สวดคาถาชินบัญชรแล้วจะรวย จริงรึ ?


บันทึกนี้คัดลอกจากบทความชื่อ “ เอหิปัสสิโก ท่านจงมาดูกันเถิด ”โดย ดร.พระมหาจรรยา สุทฺธิญาโณ
พระคุณเจ้า ดร.พระมหาจรรยา ได้ให้ข้อคิดเกี่ยวกับความเชื่อนี้ไว้อย่างน่าสนใจดังนี้ค่ะ

พุทธบริษัทหลายท่าน เคยนำปัญหาสับสนมาถามอยู่เสมอๆว่า ถ้าได้สวดคาถาชินบัญชรเป็นประจำจะทำให้ผู้สวดมีโชคลาภ ร่ำรวย หรือในเทศกาลสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นวันขึ้นปีใหม่ หรือวันสำคัญทางพุทธศาสนา เช่น วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา หรือวันอาสาฬหบูชา วัดวาอารามต่างๆมักจะจัดสวดอิติปิโส ๑๐๘ จบ หรือบางแห่งสวดกันถึงหนึ่งแสนจบ จะทำให้ผู้สวดร่ำรวย จริงหรือไม่......

.......หากนำเอาพระธรรมคุณบทที่ว่า เอหิปัสสิโก เป็นสิ่งที่ควรกล่าวกับผู้อื่นว่า ท่านจงมาดูเถิด มาเป็นบทพิสูจน์ตามหลักเหตุและผล ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่พระพุทธเจ้า และพระอริยสาวกใช้เป็นแกนในการสั่งสอนพระธรรม

คำตอบที่สามารถฟันธงลงไปได้เลยว่า การสวดอิติปิโส หนึ่งร้อยแปดรอบ หรือหนึ่งแสนรอบ ไม่สามารถทำให้รวยได้เลย เพราะเหตุกับผลไม่ตรงกัน

การสวดอิติปิโส หรือสวดคาถาชินบัญชร กี่รอบก็ตาม เป็นเหตุ

ความสงบที่ได้จากการสวดเป็นผลที่ถูกต้อง

ไม่เชื่อก็ลองไปสวดดูได้

นี่คือเอหิปัสสิโก เหตุและผลต้องตรงกัน.....

อย่างไรก็ตาม หากกลับมาดูหลักธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัส จะพบเหตุแห่งการมีทรัพย์ แต่ไม่มีตรงไหนตรัสไว้ว่าจงสวดบทนี้ซิจะรวย แต่พระองค์ตรัสวิธีการที่จะมีทรัพย์ไว้ใน ทิฏฐธัมมิกัตถะ ประโยชน์ ๔ อย่าง คือ

๑. อุฏฐานสัมปทา แปลว่าขยันขันแข้งในการทำงาน

๒. อารักขสัมปทา แปลว่ารักษาจัดการทรัพย์ที่หามาได้อย่างเหมาะสม

๓. กัลป์ยาณมิตตา แปลว่าคบมิตรดี

๔. สมชีวิตา แปลว่าดำรงชีวิตพอเหมาะ จับจ่ายใช้สอยทรัพย์เพื่อตอบสนองความจำเป็นให้เหมาะสมกับรายรับ รายจ่าย หรือหากทำรายจ่ายให้น้อยกว่ารายได้ ต้องมีทรัพย์เหลือเก็บ

คำว่า รวย หรือ จน ชี้กันด้วยจำนวนทรัพย์ที่เก็บได้ ใครเก็บทรัพย์ได้มาก ก็สมมติเรียกว่า รวย ใครเก็บทรัพย์ได้น้อย สมมติเรียกว่าจน

แต่พระพุทธเจ้ามิได้ตัดสินคนที่รวยหรือจน แต่ตัดสินที่คุณค่าของทรัพย์ที่มี หากผู้มีทรัพย์ยินดีในทรัพย์เมื่อไร ทรัพย์นั้นก็มีความหมายมาก ดังที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า สันตุฎฐิ ปรมัง ธนัง แปลว่า ความยินดี พอใจ ในสิ่งที่ตนมี ตนได้ เป็นทรัพย์อย่างยิ่ง

พระพุทธเจ้ามิได้ตรัสว่า ใครมีทรัพย์มาก จะเป็นคนมีทรัพย์ยิ่ง แต่ใครพอใจในทรัพย์ที่ตนมี ยินดีในสิ่งที่ตนได้และครอบครองอยู่ต่างหาก ที่ทรัพย์นั้นจะมีความหมาย.....

ใครอ่านบทความนี้แล้ว จะนั่งสวดมนต์ให้ทรัพย์วิ่งมาหา หรือห้อยเหรียญให้ดูดทรัพย์เข้ามาหา หรือจะปฏิบัติธรรมข้อทิฏฐิธัมมิกัตถประโยชน์ตามที่พระพุทธเจ้าสอนไว้แล้วจึงมีทรัพย์ ก็จงชวนกันปฏิบัติเพื่อพิสูจน์ดูตามบทพระธรรมคุณที่ว่า เอหิ ปัสสิโก ท่านจงมาดูเถิด วิธีการไหนได้ผลจริงๆ ตามที่พิสูจน์แล้ว ก็จงเลือกดำรงชีวิตด้วยวิธีการนั้นเถิด

สาธุ พระคุณเจ้า ช่างตรงไปตรงมา และไม่ได้ชวนเชื่อแต่อย่างใด

จะลองแบบไหนก็ตามแต่ใจนะคะ

ดร.พระมหาจรรยา สุทฺธิญาโณ คอลัมน์ ธรรมะจากวัด เทคโนโลยี่ชาวบ้าน ฉบับที่ 449 ประจำวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2552

หมายเลขบันทึก: 320142เขียนเมื่อ 14 ธันวาคม 2009 05:34 น. ()แก้ไขเมื่อ 3 ตุลาคม 2013 09:30 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (17)
พระมหาแล ขำสุข(อาสโย)

จุดมุ่งหมายการสวดมนต์

เพื่อระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย

เพื่อให้เกิดความสงบ

เพื่อรักษาคำสอน

การสวดมนต์เป็นการภาวนาอย่างหนึ่ง คือการบริกรรมภาวนา

ทำให้จิตสงบได้เป็นครั้งคราว เป็นขณิกสมาธิ ถ้าเข้าใจบทสวดด้วยก็ได้ปัญญา

การสำรวม กาย วาจา ใจ ในขณะสวดมนต์จัดเป็นศีล

จิตสงบเป็นสมาธิ การรู้ความหมายเป็นปัญญา

บางท่านก็สวดเพื่อ

ให้คุ้มครองตัวเองและครอบครัว

เพื่อความเป็สสิริมงคล

เพื่อความขลังศักดิ์สิทธิ์

ถ้าใครสวดเพื่อความร่ำรวย ก็เป็นความโลภไป อย่าสวดเพื่อความโลภเลย

เพราะถ้าสวดเพื่อความโลภพระพุทธเจ้าท่านว่าเป็นอันตราย

พุทธพจน์ว่า โลโภ ธัมมานัง ปริปันโถ แปลว่า ความโลภเป็นอันตรายของคุณงามความดี

เจริญพร

สวัสดีค่ะพี่ตุ๊กตา...

วันนี้ดาวตื่นมาทำวัตรตอนเช้าด้วย แต่ไม่ได้สวดชินบัญชรค่ะ อิอิ

สวดมนต์เพื่อระลึกถึงคุณพระรัตนตรัยและเพื่อความสงบแห่งจิตใจค่ะ... ^v^

สวัสดีค่ะ คุณณัฐรดา

ใบไม้ฯ ยังไม่เคยสวดชินบัญชรเลยค่ะ ได้ยินเสียงร่ำลือเรื่องปาฏิหาริย์ที่จะได้รับจากการสวดคาถานี้มาเนิ่นนาน... ก็ได้แต่สงสัย..

ใครที่อยากได้อยากมีไม่รู้จบ ทั้ง ๆ ที่ก็มีทรัพย์สินตั้งมากมายแล้ว แสดงว่าเขารู้สึกว่าเขาจน ในขณะที่บางคน คนอื่นอาจคิดว่าเขายากจน แต่เขากลับรู้สึกร่ำรวยอย่างยิ่ง เพราะเขารู้สึกว่า เขามีพอแล้ว

สำหรับใบไม้ฯ อยากร่ำรวยกัลยาณมิตร และพลังใจที่เข้มแข็งค่ะ 

ขอให้คุณณัฐรดารุ่มรวยในแบบที่ต้องการนะคะ..^__^..

สวัสดีค่ะ

เป็นคนหนึ่งที่สวดคาถาบทนี้มาเป็นสิบปีแล้ว

ปกติค่ะ ได้แต่ความสงบทางจิตใจเท่านั้น

เพราะหลวงพ่อโตคงไม่อยากให้ลูกศิษย์ของท่านงมงายจนไม่มีสติค่ะ

ขอบคุณที่มีบันทึกนี้ให้ร่วมแสดงความคิดเห็นค่ะ

สวดเพื่อทำให้ใจสงบค่ะ

รวยสติปัญญาดีกว่าค่ะ

สวัสดีค่ะ

บางทีการสวดก็กลายเป็นสีลัพพตปรามาสไปค่ะ

เช่นมีความเชื่อว่าสวดมนต์บทนี้แล้วจะไม่ตกนรกเป็นต้น ซึ่งพิจารณาดูแล้ว น่าจะค้านกับคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ที่ว่าคนเราเป็นกรรมทายาทของตนนะคะ มนต์บทเดียว ไม่น่าจะทำให้ลบล้างกรรมต่างๆไปได้

ดังเช่นพระคุณเจ้าหรรษาเคยเล่า พระโมคคัลลานะขนาดบรรลุอรหันต์แล้ว ยังหนีกรรมที่เคยทำต่อบุพการีจนต้องถูกทุบตีจนนิพพานไปไม่ได้

ประสาอะไรกับปุถุชน ยังไม่หลุดพ้นอย่างเราๆ มนต์บทเดียวหรือจะล้างอกุศลกรรมไปได้ล่ะคะ

สวัสดีครับ พี่ตุ๊กตา (ขอเรียกอย่างนี้เลย ^__^)

        ตัวอย่างในบันทึกนี้เป็นกรณีเฉพาะที่สามารถขยายผลไปตั้งคำถามกับข้ออ้างอื่นๆ ได้อีกมากมายครับ

        เข้าใจว่า ข้ออ้าง/ความเชื่อ ทำนองนี้ถูกสร้างขึ้นมาเล่นกับจุดอ่อนของคนจำนวนไม่น้อย ที่ต้องการร่ำรวย (ทางลัด) มีชื่อเสียง (จะได้นำไปทำอย่างอื่นต่อ) หรือพูดกว้างๆ ก็คือ ต้องประสบความสำเร็จถึงจะนับเป็นคนที่มีค่า (ตามค่านิยมของคนเดียวนี้ว่า ต้องทำอะไรสำเร็จ จะได้เป็น somebody ไม่งั้นจะเป็น nobody)

        เรื่องนี้สะท้อนออกมาในอีกหลายรูปแบบ เช่น

              - ปรากฏการณ์จตุคามฯ (เมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา)

              - ฆราวาสที่เผยแพร่ธรรมะ (ไม่กล้าใช้ว่า เผยแผ่ธรรมะ เพราะบางทีก็ไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เผยแพร่เป็นธรรมะหรือไม่) ซึ่งได้รับความนิยม ก็มักจะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จทางโลก (โดยเฉพาะทางการเงิน!)

              - หรือแม้แต่พระบางรูป ก็ใช้จุดนี้ "ล่อ" คนเข้ามาฟัง/ปฏิบัติธรรม! หากใช้เป็นแค่ 'กุศโลบาย' ที่โน้มนำให้คนสนใจธรรมะก็น่ายินดี แต่ถ้าคน (หรือพระ) หลงประเด็น ก็แย่เลย....

        ทำให้เกิดข้อสงสัยได้เหมือนกันว่า ที่ดูเหมือนคนสนใจฟัง สนใจอ่าน ฯลฯ นี่ จริงๆ แล้วสนใจธรรมะในแง่ของความรู้ที่นำไปปฏิบัติได้ หรือสนใจในแง่ที่ว่าทำอย่างไรจึงจะประสบผลสำเร็จทางโลกเหมือนคนอื่นเขาบ้าง (หรือทั้งสองอย่าง?)

 

---------------------------------------------------------------

        เมื่อวานได้คุยกับ น้องดาว blue star เรื่องจะส่งหนังสืออนุสรณ์ให้พี่ตุ๊กตา แต่ผมยังไม่มีที่อยู่ส่งไปรษณีย์ของพี่ตุ๊กตาครับ ยังไงรบกวนส่งมาให้ผมด้วยครับที่

        buncha(at)gmail.com

        [แทน (at) ด้วย @ ครับ]

อุ๊บส์...ขออภัยครับ

       e-mail ที่ถูกต้องคือ  buncha2509(at)gmail.com

เขียนผิดเพราะขาดสติ (สงสัยจะนินทาพระบางรูปมากไปหน่อยครับ...แหะ...แหะ)

สวัสดีค่ะคุณบัญชา ธนบุญสมบัติ

บางที ตัณหาของคนก็ทำให้เราลืมมองหาเหตุผลนะคะ เรื่องราวจึงออกมาแบบ ไม่รู้ไก่เกิดก่อนไข่ หรือไข่เกิดก่อนไข่

ขอบพระคุณที่แวะมาค่ะ

อิอิ ไม่ทันแล้วค่ะ ส่งไปแล้ว

เดี๋ยวส่งใหม่ค่ะ

^_^

  • มาแล้ว ได้ปัญญากลับทุกครั้งไป
  • ขอบพระคุณจริงๆ
  • ปีใหม่แล้ว มีสิ่งหนึ่งสิ่งใด ที่ผมได้ล่วงเกินไม่ว่าด้วยเหตุใดๆก็ดี ต้องขออภัยมา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ

 

เอาดอกไม้บนดอยอ่างขางมาสวัสดีปีใหม่เน้อ..

 

 

สวัสดีครับ ท่านณัฐรดา

  • ผมได้อะไรหลายๆ อย่างจากการสวดคาถาชินบัญชรครับ
  • ฝึกท่องฝึกจำ จนขึ้นใจ ท่องได้ จนจบบท
  • ยิ่งได้ความหมาย ยิ่งเห็นถึงความสำคัญของบทสวดพระคาถาชินบัญชรครับ
  • และได้อ่านบทความ นี้ เรื่องราวดีๆ ทำให้เห็นคุณค่าของพระคาถามากยิ่งขึ้นครับ
  • สวัสดีปีใหม่นะครับ ขอให้ท่านมีความสุขมากๆ ในชีวิตครับ

  • สวัสดีค่ะ เคยสวดชินบัญชรทุกคืนก่อนนอน ปฏิบัติร่วม 10 ปี ชีวิตดีขึ้นเยอะ สังเกตจากตัวเองไม่ค่อยจะมีใครมาสร้างความเดือดร้อนให้ หรือไปไหนมาไหนก็แคล้วคลาดปลอดภัย   มองๆชีวิตคนรอบข้างบางคนมีความทุกข์ในชีวิตหรือมีคนมาทำให้เดือดร้อนเป็นประจำ
  • แต่ตอนนี้เริ่มขี้เกียจซึ่งเป็นนิสัยที่ไม่ดี  สวดบางวันค่ะโดยเฉพาะวันเพ็ญ  ทุกคืนจะสวดบทอื่นด้วยเช่น อิติปิโส...   และอีกบทคือขอขมาพระแม่ธรณี พระแม่คงคาพระภูมิเจ้าที่ เทวดา  ของหลวงพ่อโอภาสี  ซึ่งไปนอนค้างอ้างแรมที่ไหนก็ปลอดภัยค่ะ
อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท