เพียงแค่คุณมองเห็น


มหาเศรษฐีหรือยาจก กินข้าวแล้วก็อิ่ม1มื้อ เท่ากัน

เพียงแค่คุณมองเห็น 

วันนี้ได้อ่านบทความบทความหนึ่งที่ว่า

มหาเศรษฐีหรือยาจก กินข้าวแล้วก็อิ่ม1มื้อ เท่ากัน
มหาเศรษฐีหรือยาจก มีเสื้อผ้ากี่ชุด ก็ใส่ได้ทีละชุด เท่ากัน
มหาเศรษฐีหรือยาจก มีบ้านหลังใหญ่แค่ไหน พื้นที่ที่ใช้จริงๆ ก็เหมือนกันคือ ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว เหมือนกัน
มหาเศรษฐีหรือยาจก จะมียารักษาโรคดีแค่ไหน ยื้อชีวิตไปได้นานเพียงไร สุดท้ายก็ต้องตาย เหมือนกัน
มองทะลุวัตถุนิยม และเห็นความหมายที่แท้จริงของชีวิต

เมื่ออ่านบทความบทนี้ทำให้คิดถึงคำถามที่อาสาสมัครหลายคนที่จะมาทำงานในพื้นที่หรือหลายคนในสังคมถามว่า อิสรชนมาลงพื้นที่ทำอะไรบ้าง ? ซึ่งคำตอบมีแค่ว่า เรามานั่งฟัง มานั่งดู และมานั่งคุย คนสนามหลวง หรือคนที่ต้องมาอยู่สนามหลวง นั้นล้วนแต่ประสบพบเจอปัญหามาแตกต่างกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น การรักอิสระ ที่สังคมมองว่าเป็นการขี้เกียจของคนเหล่านี้ หรือการถูกกระทำจากสังคม การขับไล่ออกจากบ้านโดยญาติพี่น้องไม่ต้องการ คนที่มาอยู่ที่สนามหลวงล้วนแล้วแต่เป็นปลายผลของปัญหา ไม่ใช่เหตุ ของปัญหา

          เมื่อวันลงพื้นที่วันอังคาร ได้มีโอกาสนั่งพูดคุยสภาพในพื้นที่ให้กับอาสาสมัครท่านหนึ่งที่นำเงินบริจาค ว่าอิสรชนไม่ได้ทำอะไรมากกว่า การมองเห็นคนเหล่านี้ อิสรชนบอกเสมอว่า “มนุษย์ทุกคนเมื่อได้รับการยอมรับแล้วจะเกิดการพัฒนาด้วยตัวของเขาเอง” ทำไมอิสรชนใช้เวลานานในการพัฒนาคนหนึ่งคน หรือการที่จะส่งคนหนึ่งคนกลับบ้านนั้น ? คนสนามหลวงหลายคนมาอยู่ที่สนามหลวงเพื่อต้องการมีชีวิตใหม่ เป็นคนใหม่ แต่โอกาสที่เขามีไม่เท่ากันเท่านั้นเอง คนสนามหลวงหลายคนพยายามที่จะลืมเรื่องราว หรือการเป็นตัวตนเขาคนเก่าไป เพื่อไม่ต้องมีใครมาจำได้ ไม่อยากที่จะกลับเจ็บปวด มีตัวอย่างอย่าง Case หนึ่ง กว่าจะได้ชื่อจริงเขานั้นเราใช้เวลาเกือบ 2 ปี จน  2 อาทิตย์ที่จะส่งกลับ เราถึงจะรู้ชื่อที่แท้จริงของเขา

สังคมมองว่า ทำไม่ไม่ส่งเขากลับบ้านเลย ทำไมไม่เอาเข้าสถานสงเคราะห์ หรือ ทำไม ??? อีกต่าง ๆ นาน ๆ แต่อิสรชนก็ถามกลับไปว่า นั้นคือสิ่งที่เขาต้องการแล้วหรือ หรือเป็นเพียงสิ่งที่คุณคิดแทนเขาในมาตรฐานของสังคม หรืออะไรก็ไม่รู้ที่สังคมพยายามยกมาอ้าง ตลอดเวลา 10 กว่าปี ที่เราทำงานกับคนในพื้นที่สาธารณะ ที่เริ่มจากเด็กเร่ร่อน จนมาสู่ ครอบครัวเร่ร่อน เราลองทั้งผิดและถูกทำอะไรมามากมาย แต่สิ่งที่เราค้นพบคือ เขาแต่ต้องการคนที่พร้อมจะฟัง คนที่พร้อมจะมองเห็นเขาเท่านั้น อิสรชนเราเชื่อว่า คนทุกคนมีบ้าน จะหลังใหญ่หรือเล็ก สุดท้ายแล้วทุกคนอยากที่จะกลับบ้าน แต่ก่อนนั้นเรามาช่วยกันคืนสภาพของเขาด้วยการมองเป็นเขาก่อนดีไหม

อาสามัครที่เขามาคุยกับเราครั้งแรกเราก็จะบอกเสมอว่าคุณอย่ามีธงหรือถ้าคุณมีไฟได้แต่คุณต้องใจเย็น ๆ ในการทำงานในพื้นที่นี้ ที่คุณจะคิดว่าเข้ามาในพื้นที่แล้วทำกิจกรรมมากมายนั้นไม่ใช่ เหมือนทำค่าย อิสรชนลองคุยกับอาสาสมัครหลายคนที่ลงพื้นที่กับเราเกินอาทิตย์หนึ่งหลายคนบอกว่าการทำงานอาสากับคนยากกว่าการทำอาสาในรูปแบบกิจกรรม

อิสรชนในการลงพื้นที่ครั้งแรกอิสรชนขอเพียงคุณมานั่งดูสถานการณ์ มานั่งฟังเขาเท่านั้นเอง แล้วการช่วยเหลือต่าง ๆ ซึ่งกันและกันจะตามมา การมีอาสาสมัครที่เป็นหมอ เป็นนักศึกษามาไหว้คนไร้บ้าน เขารู้สึกดีมาที่มีคนมองเห็นเขา เพราะมันไม่มีสายตาที่มองอย่างดูเขาเป็นตัวประหลาดที่คนขับรถผ่านไปมามองเขา แต่สายตาของอาสาสมัครนั้นเป็นสายตาที่มองอย่างญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง เขารู้สึกเป็นมิตร แต่อิสรชนก็บอกอาสาสมัครทุกคนเสมอว่า คนในพื้นที่สนามหลวงนี้เขาไว้ต่อปฏิกิริยาที่แสดงออกมา เพราะเขาถูกกระทำมามากมาย เขาย่อมมีเกาะในการป้องกันตนเองอยู่แล้ว

ในเรื่องของปัจจัยพื้นฐาน 4 อย่างในการดำรงชีวิต เช่นยารักษาเบื้องต้น อาหาร น้ำ เสื้อผ้า หรือการประสานส่งต่อในกรณีต่าง ๆ นั้น เป็นสิ่งที่อิสรชนนำเข้าไปให้เขาเพื่อเติมกำลังในการลุกขึ้นสู้อีกครั้ง อิสรชนบอกหลาย ๆ คนว่าคนขี้เกียจ ปานนี้เขาคงตายแล้ว เพราะไม่รู้จักทำมาหากิน แต่เขาอยู่ได้อย่างไร บางคนอยู่มา 30 ปี แต่เอาชีวิตรอดมาได้ถึงทุกวันนี้ จากการที่คุณนทีได้ไปนอนที่สนามหลวง แล้วมาเล่าสู่น้อง ๆ ได้ฟังนั้น คุณนทีจะถามหลาย ๆ คน เสมอว่า ในการดิ้นรน ให้คุณเลือกระหว่างจะขอเงินเขากิน หรือ จะเก็บของในขยะที่คนกินเหลือทิ้ง ไว้ ถ้าคุณขอกินก็แสดงว่าในวันข้างหน้าคุณก็จะขอเขาเรื่อย ๆ เพราะครั้งแรกคิดว่าขอได้ง่ายนิดเดียว นี้แหละคนที่มาอยู่สนามหลวงแล้วเริ่มต้นด้วยการขอก็จะเป็นขอทาน หรือเรียกอีกอย่างว่าการชนตัง ซึ่งอิสรชนไม่เคยสนับสนุน และบอกอาสาสมัครเสมอว่า อิสรชนไม่เคยให้เงินคนในพื้นที่ และคนในพื้นที่ก็รู้ว่าไม่เคยขอเงินอิสรชนได้

แต่ก็มีอีกส่วนที่รักในศักดิ์ศรีแม้ไม่มีเงินแต่มีศักดิ์ศรี คือการคุ้ยขยะในถังขยะกิน หลายคนมองว่าเป็นสิ่งน่ารังเกียจ สกปรก แต่เป็นการดิ้นรนเพื่ออยู่รอด และเขาก็จะอยู่ในพื้นที่ด้วยการดิ้นรนทำมาหากิน รับจ้างวันละเล็กละน้อย หาของเก่ามาขาย เป็นทางเลือกที่คนในพื้นที่ส่วนใหญ่เลือกที่จะเดิน เพราะเหตุผลที่เขาไม่ไปอยู่สถานสงเคราะห์อีกเหตุผลหนึ่งก็คือ เขาคิดว่าเขามีมือ มีเท้า ทำมาหากิน แถมยังช่วยเหลือเพื่อนกันเองได้ ทำไมต้องไปให้รัฐเลี้ยง เขาหากินเองได้ อาจจะไม่ได้มากมายแต่ก็อยู่ได้ไปวัน ๆ นี้คือการเลือกทางเดินของคนที่มาอยู่ที่สนามหลวง

สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เป็นสิ่งที่ได้เรียนรู้หรือพบเห็นในพื้นที่ เพียงแค่คุณเปิดตา มองเห็นเขา เปิดใจที่จะเรียนรู้และให้โอกาสเขาไปกับเรา  แล้วคุณจะได้เรียนรู้อีกหลากหลายมุมของการต่อสู้ของคนไร้บ้าน หรือผู้ที่ใช้ชีวิตในพื้นที่สาธารณะ ห้องเรียนเห็นการเรียนรู้ที่ไม่มีที่สิ้นสุด แล้วมาช่วยกันคิดฟื้นฟูเขาไปพร้อมกับเราเมื่อเขาพร้อมที่จะพัฒนาตนเอง

สนใจร่วมเป็นอาสาสมัครกับเราได้ ติดต่อเราได้ ที่ 086 – 628 -2817 หรือสนับสนุนการทำงานของเราได้ ที่ โอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ ธนาคารกรุงไทย สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า
เลขที่บัญชี 031-0-03432-9 ชื่อบัญชี สำนักบริหาร สมาคมสร้างสรรค์กิจกรรมอิสรชน

 

เขียนและเรียบเรียงโดย

อัจฉรา อุดมศิลป์

หมายเลขบันทึก: 313052เขียนเมื่อ 12 พฤศจิกายน 2009 18:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 พฤษภาคม 2012 12:43 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท