นี่คือบางส่วนของการดูแลคนไข้ด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์จริงๆ...ของเภสัชกรที่ไม่ใช่แค่เพียงการจ่ายยาให้คนไข้เท่านั้น.............
“ความลับ ... ที่มีวันเปิดเผย”
“ลุงเสริฐ เจาะเลือดหรือยังคะ” เป็นคำพูดที่ทำให้ฉันต้องเงยหน้าจากการทำงานชั่วขณะ เป็นสนทนาของพี่รี พี่พยาบาลประจำสถานีอนามัยบ้านแยง สิ่งที่ทำให้ฉันต้องสนใจไม่ใช่แค่เพียงคำพูดที่ได้ยินเท่านั้นแต่ชื่อของลุงเสริฐต่างหากละที่ทำให้ฉันต้องสนใจ
นั่นเป็นครั้งแรกที่ฉันได้พบกับตัวเป็น ๆ ของลุงเสริฐ แกเป็นคนไข้ที่เรียกได้ว่าเป็นขาประจำของตึกผู้ป่วยในชายด้วยสถิติการนอนโรงพยาบาลบ่อยครั้งมากกับปัญหาเดิม ๆ คือ น้ำตาลในเลือดสูงตลอด ฉันกับเจ้าหน้าที่ของอนามัยบ้านแยงได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลเพื่อให้ติดตามเยี่ยมลุงต่อที่บ้านว่าเพราะอะไรที่ทำให้ลุงเสริฐน้ำตาลสูงตลอด
วันที่ฉันและทีมออกไปเยี่ยมบ้านสิ่งที่ฉันเห็นคือบ้านไม้เก่า ๆ บันไดเป็นไม้ผุ ๆ อยู่แค่ไม่กี่ขั้น แต่ละ แต่ละขั้นน่ากลัวเหลือเกินว่าสักวันมันคงจะพังลงมา ข้างหนึ่งมีราวจับที่ทำด้วยไม้ไผ่เก่า ๆ อีกข้างมีหัวตะปูโผล่ออกมา ฉันเห็นแล้วก็อดสงสารและเป็นห่วงลุงเสริฐขึ้นมาจับใจ
“หมอขึ้นไปบนบ้านก่อนซิ” ลุงเสริฐเชื้อเชิญฉันและทีมขึ้นไปบนบ้าน สิ่งที่ฉันพบคือสภาพบ้านที่โล่งไม่มีการกั้นเป็นห้องแต่อย่างใด เนื้อที่บนบ้านถูกแบ่งเนื้อที่เป็นห้องนอนที่มีแต่มุ้งเก่า ๆ และที่นอนอบู่ 2 ที่ ซึ่งอยู่กันคนละมุมของบ้าน เมื่อสอบถามเราได้รับคำตอบจากลุงเสริฐว่าเป็นที่นอนของแกกับลุงชายที่ทำงานเป็นคนเก็บตั๋วรถโดยสารที่นาน ๆ ครั้งจะได้มานอนเป็นเพื่อนแก เมื่อเราได้พูดคุยกับลุงเสริฐเราถึงได้ทราบว่าแกมีลุงทั้งหมด 4 คน แต่ละคนก็แยกย้ายไปมีครอบครัวเป็นของตัวเอง คงมีเพียงลูกสาวที่ทำงานอยู่ที่ลพบุรีเป็นคนส่งค่าใช้จ่ายมาให้ ดูท่าว่าแกคงจะรักลูกสาวคนนี้เป็นพิเศษ ฉันสังเกตเห็นแววตาที่แกเล่าถึงลูกสาวคนนี้ดูมีประกายแห่งความสุข ใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม หลังจากเราได้พูดคุยกับลุงเสริฐเราถึงได้รู้ว่าทำไมแกถึงไม่เคยคุมน้ำตาลได้เลย ด้วยวัยที่ล่วงเลยมาเกือบ 80 ปี ทำให้ความจำของแกเริ่มถดถอย สายตาที่ฝ้าฟางมองฉลากยาแทบไม่เห็น มิหนำซ้ำยังจำไม่ได้ว่ายากินอย่างไร กินแล้วหรือยังไม่ได้กิน นับว่าเป็นความโชคร้ายของแก แต่เป็นโชคดีของเรา คำถามที่ไม่เคยมีคำตอบเลย แต่วันนี้ฉันได้ค้นพบกับคำตอบนั้นแล้ว
ฉันนั่งคิดอยู่ในใจว่าเราจะทำยังไงให้ลุงแกกินยาได้ถูกซักทีนะ และแล้วฉันก็นึกขึ้นได้ ฉลากผู้สูงอายุยังไงล่ะ สามารถช่วยลุงเสริฐได้แน่ ๆ แล้วฉันก็ลงมือทำฉลากตัวอย่างยาให้ลุงเสริฐเพื่อให้แกจัดยากินตามตัวอย่างที่ทำไว้ให้
ฉันและคนอื่น ๆ ที่อนามัยบ้านแยง ไม่เห็นลุงเสริฐหลายวัน ถึงวันนัดก็ไม่มา ฉันเริ่มสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับแก สอบถามพี่รีได้ความว่าลุงแกไปอยู่กับลูกสาวที่จังหวัดลพบุรี ฉันรู้สึกดีใจที่ได้รู้แบบนี้ เพราะอย่างน้อยก็รู้ว่ามีคนดูแลแกได้
วันนี้บรรยากาศที่อนามัยบ้านแยงเต็มไปด้วยความวุ่นวายของผู้ป่วยที่มาหาหมอตามนัดเหมือนเคย “หมอ วันนี้ยาหมดแล้ว ขอมารับยาต่อได้มั๊ย” น้ำเสียงอันคุ้นหูผ่านเข้ามาในโสตประสาทของฉัน ทำให้ฉันต้องเงยหน้าขึ้นมามองเจ้าของเสียงนั้น สิ่งที่ฉันเห็นก็คือลุงเสริฐนั่นเอง “ลุงเสริฐ ไหนว่าไปอยู่กับลูกแล้วไง แล้ววันนี้มาทำอะไรจ๊ะ” ฉันไถ่ถามแกตามประสาคนคุ้นเคย “ไม่ไปแล้วหมอ พอเงินลุงหมด มันก็ไล่ลุงออกมาจากบ้าน ลุงจะไม่ไปหามันอีกแล้ว” น้ำเสียงของลุงเสริฐเต็มไปด้วยเสียงตัดพ้อ น้อยใจกับสิ่งที่ลูกทำกับแก “แล้วถ้าเขามาง้อล่ะ ลุงเสริฐจะไปมั๊ย” “ไปซิหมอ” ลุงเสริฐพูดไปยิ้มไป นี่แหละหนาที่เค้าพูดกันว่าตัดกันไม่ขาด รักของพ่อช่างยิ่งใหญ่เหลือเกิน
ลุงเสริฐกลับมาครั้งนี้ เราได้ตามมาดูลุงเสริฐอีกครั้ง โอ้แม่เจ้า ! เกิดอะไรขึ้น น้ำตาลของลุงเสริฐก็ยังไม่ลดลง ความดันก็ไม่ดีขึ้น เกิดอะไรขึ้นกับลุงเสริฐนะ ฉันและทีมได้ลงไปเยี่ยมบ้าน เพื่อหาต้นสายปลายเหตุอีกครั้ง พบว่า แกสามารถจัดยากินเองได้ แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าแกจำไม่ได้ว่ากินยาหรือยัง บางวันก็กินเพิ่ม บางวันก็ไม่ได้กิน จริงด้วยซินะ ฉันลืมไปได้ยังไงว่าลุงเสริฐแกมีปัญหาเรื่องความจำ
แล้วฉันจะทำอย่างไรกับลุงเสริฐดีนะ “พี่รี หนูว่าเราต้องจัดยาให้ลุงเสริฐกินแบบวันต่อวันแล้วแหละพี่” ฉันตัดสินใจปรึกษาพี่รี ฉันและทีมรีบจัดแจงหาซื้ออุปกรณ์ที่จะใช้ทำสิ่งประดิษฐ์เป็นปฏิทินการกินยาให้กับลุงเสริฐ จัดให้ตามวันนัด ลุงแกเพียงแต่หยิบยาที่จัดไว้ให้แล้วมากินไล่ไปตามวันที่ที่ทำไว้ให้
หลังจากนั้นผ่านไปประมาณ 1 เดือน ก็ทำให้ทุก ๆ คนแทบจะยิ้มแก้มปริ เมื่อพบว่าน้ำตาลและความดันของลุงเสริฐลดลงตามเป้าหมายที่เราทุกคนตั้งไว้ ฉันเองอยากจะร้องตะโกนไชโยดัง ๆ กับสิ่งที่เราพยายามทำให้แกมาตลอด
ทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันและทีมได้รับรู้เรียนรู้จากลุงเสริฐไม่ว่าจะเป็นชีวิตหรือปัญหาในการกินยาของลุงล้วนแล้วแต่เป็นบทเรียนที่มีค่าที่สุดสำหรับชีวิตการทำงานเป็นเภสัชกรของฉัน เพราะฉันรู้ดีว่าเวลาที่จะเอาใจใส่หรือใส่ใจปัญหาของคนไข้นั้นน้อยมาก ด้วยภาระงานที่เร่งรีบ จำนวนผู้ป่วยที่แสนจะมากมายในแต่ละวัน แต่ลุงเสริฐเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ฉันเข้าใจความหมายของคำว่า “ให้บริการด้วยหัวใจความมนุษย์” ได้เป็นอย่างดี
เขียนโดย เภสัชกร อรุณี ใจหวาน
เภสัชกรชำนาญการ
รพร.นครไทย
เภสัชกร โรงพยาบาลนี้
น้ำใจงามจริงๆ ครับ น่าชื่นชม
จาก เภสัชกรแกะดำ แห่งอุบลรัตน์
พี่รออ่านเรื่องต่อไปนะคะ...เรื่องแรกยังเขียนได้ดีขนาดนี้ รับรองเรื่องที่สองสุดยอดแน่ๆ...
เป็นกำลังใจให้นะ...พี่เชื่อว่าเมื่อเราหยิบเอาเรื่องราวดีๆที่เกิดขึ้นจากงานประจำมาถ่ายทอดผ่านเรื่องเล่าจะทำให้เราและคนอื่นๆที่ได้อ่านเห็นถึงสิ่งที่มีคุณค่า ประณีตและงดงามจริงๆ
เห็นเสียงดังๆ อย่างนี้ ใจดี และมีความเห็นใจผู้ป่วยมากเลย การไปเยี่ยมบ้านจะช่วยให้เราเขาใจข้อจำกัดของผู้ป่วยได้ดีขึ้น
เป็นกำลังใจให้จ๊ะ ทำแล้วสุขใจทั้งผู้ให้และผู้รับ
ได้ฟังอย่างนี้รู้สึกภาคภูมิใจในวิชาชีพเภสัชกรจังเลยค่ะ
ขอเป็นกำลังใจให้ คุณอรุณี ทำงานดูแลผู้ป่วยด้วยหัวใจที่งดงามแบบนี้ต่อไปนะคะ
แล้วสักวันความงามของน้ำใจก็จะฉายแววอกมาทางหน้าตาที่งดงาม อิ่มเอิบและมีความสุขค่ะ