จิตวิทยา : ตาไม่ได้บอด แต่บอดจิต


เทอมนี้ผมมีสอนวิชาจิตวิทยาให้แก่ น.ศ. ป.ตรี และกลุ่มที่มาเรียนในเทอมนี้ เป็นกลุ่มเอกภาษามลายยูกับเอกวิทยาศาสตร์ เอกภาษามลายูมี น.ศ.มาจากมาเลย์ ด้วย ดังนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะให้ผมอสอนจิตวิทยาด้วยภาษามลายู แต่ก็อัลฮัมดุลิลลาฮฺ ทุกคนฟังไทยได้และรูเรื่อง การเรียนการสอนก็เลยดำเนินไปด้วยดี

เมื่อวานผมนั่งประชุมเพลินหน่อย เลยทำให้นักศึกษาต้องไปตามถึงห้องทำงาน ซึ่งไม่ใช่นิสัยของผมที่จะเข้าสอนช้า เลยทำให้เมื่อวานสิ่งแรกที่ต้องทำคือ ขอโทษนักศึกษาที่ไปสอนช้า

นักศึกษาที่ผมสอนมีความพร้อมที่จะเรียนเกือบ 100 % ถ้าพวกเขาขาด นั้นหมายถึงจำเป้นจริงๆ ส่วนเรื่องมาสายก็จะมีสาเหตุเดียว คือ อาจารย์ที่สอนเขาก่อนหน้านี้จะปล่อยตัวออกมาช้า ก็น่าเห็นใจพวกเขาเหมือนกัน

วัฒนธรรมที่มีอยู่กับนักศึกษาที่ มอย. คือ การเข้าเรียนสายกับขาดบ่อย อาจารย์บางคนที่ไปสอนที่ มอ.ปัตตานี เขาบอกว่า ตอนนี้ที่ มอ.ก็มีลักษณะนี้แล้ว ซึ่งก็เป็นไปตามที่ผมสรุป คือ พฤติกรรมแบบนี้ไม่ใช่กับนักศึกษาที่นี้ แต่เป็นกับนักศึกษามุสลิมเราทางภาคใต้ตอนล่าง ดังนั้นซิ่งที่เราต้องทำ คือ เปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมนี้ให้ได้

  1. สิ่งแรกที่ผมทำ คือ เราในฐานะครูผู้สอนต้องเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ นศ. หมายถึง อาจารย์ต้องตรงเวลาทั้งเวลาเข้าและเวลาออก มีอายัตหนึ่งต้องคำนึงให้มากๆ เพราะเรื่องพูดไม่ตรงกับถามนี้ ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลย
    อัลลอฮฺตรัสในซูเราะฮฺ อัศศอฟ อายัตที่ 2-3 ว่า
    َ أَيُّهَا الَّذِينَ آَمَنُوا لِمَ تَقُولُونَ مَا لَا تَفْعَلُونَ
    كَبُرَ مَقْتاً عِندَ اللَّهِ أَن تَقُولُوا مَا لَا تَفْعَلُونَ
    ความหมายก็ไม่ยากอะไรเพราะเป็นคำพูดที่ชัดเจนมาก .. "โอ้ผู้ศรัทธาทั้งหลาย(แน่นอนมุสลิมทุกคน) ทำไมเจ้าพูดในสิ่งที่เจ้าไม่ทำ ... บาปใหญ่ ณ อัลลอฮฺ คือ พูดในสิ่งที่พวกจ้าไม่ได้ทำ"
    ก็ไม่ได้หมายความว่า ไม่ให้พูด แต่ต้องพูด และพูดแล้วต้องทำ
    นอจากนี้ ต้องเป็นแบบอย่าง(กุดวะฮหะซานะฮฺ قدوة حسنة ) ที่ดีแก่คนที่เราสอนด้วย
    อันนี้นักจิตวิทยาสมัยใหม่อย่าง อัลเบิรด แบนดูรา บอกว่าเการเรียนรู้โดยการสังเกต
  2. วิธีที่สองผมทำแบบมีเงื่อนไข เพราะจุดประสงค์ของจิตวิทยา ศึกษาพฤติกรรมและใช้ประโยชน์โดยการเปลี่ยนพฤติกรรมให้มันดีขึ้น เมื่อผมต้องการให้ทุกคนเป็นคนตรงต่อเวลา (เพราะการไม่ตรงต่อเวลาเป็นลักษณะหนึ่งของคนกลับกลอก"มุนาฟิก") ผมใช้วิธีการเช็คชื่อ และให้คะแนนคนมาเยอะด้วย อัลฮัมดุลิลาฮฺ เดือนหนึ่งแล้วที่สอน เป็นไปตามเป้าที่ผมได้วางไว้

ในระหว่างที่สอน ผมได้ตั้งให้นักศึกษาไปศึกษาค้นคว้าหาคำตอบให้ผมด้วย นั้นคือ วิธีการขัดเกลาจิต นักศึกษาก็ได้ตอบมาบ้างแล้ว บางกอปจาเน็ทมาทั้งดุ้น บ้างก็เขียนมาดี แต่ก็มีบางอย่างที่คิดว่าผมจะต้องเสริมต่อ และตั้งใจจะเสริมต่อในบล็อกนี้

ก็นึกๆ เขียนวิธีขัดเกลาจิต ก็ไปเจออายัตอัลกุรอานอายัตหนึ่ง ซึ่งชวนคิดมาก ผมเลยตั้งชื่อบันทึกนี้ดังที่เขียนข้างบน

อัลลอฮฺได้ตรัสในสูเราะ อัลฮัจญฺ อายัตที่ 46 ว่า

ความว่า.. พวกเขามิได้ออกเดินทางไปในแผ่นดินดอกหรือ เพื่อหัวใจจะได้พิจารณาเพื่อพวกเขาเองหรือมีหูเพื่อสดับฟังมัน เพราะแท้จริงการมองของนัยตานั้นมิได้บอกดอก แต่ว่าหัวใจที่อยู่ในทรวงอกต่างหากที่บอด (ก็อบความหมายจาก http://www.alquran-thai.com )

อิบนุกะษีร(นักอรรถาธิบายอัลกุรอาน) ได้กล่าวว่า เวลาเดินท่องไปบนพื้นแผ่นดินนี้ เดินด้วยกายและทุกส่วนของร่างกาย นั้นหมายถึงเวลคนเราเดินทางนอกจากร่างกายเราได้เหยียย้ำบนพื้นแผ่นดินนั้นแล้ว หูเราจะได้ยินเสียงที่เกิดขึ้นรอบๆตัว ดังนั้นจะถือว่าเขาบอดไม่ได้ แต่สิ่งที่เขาบอดคือใจหรือจิต นั้นหมายถึง ดูไปก็เฉยๆ ฟังเฉยๆ มีความสุขกับสิงที่เกิดขึ้น แต่ต้องไตรตรองด้วย และนำสิ่งที่เกิดขึ้นที่นั้นให้นึกถึงพระเจ้าผู้ทรงสร้างมาก นั้นแหละถึงจะหมายถึงจิตไม่บอด

 

หมายเลขบันทึก: 319056เขียนเมื่อ 9 ธันวาคม 2009 10:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 11:13 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

สวัสดีค่ะอาจารย์

  • เทอมนี้สอนพฤติกรรมมนุษย์กับการพัฒนาตนค่ะ
  • ช่วงต้นเทอมให้งานทำ เพื่อเราจะได้เช็คว่ามีใครมาไหม
  • แต่ก็ยังมีด็กจะทยอยมา บางคนมาช้า บ้างช้ามาก
  • เลยเช็คชื่อ ให้ช้าสุด 15 นาที ที่เหลือก็เช็คให้แต่เช็คทีหลัง และกำกับว่ามาช้า..
  • นักศึกษามาตรงเวลามากขึ้น  ...
  • วันไหนไม่เช็ค เพราะเราเห็นมากันพร้อมหน้าพร้อมตา แล้ว
  • เด็กทวงเลยค่ะ 

จะหาคนที่สอนจิตวิทยาแล้วปุณาการได้ขนาดนี้ยากจริงๆๆๆๆ... อย่าว่าแต่จิตวิทยาเลยสาขาวิชาอื่นๆก็เช่นเดียวกัน หากเราสอนได้ประมาณนี้แม้หลายคนจะเรียกว่ามันคืออะไรก็แล้วแต่ แต่ผมมองว่าดีกว่าไม่ทำอะไรโดยการไม่นำศาสนาสมบูรณ์มาทำให้วิชานั้นๆกระจ่างและสมบูรณ์

   ขอเป็นกำลังใจ...และอยากให้เราขยายวงกว้างของการสอนแบบปุรณาการให้มากที่สุดครับ ด้วยความหวังและดุอาอฺครับ

จริงค่ะเรื่องการมาตรงต่อเวลา เพราะหนูหนักใจมาก ที่ว่ามหาลัยเราจะอยู่อย่างมหาลัยได้อย่างไรถ้านักศึกษาหรืออาจารย์ยังอยู่แบบนี้อีก เมื่อวันอังคารที่2 หลังจากวันรายอที่ผ่านมาก็เริ่มเปิดเรียนแล้ว หนูก็ได้ไปเรียนแต่เช้า ฝนตกหนักด้วย หนูก็ได้รออุสตาสเพื่อจะเรียนอัลกุรอ่าน พร้อมกับเพื่อนอีกสี่คน และที่คณะตอนนั้นก็เห็นอาจารย์แค่ไม่กี่คน ห้องเรียนก็ยังไม่เปิด หนูเบื่อที่จะต้องเห็นสภาพของมหาลัยแบบนี้ เปิดเรียนวันแรกก็ยังไม่มีไครมา ขนาดอาจารย์ยังไม่มา แล้วเด็กล่ะ จะเป็นอย่างไร เด็กก็จะดูผู้ใหญ่เป็นหลัก ถ้าเป็นแบบนี้อนาคตเราจะเป็นอย่างไร เขาก็จะพูดว่าก็เรายังทำตัวเหมือนเด็กปนเนาะ ไปที่ไหนก้ยังป็นปอเนาะนั้นแหละแค่อยากให้ทุกคนเปลี่ยนจุดตรงนี้ก่อน สิ่งอื่นที่ตามมาก็จะดีขึ้น อินชาอัลลอฮฺ

ครับอาจารย์

P
  • ตัวเสริมแรงตัวนีถอนออกเมื่อไร พฤติกรรมที่อยากได้ก็ไม่เกิดทันที
  • หรือว่า... ไม่รายวิชาก็คนสอนไม่จูงใจเลยทำให้เขาพร้อมที่จะหยุดเรียน
  • หรือว่า... พวกเขาเรียนเพื่อเกรด..ไม่ใช่เรียนเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างที่เราหวัง

ขอบคุณมากครับ อ.

P
  • อย่างที่อาจารย์ว่า อะไรที่มันสมบูรณ์แล้วเราจะบูรณาการทำไม
  • และจนถึงทุกวันนี้ผมก็ยังไม่เข้าใจดีว่าบูรณการคืออะไร
  • ผมเอาอย่างพ่อผม..ท่านสอนกีตาบ(หนังสือศาสนา) แต่ท่านจบด้วยวิธีการป้องกันอัคคีภัย และการวางตัวที่เหมาะสม การช่วยเหลือกันและกันเมื่อเกิดไฟไหม้
  • บางวันท่านสอนแค่สองบรรทัดเอง แต่ท่านสอนเป็นชัวโมง เพราะเนื้อหาที่ท่านสอนนั้นคือชีวิตประจำวัน
  • ถ้าบูรณาการคือสิ่งนี้ บูรณาการก็มีมาตั้งแต่โบราณแล้ว ...
  • หรือว่า... กลุ่มที่พยายามแยก(และได้ผลมาแล้่ว)อาณาจักรออกจากศาสนจักร แล้วแยกเอาศาสนาออกห่างๆจากชีวิตประจำวัน (ให้ทำแค่ในโบสถ์ ในวัด ในมัสยิด)

ถูกอย่างที่ ฟาตีฮะห์ ว่า อาจารย์พยายามมานานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งทำ โดนบ่นบ้าง โดนว่าบ้าง และพฤติกรรมที่อยากได้ยิ่งวันยิ่งห่างไกล

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท