รสช.ตันหยงลุโละ
ค่ายเรียนรู้ร่วมกันสร้างสรรค์ชุมชน 2548 รสช.48

44 วิธีสนับสนุนญิฮาด 3


44 วิธีสนับสนุนญิฮาด

 

 

 

 

 

 

31.การหลีกเลี่ยงชีวิตที่สุขสบาย 

ชัยคฺอับดุลลอฮฺ อัซฺซัม เคยกล่าวไว้ว่า “ความสุขสบายคือศัตรูของการญิฮาด”

แท้จริงภารกิจแห่งการญิฮาดนั้นยากลำบากและต้องการความเสียสละ ดังนั้นการหลีกเลี่ยงจากวิถีชีวิตที่สุขสบายจะช่วยขจัดอุปสรรคบางประการที่ อาจคั่นกลางระหว่างเรากับการญิฮาดได้ ท่านต้องสามารถที่จะนอนบนพื้นแข็งๆได้ สามารถที่จะทานอาหารนอกเหนือจากที่แม่และภรรยาทำให้ทานได้ สามารถใช้น้ำที่เย็นเฉียบอาบน้ำละหมาดและอาบน้ำยกหะดัษได้ และต้องไม่รู้สึกอะไรมากนักหากไม่สามารถจะอาบน้ำได้ทุกวัน

พี่น้องที่มีต้องการเป็นมูญาฮิดจำต้องมีความสามารถที่จะควบคุมความต้อง การของตนเองและไม่ปฏิบัติตามนัฟซูของตัวเองให้ได้ ท่านควรจะต้องเปลี่ยนแปลงนิสัยบางประการของตัวเองด้วย  เป็นต้นว่านิสัยในการกินและการนอน โดยควรจะแทนที่มันด้วยการถือศีลอดซุนนะฮฺในวันจัทร์และวันพฤหัสฯ และการละหมาดกิยามุลลัยลฺ  มูญาฮิดีนที่แท้จริงควรยอมสละทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้เพื่อหนทางของอัลลอฮฺ

32.การเรียนรู้ทักษะที่จำเป็นสำหรับมูญาฮิด

สมรภูมิแห่งการญิฮาดนั้นช่างกว้างขวางยิ่งนัก และมันก็ต้องการทักษะในหลายๆด้าน

พี่น้องทั้งหลายจำต้องเรียนรู้ทักษะเหล่านี้ เพื่อที่จะใช้มันรับใช้ศาสนาอิสลาม ที่ฉันต้องเน้นว่า “จงใช้มันเพื่อรับใช้อิสลาม” ก็เพราะว่า  กี่มากน้อยแล้วที่เราได้ยินบรรดามุสลิมอ้างว่า เหตุผลที่พวกเขาร่ำเรียนเพื่อให้ได้มาซึ่งปริญญานั้น ก็เพื่อรับใช้อัลลอฮฺ แต่ผลสุดท้ายพวกเขาก็ลงเอยด้วยการรับใช้ซึ่งกระเป๋า และผลประโยชน์ของตัวเองทั้งสิ้น

33.การเข้าร่วมญามาอะฮฺที่ทำงานเพื่อการญิฮาด 

การทำงานเป็นญะมาอะฮฺนับเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับมุสลิมในวันนี้ เพราะการประกาศใช้กฏหมายของอัลลอฮฺซึ่งเป็นภารกิจของเรานั้นไม่อาจกลับคืนมา ได้โดยปราศจากญะมาอะฮฺ  แต่เพราะทุกวันนี้มีกลุ่มทำงานเพื่ออิสลามมากมายเกิดขึ้น  คำถามก็คือแล้วเราควรจะเข้าร่วมกับกลุ่มไหนดี?

เนื่องจากญิฮาดเป็นการงานอันสูงส่งที่สุดหลังจากการศรัทธาในอัลลอฮฺ   มันจึงเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้สำหรับท่านในการเข้าร่วมกับญะมาอะฮฺที่มีญิฮา ดเป็นเป้าหมายหลัก ญามาอะฮฺใดๆก็ตามที่ไม่ได้ทำงานเพื่อการญิฮาด ไม่มีค่าพอแก่การพูดถึงแม้แต่น้อย นั่นก็เพราะว่ายุคสมัยแห่งการญิฮาดได้มาถึงแล้วนับตั้งแต่มีการฮิจเราะฮฺของ ท่านรอซูลุลลอฮฺ(ศ็อลฯ)  ญะมาอะฮฺที่บรรดาซอฮาบะฮฺได้เข้าร่วมก็ล้วนแล้วเป็นญะมาอะฮฺมีญิฮาดเป็นเป้า หมายหลักทุกครั้งไป ประวัติศาสตร์ได้แสดงให้เราเห็นแล้วว่า มีจำนวนถึง 9 ครั้งด้วยกันที่ท่านรอซูลุลลอฮฺ(ศ็อลฯ) ได้เข้าร่วมสงครามด้วยตัวของท่านเอง  และอีก 55 ครั้งที่ท่านได้ส่งกองกำลังออกไป  ทั้งหมดนี้ล้วนเกิดขึ้นในช่วงเวลาเพียงแค่สิบปี  และเราสามารถพบปรากฏการณ์เช่นเดียวกันนี้อีกในสมัยของคุละฟาอฺอัรรอชิดีนภา ยหลังจากท่าน

34.การเตรียมพร้อมทางด้านจิตวิญญาน 

ความปราชัยของมุสลิมไม่ได้มาจากความแข็งแกร่งของศัตรู หากแต่มันมาจากความอ่อนแอของพวกเราเอง  ดังที่อัลลอฮฺได้กล่าวว่า “และเคราะห์กรรมอันใดที่ประสบแก่พวกเจ้า ก็เนื่องด้วยน้ำมือของพวกเจ้าได้ขวนขวายไว้ และพระองค์ทรงอภัย (ความผิดให้) มากต่อมากแล้ว” [42:30]

ดังนั้นการเตรียมความพร้อมด้านจิตวิญญาณจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับภารกิจ อันยกลำบากของดีนนี้  เพราะท่ารอซูลุลลอฮฺ(ศ็อลฯ)ก็เคยแบกภารกิจอันหนักหน่วงนี้มาแล้ว อัลลอฮฺจึงได้สั่งใช้ให้ท่านจัดเตรียมความพร้อมด้านจิตวิญญาณ โดยตรัสว่า “โอ้ ผู้คลุมกายอยู่เอ๋ย ! จงยืนขึ้น(ละหมาด)เวลากลางคืน เว้นแต่เพียงเล็กน้อย  ครึ่งหนึ่งของเวลากลางคืน หรือน้อยกว่านั้นเพียงเล็กน้อย หรือมากกว่านั้น  และจงอ่านอัลกุรอานช้า ๆ เป็นจังหวะชัดถ้อยชัดคำ  แท้จริงเราจะประทานวจนะ (วะฮียฺ) อันหนักหน่วงแก่เจ้า ” [73:1-5]

เมื่อญิฮาดเป็นภารกิจที่หนักหน่วงที่สุดจากบรรดาคำสั่งใช้ของอัลลอฮฺ  มันก็ย่อมต้องการการเตรียมพร้อมที่มากมายนัก

35.การแนะนำอุลามาอฺแห่งสัจธรรมให้แก่ผู้อื่น 

เราจำเป็นต้องรับรู้ด้วยว่า เรากำลังอยู่ในช่วงเวลาที่อุลามาอฺสามารถที่จะ “กุ” ขึ้นมาได้ บรรดาศัตรูของอิสลามรวมทั้งสื่อและรัฐบาลมุสลิมที่อยู่ในการควบคุมของมัน สามารถที่จะส่งเสริมผู้ใดก็ได้ที่พวกมันแน่ใจและผู้เห็นว่าเป็นเสมือนภาพ พจน์ที่ดีของอิสลาม โดยการทำให้พวกเขามีชื่อเสียง โดยเฉพาะในประเทศมุสลิมพวกเขาสามารถที่จะแต่งตั้งตำแหน่งมุฟตีใหญ่ให้แก่อุ ลามอฺใดก็ได้ และทำให้พวกเขาเป็นอุลามาอฺระดับโลกได้ในทันทีโดยการจัดรายการโทรทัศน์ให้ แก่พวกเขา เพื่อให้พวกเขามีชื่อเสียง ในทางตรงกันข้าม บรรดาอุลามาอฺแห่งสัจธรรมนั้นได้ถูกข่มขู่ ขังคุก หรือไม่ก็ถูกฆ่าเสีย บรรดาสื่อต่างๆ ก็ปฏิเสธพวกเขา เช่นนั้นแหละประชาชนหลายคนจึงไม่รู้จักพวกเขา หรือสิ่งเหล่านี้จะทำให้พวกเขามีความรู้น้อยกว่าอุลามาอฺของรัฐบาล เปล่าดอก อุลามาอฺที่พูดออกมานั้นคืออุลามาอฺที่ทรงความรู้อย่างแท้จริง เพราะพวกเขาตระหนักในสัจธรรมแล้วก็พูดออกมาอย่างนั้น ดังนั้นมันจึงเป็นหน้าที่ของเราในการแนะนำผู้อื่นให้รู้จักพวกเขา

36.การเตรียมพร้อมสำหรับการฮิจเราะฮฺ 

บรรดามุสลิมที่อาศัยอยู่ท่ามกลางผู้ที่มิใช่มุสลิมและอยู่ภายใต้การ ปกครองของพวกกุฟฟารนั้น เมื่อรัฐอิสลามได้สถาปนาขึ้นที่มาดีนะฮฺ ท่านรอซูลุลลอฮฺ(ศ็อลฯ) จึงได้ประกาศว่า ไม่เป็นการเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะอยู่ร่วมกับบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา ดังนั้น มุสลิมควรเตรียมพร้อมทุกเมื่อที่จะแยกตัวออกเมื่อมีโอกาส

การเตรียมพร้อมสำหรับการฮิจเราะฮฺนั้นไม่ได้จำกัดเฉพาะแค่มุสลิมที่อยู่ ท่ามกลางผู้ที่มิใช่มุสลิมเท่านั้น หากแต่เป็นสิ่งที่มุสลิมทุกคนควรยึดถือปฏิบัติด้วย เพราะโดยปกติแล้วการญิฮาดนั้นต้องการการฮิจเราะฮฺ นั่นคือเหตุผลที่ว่าเหตุใดท่านรอซูลุลลอฮฺ(ศ็อลฯ) จึงได้กล่าวว่า “ฮิจเราะฮฺจะไม่มีวันหยุด ตราบใดที่ยังมีศัตรูให้ต่อสู้” (บันทึกโดย อะหมัด)

37.การให้คำตักเตือนแก่มูญาฮีดีน 

อันเนื่องจากมูญาฮิดีนนั้นก็มีความผิดพลาดและข้อบกพร่องอยู่ และพวกเขาก็ต้องการคำตักเตือน ท่านสามารถที่จะตักเตือนพวกเขาได้โดยตรง หรือฝากส่ง หรือโพสต์มันลงในอินเตอร์เน็ต ไม่ว่าท่านจะเลือกทางไหน ก็จงให้มั่นใจเถิดว่า สิ่งที่ท่านทำนั้นก็เพื่อหนทางของอัลลอฮฺ ไม่ใช่เป็นการจับผิดพี่น้องของท่าน

การตักเตือนนั้น มิใช่เพียงแค่ตักเตือนถึงข้อบกพร่องของพวกเขา หากแต่ยังหมายรวมถึงการเสนอแนวคิดใหม่ๆให้แก่พวกเขา และการเตือนพวกเขาถึงภัยอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น

38.การศึกษาเกี่ยวกับหะดีษฟิตัน

หะดีษฟิตัน(พหูพจน์ของคำว่า ฟิตนะฮฺ) คือหะดีษที่ท่านรอซูลุลลอฮฺ(ศ็อลฯ) ได้พูดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นกับประชาชาติของท่าน

