กรุงเทพมหานครเตรียมผลักดันโครงการ รถไฟฟ้า โมโนเรล จำนวน 2 เส้นทาง คือ
1. เส้นทางวงกลมย่านจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย-ถนนพระราม 4
2. เส้นทาง กทม.2 (ดินแดง) เชื่อมรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ที่สถานีพญาไท เข้าถนนเพชรบุรีและสิ้นสุดที่ยมราช
ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดความเป็นไปได้ในการก่อสร้างได้รวดเร็ว คือ
- ทางวิ่งที่ใช้พื้นที่เกาะกลางถนน้อย
- ขนาดเสาตอม่อเพียง 1 เมตร
- มีพื้นที่พร้อมใช้เป็นศูนย์ซ่อมของโครงการโดยไม่ต้องมีการเวนคืนพื้นที่จากประชาชน
ขณะอยู่ระหว่างศึกษาและออกแบบ และศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม และตั้งเป้าจะเริ่มก่อสร้างภายในปี 2554
รถโมโนเรล เป็นระบบขนส่งมวลชนมีรูปแบบภายนอกคล้าย ๆ กับรถไฟฟ้าขนาดนัก เฮฟวี่ เรล ที่กรุงเทพฯ เปิดใช้อยู่ในขณะนี้ ต่างกันที่มีขนาดเล็กกว่า ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า มีทั้งระบบล้อยางและล้อเหล็ก ตู้โดยสารมีความกว้างประมาณ 4 เมตร ความยาวต่อตู้ประมาณ 10 – 15 เมตร โดยโครงสร้างทั้งทางวิ่ง คาน และเสาตอม่อจะมีขาดเล็กลง ทำให้มี ข้อดี ในเรื่องระยะเวลาของการก่อสร้างที่สามารถทำได้เร็ว ลงทุนน้อย แต่ก็มี ข้อด้อย ในเรื่องของความสามารถในการขนส่งผู้โดยสาร และความเร็วของรถ
ระบบโมโนเรลในประเทศมาเลเซีย มี 1 สาย คือ KL Monorail มีเส้นทางผ่านใจกลางเมืองกัวลาลัมเปอร์ ระยะทาง 8 กิโลเมตร 11 สถานี มีจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า 1 ขบวน มี 2 ตู้โดยสาร วิ่งด้วยความเร็ว 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขนส่งผู้โดยสาร 3,120 คนต่อชั่วโมงต่อทิศทาง ให้บริการทุก 3-4 นาที ค่าโดยสารเริ่มต้น 12 บาท สูงสุดไม่เกิน 40 บาท
ระบบโมโนเรลในประเทสสิงคโปร์ มี 4 สาย หนึ่งในนั้น คือน สาย LRT Bukit มีระยะทาง 7.8 กิโลเมตร 14 สถานี ไม่มีคนควบคุมภายในรถ มีแต่ผู้โดยสาร 1 ตู้โดยสารสามารถขนส่งผู้โดยสารได้ 105 คน ปัจจุบันมี 19 ขบวน สามารถขนส่งผู้โดยสารได้ถึง 440ล000-450,000 คนต่อวัน วิ่งด้วยความเร็วเฉลี่ย 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ค่าโดยสารเริ่มต้น 25 – 30 บาท นอกจากนี้ยังมีการให้บริการโมโนเรลในส่วนของการเดินทางข้ามฝั่งจากสิงคโปร์ไปยังเกาะ Sentora ซึ่งเป็นเกาะที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นสถานที่พักผ่อนของประชาชนและเป็นสถานที่ที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวอีกด้วย
เทคโนโลยีรถโมโนเรลในปัจจุบันเป็นเทคโนโลยีที่มีความเฉพาะของแต่ละบริษัท ตั้งแต่การออกแบบตัวรถ ขนาดราง สถานี งานโครงร้างพื้นฐาน งานระบบราง ตัวรถและอาณัติสัญญาณ ซึ่งไม่สามารถจะเลือกใช้แต่ละส่วนของแต่ละบริษัทได้ ทำให้ต้องพิจารณาให้รอบคอบเพราะอย่างน้อยจะต้องเป็นเทคโนโลยีที่ต้องรองรับได้ต่อไปอีก 20 – 30 ปี จึงจะคุ้มค่าในการลงทุน.
ข้อมูลทั้งหมดนี้ ผมสรุปมาจากบทรายงาน ใน นสพ.เดลินิวส์ เรื่อง โมโนเรล ทางเลือกใหม่แก้รถติดเมืองกรุง ระบบเสริม..สิงคโปร์-มาเลเซีย โดย คุณพัชรินทร์ ธรรมรถ ซึ่งเป็นรายงานการไปดูงานระบบขนส่งรถโมโนเรลของ ผู้ว่า กทม. คิดว่าน่าจะเป็นข่าวดีสำหรับการแก้ปัญหาจราจร และได้เปรียบเทียบการดำเนินการของประเทศเพื่อนบ้านใกล้ ๆ ของเราด้วยว่าเป็นอย่างไร...
สวัสดีค่ะพี่
พี่สบายดีนะค่ะ
เปลี่ยนรูปแล้ว จำไม่ได้เลยค่ะ ^_^