วันนี้มีความรู้สึกไม่อยากจะเขียน บันทึก นึกย้อนถึงคำสอนครูที่บอกไว้ว่า "พอเราเขียนไปเรื่อย ๆ เราจะมีความรู้สึกไม่อยากเขียน"มันเป็นเช่นนี้เองเหรอค่ะ เป็นไม่รู้สึกอยากจะเขียน บางทีตอนนี้ก็มีแว๊บว่า
"เขียนไปก็เท่านั้น" แหนะจิตชั่วมันก็พาเขวได้ไม่น้อย แต่ยังก็จะเขียนค่ะ เดี๋ยวหนูตายก่อนก็อดเขียนกันพอดี
จากเดิมที่หนูเคยเล่าให้ฟังว่าเป็นเด็กที่ชอบเเต่งตัว ติดภาพของสาวเภสัชที่ต้องแต่งตัวสวย โดดเด่น ก่อนออกจากหอพักก็ต้องแจ่ม พอเริ่มมารู้จักรู้ก็เริ่มมีความสงสัย "ฉันทำไปทำไม แต่งตัวไปเพื่ออะไร"
แต่ก็ยังแต่งอยู่ไม่ได้เลิกนะคะ มันโง่ขนาดนั้น
เพื่อน ๆ น้องก็เริ่มงง หนูดูเซื่องลง จากเดิมที่มักจะมีอาการไฮเปอร์ หมายถึง ทำอะไรแบบบ้า ๆ เต็มที่อย่างที่ชาวบ้านเขาไม่ทำกัน แต่หลัง ๆ มาเซื่องลง ช้าลง ไม่ใช่ทำได้ดีนะคะ ทำแบบงง ๆ อยู่ หลายครั้งก็หยุดคิด แล้วก็ซึม งง กับตนเอง
พอไปร้องคาราโอเกะกับเพื่อน ก็เป็นไม่มันส์ เป็นเซ็ง ๆ ไม่คึกเหมือนเมื่อก่อน ฟังเพลงก็น้อยลง จำโน๊ตได้น้อยลง ก็ร้องไม่เพราะไปโดยปริยาย พอรู้สึกว่าร้องไม่เพราะความอยากร้องมันก็ลดลง แล้วก็เป็นไม่อยากไป เหมือนมีความรู้สึกไม่มีอารมณ์ร่วมกับเพื่อน ลักษณะอาการคล้ายแปลกแยก
ช่วงนั้นหนูออกอาการสับสน ไม่อยากอยู่กับสังคม เพราะรู้สึกว่า ไม่เข้าใจสิ่งที่ตนเองทำอยู่ และไม่เข้าใจสิ่งที่คนอื่นทำอยู่
แต่บางทีเราก็เลี่ยงสังคมไม่ได้ตลอด หนูอยู่ในสภาวะแบบนี้นานเหมือนกันค่ะ แต่ครูก็จะเขามาสอนและมาเป็นเพื่อนแบบเป็นระยะ ๆ ไม่เคยห่างหาย ทุก ๆครั้งที่มาเจอครู ส่วนใหญ่จะเป็นร้านขายนมตอนเย็น ๆ ท่านก็จะพาคุยไปเรื่อย ๆ แล้วก็สอนพาพิจารณาเรื่องต่าง ๆ ทุกทีหนูก็จะพาหน้าเฉา ๆ หงอย ๆ ไร้ชีวิตชีวาของตนเองไปให้ครูช่วยชุบชีวิตทุกที
ทำให้หนูได้เรียนรู้ว่า ช่วงรอยต่อของการที่จะเข้าใจหรือพัฒนา บางทีเราอาจจะต้องผ่านสภาวะมึนงง แต่จะสั้น หรือ ยาวก็แล้วแต่ สติปัญญาของแต่ละคนค่ะ ส่วนจิตหนูมันดื้อมาก ๆ สอนยากสอนเย็น
ท่านอดทนมากค่ะ ระยะเเห่งความมืนงงของหนูยาวนานมาก เป็นปี ๆ คิดดูซิค่ะท่านอดทนขนาดไหน อืม..พิจารณาแล้วครูเหนื่อยจริง ๆ
คุณครูก็กำลัง งง กับชีวิตเหมือนกันหนู
แต่ว่าจะ งง ไม่นานนะคะ
ตั้งหลัก ให้ได้ค่ะ
ขอบคุณค่ะ ครู ป.1 ที่ให้กำลังใจ