คำว่า “ฟิตนะฮฺ” ณ ที่นี้ หมายถึง การทดสอบ

การศึกษาหะดีษฟิตันนั้นมีความสำคัญก็เนื่องจากเหตุผลดังต่อไปนี้ :-

  • ในเนื้อความของหะดีษหมวดนี้เองก็มีมากมายที่อธิบายถึงความสำคัญของมันเอง
  • คำพูดของท่านรอซูลุลลอฮฺนั้น(ศ็อลฯ)มักจะสั้นและกะทัดรัด อย่างไรก็ตามได้มีการบันทึกว่า ครั้งหนึ่งท่านรอซูลุลลอฮฺ(ศ็อลฯ) ได้พูดคุยกับศอฮาบะฮฺบางท่านอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เวลาฟัจรฺจนถึงเวลาอีซาโดยไม่มีการหยุด นอกจากเพื่อการละหมาดเท่านั้น จะมีเรื่องอะไรอีกเล่า หากไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับบดทดสอบที่เกิดขึ้นกับประชาชาตินี้ ตั้งแต่เวลาที่ท่านเสียชีวิตลงจนกระทั่งวันสิ้นโลก หากเรื่องนี้ ไม่มีความสำคัญแล้วไซร้ เหตุไฉนเล่าท่านรอซูลุลลอฮฺ(ศ็อลฯ)จึงพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ทั้งวัน?
  • บรรดาศอฮาบะฮฺเองก็มีความสนใจในการเรียนรู้เกี่ยวกับหะดษฟิตัน และมักจะถามท่านรอซูลุลลอฮฺ(ศ็อลฯ)เกี่ยวกับการป้องกันตนเองให้พ้นจากมัน

ประโยชน์หลักๆสำหรับมูญาฮิดีนในการเรียนและสอนเกี่ยวกับหะดีษฟิตันมีดังนี้ :-

  • ประโยชน์ที่สำคัญที่สุดก็คือ ศึกษาเพื่อป้องกันตนเองจากการตกเป็นเหยื่อของบททดสอบดังกล่าว
  • ญิฮาดได้มีบทบาทสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ของประชาชาตินี้ ดังนั้นการเรียนรู้เกี่ยวกับหะดีษฟิตัน จะทำให้เราสามารถดำเนินการญิฮาดให้อยู่ในทิศทางที่ถูกต้องได้
  • หะดีษฟิตันได้บอกอย่างชัดเจนว่า  การก้าวสู่ชัยชนะของประชาตินี้ จะไม่เป็นไปด้วยการเลือกตั้ง หรือการดะวะฮฺอย่างสันติ แต่จะเป็นไปด้วยการต่อสู้ในหนทางของอัลลอฮฺ
  • การศึกษาหะดีษฟิตันและบทบาทของญิฮาด จะทำให้วิสัยทัศน์ของคนๆหนึ่งชัดเจนขึ้น และจะกระตุ้นให้เขาเข้าสู่ตำแหน่งของมูญาฮิดีน

39.การเปิดโปงพวกฟิรเอาน์และนักมายากลของมัน

บรรดารัฐบาลต่างๆของโลกมุสลิมนั้นเปรียบเสมือนผู้ที่กำลังเล่นบทบาทเป็น ฟิรเอาน์กับมูซา และบรรดาอุลามาอฺประจบสอพลอเหล่านั้นก็กำลังเล่นบทบาทเป็นนักมายากลของ ฟิรเอาน์ที่หลอกลวงประชาชน บรรดารัฐบาลและอุลามาอฺประจบสอพลอเหล่านี้ คือศัตรูอันดับที่สามของประชาติที่คอยอยู่เคียงข้างพวกครูเสดและพวกไซออ นิสต์นั่นเอง

40.นาชีด

มุสลิมจำต้องได้รับการปลุกระดมเพื่อทำการญิฮาด

ในสมัยของท่านรอซูลุลลอฮฺ(ศ็อลฯ) ท่านมีบรรดานักกวีที่จะใช้กวีของพวกเขาปลุกระดมมวลชนมุสลิมและตัดขวัญกำลัง ใจของบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา ในวันนี้ นาชีดสามารถเล่นบทบาทนี้ได้ นาชีดที่ดีนั้นสามารถที่จะแพร่ขยายไปอย่างกว้างขวาง มันสามารถที่จะเข้าถึงผู้ฟังอย่างที่ท่านไม่อาจเข้าถึงพวกเขาได้ด้วยการ บรรยายหรือหนังสือ นาชีดคือการปลุกระดมที่มุ่งเน้นไปยังเยาวชนและสถาบันแห่งการญิฮาดในทุกยุค ทุกสมัย นาชีดคือองค์ประกอบสำคัญในการสร้าง “สังคมญิฮาด” ขึ้นมา นาชีดเต็มไปด้วยภาษาอาหรับแต่ขาดแคลนซึ่งภาษาอังกฤษ ด้วยเหตุนี้มันจึงเป็นภาระที่สำคัญยิ่งสำหรับบรรดากวีและศิลปินที่มี พรสวรรค์ทั้งหลายในการตอบสนองซึ่งภารกิจนี้

นาชีดหนึ่งอาจจะครอบคลุมถึงหัวหัวข้อต่างๆดังต่อไปนี้

การตายชะฮีด  ญิฮาดคือหนทางเดียวเท่านั้น  การสนับสนุนมูญาฮิดีน การสนับสนุนผู้นำการญิฮาดในปัจจุบัน(เพื่อให้บรรดาเยาวชนรู้จักพวกเขา )  สถานการณ์ของประชาชาติ  ภารกิจของเยาวชน  ชัยชนะของอิสลาม และการปกป้องศาสนา

นาชีดควรพุ่งประเด็นไปยังความยุติธรรมมากกว่าสันติภาพ และประเด็นไปยังความเข้มแข็งมากกว่าความอ่อนแอ นาชีดควรมีความหนักแน่นและสามารถยกระดับจิตวิญญาณได้ มิใช่ยิ่งทำให้ขาดความเชื่อมั่นหรือมีความอ่อนโยน

41.การคว่ำบาตรเศรษฐกิจของศัตรู

เมื่อษุมามะฮฺ อิบนุอุษาล ได้เข้ารับอิสลาม เขาก็คว่ำบาตรชาวกุเรชโดยการขัดขวางกองคาราวานบรรทุกข้าวสาลีเข้าสู่มักกะ ฮฺที่ผ่านบริเวณของเขา เฉกเช่นเดียวกัน วันนี้มุสลิมควรคว่ำบาตรเศรษฐกิจของศัตรูโดยการไม่ซื้อสินค้าของพวกมัน

42.การศึกษาภาษาอาหรับ

ภาษาอาหรับเป็นภาษาสากลของการญิฮาด งานเขียนที่เกี่ยวกับญิฮาดส่วนใหญ่มักจะเป็นภาษาอาหรับและสำนักพิมพ์ต่างๆก็ ไม่กล้าที่จะเสี่ยงเพื่อแปลมัน องค์กรเดียวเท่านั้นทุ่มเททั้งเวลาและเงินทองเพื่อแปลงานเขียนเกี่ยวกับญิฮา ดนั่นก็คือ หน่วยข่าวกรองของตะวันตก แต่แย่ตรงที่พวกเขาจะไม่แบ่งปันข้อมูลให้พวกท่าน

ภาษาอาหรับยังเป็นภาษาที่แพร่หลายในบรรดาหมู่ญาฮิดีนต่างชาติของทุกๆสมร ภูมิญิฮาด ดังนั้นหากท่านพูดมันไม่ได้ ท่านก็คงจะทำได้แต่เพียงพูดคุยกับตัวเองเท่านั้น  มันเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับมุญาฮิดีนที่จะต้องมีภาษากลางในการสื่อสารซึ่งกัน และกัน  และภาษาอาหรับก็คือภาษาที่ถูกเลือกมาแล้วสำหรับการนั้น

43.การแปลงานเขียนเกี่ยวกับญิฮาดเป็นภาษาต่างๆ

ดังที่กล่าวไปแล้วว่า งานเขียนเกี่ยวกับญิฮาดส่วนใหญ่จะเป็นภาษาอาหรับ พี่น้องท่านใดที่สามารถใช้ภาษาอาหรับได้ จึงควรแปลงานเขียนที่สำคัญเหล่านั้นออกมาในภาษาของตน

ทุกการเคลื่อนไหวสู่การเปลี่ยนแปลงนั้น มักจะเริ่มจากการเปลี่ยนแปลงทางปัญญาก่อนเป็นลำดับแรก  กล่าวกันว่า ในยุคสมัยของซอลาฮุดดีนนั้นเกิดขึ้นได้ก็เพราะการแพร่หลายอย่างรวดเร็วของ งานเขียนที่เกี่ยวกับการญิฮาด และเราก็กำลังมองเห็นปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นอยู่ในยุคปัจจุบัน เช่นนั้นแหละ การกลับมาของญิฮาดจำต้องได้รับการกล่าวขานในหมู่มุสลิมทุกคน

44.การสอนผู้อื่นเกี่ยวกับคุณลักษณะของ อัฏฏออิฟะฮฺ อัลมันศูเราะฮฺ

ท่านรอซูลุลลอฮฺ(ศ็อลฯ)กล่าวว่า “กลุ่มหนึ่งจากประชาชาติของฉัน จะดำรงไว้ซึ่งการต่อสู้ การปฏิบัติตามคำสั่งใช้ของอัลลอฮฺ การพิชิตศัตรูของพวกเขา และพวกเขาจะไม่ประหวั่นพรั่นพรึงต่อบรรดาผู้ที่ต่อต้านพวกเขา จนกระทั่งเวลานั้นได้มาถึง(วันแห่งการตัดสิน) (บันทึกโดย อัลหะกีม และเป็นหะดีษที่ศอเฮียะฮฺ)

นี่คือกลุ่มชนที่ได้รับชัยชนะ พวกเราทุกคนควรที่จะแข่งขันเพื่อที่จะได้มาอยู่ร่วมกับกลุ่มนี้

ท่านสามารถรู้จักกลุ่มนี้ได้ โดยคุณลักษณะเหล่านี้ :-

  • พวกเขาคือ “กลุ่มชน” : ที่ทำงานกันเป็นญามาอะฮฺและสั่งใช้กันให้ทำความดี
  • “การต่อสู้” :  เป็นกุญแจสำคัญของกลุ่มนี้ คุณลักษณะนี้เพียงข้อเดียวก็สามารถที่จะขจัดบรรดากลุ่มต่างๆที่ทำงานเพื่อ อิสลามในปัจจุบันนี้ได้
  • “พวกเขาเป็นผู้ที่ไม่ประหวั่นพรั่นพรึงต่อผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับพวกเขา” นั่นก็เพราะพวกเขามีอัลลอฮฺอยู่เคียงข้าง

ฉันเคยฟังอนาชีดอยู่บทหนึ่ง ที่ถึงแม้ว่าผู้ร้องจะเป็นผู้ชาย แต่เสียงร้องและเนื้อหานั้น ช่างเหมือนสตรีจนน่าประหลาดใจ ในสิ่งที่เขาร้องมาทั้งหมดนั้น มีอยู่ท่อนหนึ่งที่บอกว่า “ พวกเขาคือผู้ที่ไม่หวั่นไหว แม้กับบรรดาผู้ที่ทรยศพวกเขา” นั่นก็หมายความว่า พวกเขาอาจจะภูกทรยศจากมุสลิมหลายต่อหลายคน แต่นั่นไม่ได้ทำให้พวกเขาหวั่นไหวเลย

การสอนผู้อื่นเกี่ยวกับ อัฏฏออิฟะฮฺ อัลมันศูเราะฮฺ จะสามารถช่วยให้พวกเขาค้นพบกับสัจธรรมได้

มุสลิมคนใดก็ตามที่มีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับอิสลาม มีเหตุมีผล และเต็มใจทิ้งการตักลีด(การตามอย่างมืดบอด)ของกลุ่มหรือชูยูคฺ และไม่มีความคิดที่อคติ พวกเขาจะสามารถแยกแยะได้อย่างง่ายดายว่า กลุ่มไหนที่มีลักษณะดังกล่าวในปัจจุบัน เอกลักษณ์เหล่านี้จะอยู่กับพวกเขาอย่างไม่อาจแยกจากกันได้

ดังนั้น พี่น้องที่รักทั้งหลายเหล่านี้คือข้อแนะนำบางประการสำหรับพวกท่านในการสนับ สนุนญิฮาดที่เกิดขึ้นในทุกวันนี้ มันไม่ได้หมายความว่าท่านจักต้องทำทุกอย่างตามนี้ แต่ขอให้ท่านจงทำเท่าที่ตัวของท่านจะสามารถกระทำได้ และจงแนะนำให้ผู้อื่นทำอย่างที่ท่านทำด้วย

สุดท้ายนี้ เราขอต่ออัลลอฮฺ โปรดชี้ทางที่เที่ยงตรงแก่เรา และโปรดให้เราอยู่ในหมู่ที่สดับฟังโองการของพระองค์ และทำตามในสิ่งที่ดีที่สุด ขอพระองค์ทรงโปรดให้เราอยู่ในหมู่มูญาฮิดีนด้วย และโปรดประทานแก่เราซึ่งชัยชนะเหนือบรรดาศัตรูของพระองค์ด้วยเถิด  อามีน !

อันวารฺ อัลเอาลากี

คำสำคัญ (Tags): #วิธี
หมายเลขบันทึก: 318235เขียนเมื่อ 5 ธันวาคม 2009 07:21 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 พฤษภาคม 2012 21:21 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท