัยการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ๔ บทความ
๔.การฟื้นตัวจากวิกฤติการณ์ของโลก โดยอาศัยนิเวศวิทยาเชิงพุทธ ๖ บทความ
๕.การฟื้นตัวจากวิกฤติการณ์ของโลก โดยอาศัยพระพุทธศาสนาเพื่อสังคม ๘ บทความ
แผนงานต่อไป
วันที่ ๑๕ – ๑๖ มกราคม ๒๕๕๓ ติดตามฉบับสมบูรณ์ ณ วิทยาเขตขอนแก่น
วันที่ ๑๓ – ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ รวมบทความทั้ง ๔
วันที่ ๒๖ – ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๓ นำเสนอในงานมหาจุฬาวิชาการ
เนื้อหาหลักในการพัฒนาและฝึกอบรม
๑. เป็นการเรียนรู้ร่วมกันว่า บทความ (Academic articles) สำคัญต่อการพัฒนางานด้านวิชาการในระดับชาติและระดับนานาชาติอย่างไร ในขณะเดียวกัน การเขียนบทความมีความสำคัญต่อการพัฒนางานด้านวิชาการของคณาจารย์ และส่งต่อไปยังนิสิตได้อย่างไร
๒. เป็นการเรียนรู้ร่วมกันว่า บทความที่ดีนั้นควรมีลักษณะอย่างไร และเขียนบทความอย่างไรจึงจะได้ตีพิมพ์ รวมไปถึงหากจะต้องเขียนบทความนั้น สิ่งแรกที่ควรตระหนักรู้และทำความเข้าใจคืออะไร
๓. เป็นการเรียนรู้ว่า องค์ประกอบของบทความ คือ Title Introduction Boday and Conclusion นั้น มีสาระสำคัญ และมีรายละเอียดข้อปลีกย่อยอย่างไร
ข้อสังเกตจากดำเนินกิจกรรม
๑. ผู้เขียนยังขาดความเข้าใจเกี่ยวกับการเขียนบทความในประเด็นต่างๆ เช่น หัวข้อ เนื้อหา ภาษา เอกภาพ สารัตถภาพ สัมพันธภาพ และการอ้างอิง
๒. ผู้เขียนบทความอ่านหนังสือทางวิชาการในจำนวนที่น้อยมาก จึงไม่มีเนื้อหาเพื่อนำมาเขียนบทความ
๓. ผู้เขียนขาดกระบวนการในการย่อยข้อมูลทั้งปฐมภูมิ และทุติยภูมิ จึงทำให้เนื้อหาที่จะเีขียนขาดสัมพันธภาพของเนื้อหา
๔. ผู้เขียนไม่มีสนาม หรือหนังสือวารสารรองรับการเขียนบทความ ฉะนั้นก่อนเขียนจึงไม่มั่นใจว่าจะได้ัรับการตีติมพ์หรือไม่ อย่างไร
กราบนมัสการพระคุณเจ้าที่เคารพ
ผมชอบอ่านบทความหรือข้อมูลที่เกี่ยวกับศาสนาอย่างน้อยที่สุดนอกจากจะได้รับความรู้ใหม่ๆ แล้วยังสามารถนำปรับไปใช้ในงานที่ทำได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
ที่โรงพักพาน เชียงราย ที่ผมทำงานอยู่ก็เช่นเดียวกันคือทุกวันพุธช่วง ๔ โมงเย็นผมจะนำเจ้าหน้าที่สายตรวจของผมไปรับฟังธรรมะจากพระสงฆ์ที่วัดใกล้ๆ โรงพักเพื่อนำไปเป็นหลักปฏิบัติงานซึ่งคิดว่าได้ผลค่อนข้างดีครับ ซึ่งเรื่องนี้ผมเคยนำออกเผยแพร่ที่ http://learners.in.th/blog/supotematcha/325265
ขอกราบขอบพระคุณพระคุณเจ้าเป็นอย่างสูงนะครับสำหรับสิ่งดีๆ ที่ได้รับในวันนี้
นมัสการพระคุณเจ้า
กราบขอบพระคุณเจ้าค่ะ