พลันท่านจะได้เห็นอาคารวิทยาศาสตร์และเทคโนฯ และจะเห็นกระท่อมน้อยรูปทรงทันสมัยเป็นกระท่อมติดแอร์ชั้นเดียว บรรยกาศรอบๆร่มรื่น อากาศสดชื่นมาก อดที่จะสูดหายใจอัดเข้าไปให้เต็มปอดไม่ได้ ทุกครั้งที่มา (มาทุกวันอยู่แล้วครับ)
กระท่อมน้อยที่ว่านี้มีชื่อว่า "The Cottage" ขายอาหารและกาแฟอิตาลี ผมไปชิมมาแล้ว รับประกันความอร่อย และเวลานั่งรับประทานจะเห็นวิวดีมากๆๆ มองออกไปจากกระท่อมจะเห็นคลองน้ำใส สโมสรเรือพาย เป็นสถานที่ที่นักศึกษาวิทยาศาสตร์การกีฬาและนักศึกษาที่สนใจ มาฝึกกีฬาทางน้ำ (รูปล่าง)
ถนนวิรัชดุษฎี จะผ่านหน้าอาคารวิทยาศาสตร์และเทคโนฯ และเชื่อมต่อกับถนนที่สามารถไปได้ทั่วมหาวิทยาลัยบนพื้นที่ประมาณ 1,250 ไร่ จะเดินก็ได้เพราะระหว่างทาง ไม่ว่าจะไปทิศทางไหน มันมีต้นไม้ร่มรื่นสวยงามเต็มไปหมด หลายคนชอบเดินออกกำลัง รวมผมด้วย หรือขึ้นรถ "Tram" (รูปล่าง) ฟรีครับ ไปทั่วมหาวิทยาลัยเลย ที่ผ่านหน้าคณะมีสายสีแดงและสีเหลืองครับ การจัดระบบดีมาก เหมือนรถไฟ BTS ต้องบอกว่า มาตรฐานครับ นักศึกษาไทยและต่างชาติรอดตายแน่
จากป้ายจอดรถ Tram หน้าคณะ มองไปอีกด้าน จะเห็น The Cottage ไกลออกไป และด้านซ้ายมือเป็นคณะวิศวะฯ ใกล้เข้ามาจะเป็นแปลงปลูกผักสวนครัว
แปลงปลูกผักสวนครัวนี้พิเศษมากครับ เพราะไม่ใช้สารเคมีใดๆทั้งสิ้น ปลอดสารพิษร้อยเปอร์เซนต์ มีผักสารพัดชนิดจำหน่ายหน้าสวนในราคาถูกมาก หากต้องการซื้อก็ซื้อกับป้ารำพึง ที่เห็นกางร่มสีม่วง ผมเป็นลูกค้าประจำครับ เราเรียกว่า "ผักป้ารำพึง"
ผักป้ารำพึงสุดยอดมาก เก็บไว้ในตู้เย็นไม่ต้องควบคุมอะไรมาก นานเป็นอาทิตย์ยังไม่ออกอาการเหี่ยวให้เห็นเลยครับ ลูกค้าของป้าตอนนี้เยอะมาก ผักปลูกไม่ทันแล้ว
จบแค่นี้ก่อนนะครับ คราวหน้าจะพาไปเที่ยวศาลายาอีก ยังมีเด็ดๆอีกเยอะครับ
Facebook :
เรียน อ.มานัส ที่เคารพ
ปีหน้า หากมีโอกาส ขออนุญาตพาบุคลากรและนักศึกษา ไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่ศาลายา นะครับ
มาเยี่ยมยามครับ บรรยายกาศดีมากมาก แถมมีรถรางด้วย น่ามาเรียนรู้ครับ
เรียน ท่านพี่ JJ และอ.ต้อม
ด้วยความยินดีครับ
เรียนอาจารย์มานัส
ขอบคุณมากที่ช่วยเล่าเรื่องศาลายา
อาจารย์ เจเจ ครับ หากจะมาเที่ยวชมเมื่อไร ผมยินดีจัดรถรางบริการพาทัวร์นะครับ
อนุชาติ พวงสำลี