เวลาผมขับรถกลับบ้านตอนบ่ายๆวันอาทิตย์ ผมมักเจอสุภาพสตรีผู้หนึ่ง คุณคนนี้ไม่เหมือนใคร ครับเธอเดินอยู่ขอบถนนครับ ไม่หวั่นรถชน เธอเดินช้าๆ ไม่เร่งร้อน ผบเห็นจนชินตา คนอื่นก็คงชินตา แต่ถ้าลองสังเกตกันให้ดี เราจะพบว่าเธอต้องเดินพร้อม walker ครับ เธอขาแข็ง เธอเป็นคนพิการครับ เหตุที่เธอต้องเดินตรงขอบถนน เชื่อเพราะว่าเธอคงเดินบนทางเท้าไม่สะดวก ผมเชื่อว่าคนพิการอีกจำนวนมากที่ไม่สามารถไปไหนมาไหนอย่างอิสระได้
ผมเชื่อว่าคนทั้งโลกนี้ก็คงเคยเห็นภาพคล้ายๆกัน เชื่อว่ามีคนจำนวนมากที่เห็นใจ แต่ก็ไม่ทราบว่าจะทำอย่างไร
แต่เมืองกลางป่าในบราซิลไม่คิดอย่างนั้นครับ พ่อเมืองคิดว่าคนทุกคนควรต้องเท่าเทียมกัน คนพิการไปไหนมาไหนอย่างอิสระเช่นคนปรกติ เลยคิดใหม่ทำใหม่ครับ
1. ปรับทางเดินเท้าให้เรียบ ไม่ไม่หลุมบ่อ
2. ปรับให้รถเมล์ให้คนพิการขึ้นสะดวกโดยตัดบันไดออก จากนั้นก็ทำทางลาดตรงป้ายรถเมล์ให้คนพิการเข็นรถขึ้นไปเองได้
ผลคือเมืองนี้ได้รับการยกย่องจากหน่วยงานสำคัญของโลก เช่นสหประชาชาติครับ ในอเมริการใต้เองใครๆก็อยากไปเยี่ยมชมเมืองนี้ครับ
ผมเชื่อเหลือเกินครับว่าลงทุนไม่มาก แต่ชื่อเสียงไประดับโลก ดีกว่าการลงทุนสร้างไหยักษ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ไหนๆครับ
ผมว่าถ้าเราใส่ใจสิทธิมนุษยชนอย่างจริงจัง เราจะได้พบนวัตกรรม เราจะมีชื่อเสียงมากเลยครับ
ทฤษฎีผมคือลงทุนในสิทธิมนุษยชน ได้นวัตกรรม และชื่อเสียงครับ แถมถูกตังค์อีก
ผมฝันเห็นว่ามีเมืองอย่างนี้ในบ้านเรา
มีคล้ายๆกันไหมครับ ถ้ามีเล่าให้ฟังด้วยครับ
คิดว่าหากจะได้ในสิ่งที่ต้องการ ท่านต้องสมัครผู้ว่า กทม. นะคะ
ผู้รับผิดชอบเขาไม่มาอ่านคะ
ช่วยกันบอกต่อนะครับ น่าจะถึง
กำลังสร้างเขื่อนอยู่คับ ผมว่า
ใช้หัวใจนำทางครับ
เคยได้ยินเรื่องบราซิลกับคนพิการมาบ้างเหมือนกันครับ น่าสนใจ
ตรงคิดได้ไงนี่ล่ะครับ
บางที่ลงทุนสร้าง ไฮดรอลิกติดรถเมย์เลยนะครับ
ท่าทางหลายตัง