ในการเรียบเรียงวิทยานิพนธ์ของนักศึกษาปริญญาโทหลายท่าน ในส่วนของเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง หรือบางสถาบันใช้คำว่า การทบทวนวรรณกรรม
พี่พยาบาลจาก รพ.สารคาม ซึ่งกำลังทำการรวบรวมเอกสาร จัดทำเค้าโครงวิทยานิพนธ์ ซึ่งขณะนี้เสร็จสมบูรณ์แล้วนั้น เกิดข้อสงสัยเช่นกันกับการรวบรวมเอกสารงานวิจัย เรื่องของการคำนวณหาอัตรากำลังพยาบาลตามภาระงานที่เหมาะสม
ในส่วนของบทที่ 2 ของวิทยานิพนธ์ที่ไปค้นคว้ามา เอกสารที่มีผู้ศึกษามา ทำไมช่างเหมือนกันทุกประโยคนะเนี่ย
วิทยานิพนธ์ที่ไปค้นคว้ามา มีของ มข. มหิดล เชียงใหม่ จุฬา
เหมือนกัน จนนึกว่า คนๆเดียวกันเป็นคนศึกษาค้นคว้าซะอีก
อ้างอิงผู้ทำวิจัย วารสาร หรือ วิทยานิพนธ์ ปีที่ทำวิจัย เลขหน้า
เดียวกัน ย่อหน้าที่พิมพ์ก็หมือนกันเป๊ะ รวมไปถึงเนื้อหาในส่วนอื่นๆ
เช่นวิธีกรดำเนินการวิจัย แทบจะไม่แตกต่างกันเลย เปลี่ยนเฉพาะ สถานที่
และจำนวนกลุ่มตัวอย่างเท่านั้น
"แล้วจะศึกษาไปทำไมกันเนี่ย" พี่พยาบาลซึ่งกำลังเตรียมเค้าโครงเรื่องนี้อยู่ได้ตั้งข้อสังเกตขึ้น
งานวิจัยของนักศึกษาพยาบาลบางหัวข้อ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า ดูเหมือนๆกันไปหมด ใส่คำสืบค้นเอกสารในห้องสมุด ได้ผลการค้นคว้าออกมามากมาย
เมื่อได้สอบถามเพื่อนชาวพยาบาลที่กำลังเรียนโทที่ มข. ก็แจ้งว่า มีหลายคนที่ทำงานและเรียนไปด้วย ไม่มีเวลาที่จะศึกษาค้นคว้าได้เต็มที่ เวลาที่จะมาพบอาจารย์ก็มีจำกัด หัวข้อที่ทำการวิจัย จึงไม่สามารถที่จะคิดให้แตกต่างกว่านี้ได้
"ความจริงก็อยากที่จะทำวิจัยหัวข้อใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อนเหมือนกัน แต่ไม่ไหวจริงๆ แต่ละวันลงเวรที่ตึกแล้ว หยิบหนังสือมาอ่านได้ไม่นานก็เพลียมากๆ แต่พยายามต่อสู้อุปสรรคต่างๆ เรียนให้จบได้ก็ถือว่า สุดๆแล้ว"
แต่อีกหลายคน ที่ค้นคว้าเอกสารงานวิจัย และเรียบเรียงด้วยตัวเองจริง
ดูเหมือนว่า ทาง มมส. ได้พยายามปรับปรุงคุณภาพของงานวิจัยนิสิตปริญญาโทให้มีคุณภาพมากขึ้น ในเรื่องของเอกสารงานวิจัย สิ่งที่อ้างอิงมานั้นจะต้องหาต้นฉบับมาแสดงให้ดูได้ ต้องระบุเลขหน้าที่อ้างอิงจากเอกสารนั้นได้อย่างถูกต้อง จะได้ไม่ต้องลอกข้อความจากงานวิจัยที่มีผู้ได้ศึกษามาก่อนหน้านี้แล้ว
งานวิจัยของปริญญาโท จะมีคุณภาพมากขึ้น
ปล. หัวข้องานวิจัยของพี่พยาบาล รพ.สารคาม ได้ปรับปรุงมาทำในแนวของ การพัฒนาแบบจำลองการจัดอัตรากำลังบุคลากรโดยการวิเคราะห์ภาระงาน เพื่อให้ตรงกับปัญหาวิจัยใน รพ.สารคามมากขึ้นแล้วครับ