ก่อนอื่นต้องกราบขออภัย คุณหมอพูนชัย ไตรภูธร (หมอจ๋อง) ที่ผมเขียนบันทึกแรกโดยเขียนชื่อท่านผิดไปว่า หมอพรชัย ไตรภูธร ครับ ก็ขอแก้ไขเป้น "พูนชัย" ครับผม ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า คุณหมอคงไม่ "ตำหนิ" กับความผิดพลาดของผม และ"เปรียบเทียบ" ผมกับคนอื่น ๆ น๊ะครับ ทั้งสองคำข้างต้นหลาย ๆ ท่านก็คงได้อ่านหรือยังไม่ได้อ่าน หากมีความคิดเห็นอย่างไรก็ตอบ หรือแนะนำเข้ามาบ้างน๊ะครับผม
ในบันทึกฉบับนี้ก็ขอพูดถึงอีก 2 ประโยค คือ "ชื่นชม" "ให้อภัยและให้โอกาส" ต่อจากที่เขียนไป 2 ประโยคแรกครับ เป้นเสน่ห์ชีวิตของผู้ที่นำไปปฏิบัติเช่นเดียวกันครับ "ชื่นชม" ความหมายของคำหรือประโยคก็คงจะตรงตามอักษร ทุกคนมักต้องการให้ใคร ๆ ชื่นชมตัวเอง แต่จะมีซักกี่คนที่จะชื่นชมด้วยความจริงใจกับเรา มีความรุ้สึกว่าอยากจะชื่นชมเราจริง ๆ ไม่ได้เสแสร้ง เมื่อลับหลังเราก็แอบนินทา...(น้าน..) ก็เป็นความจริงครับ เพราะเมื่อ มียศก็มีเสื่อมยศ มีลาภก็มีเสื่ิอมลาภ มีสุขก็มีทุกข์ มีสรรเสริญ ก็มีนินทา ตามที่เราท่านทราบเป็นอย่างดี แต่คนเราก็ควรจะ "ชื่นชม" ตัวเราและผู้อื่น ด้วยความจริงใจบ้างซึ่งก็จะเป็นเสน่ห์ชีวิตให้กับตัวเราเอง
คนเรา..(หมายถึงคนไทย..ไม่ทุกคน) จะมีใครบ้างไหมทำได้อย่างนี้ มีการชื่นชมตัวเองและคนรอบข้างสม่ำเสมอ คนไทย..(ไม่ทุกคน) มักจะมองคนอื่นๆหรือรอบข้าง ไม่ให้เด่นหรือเก่งกว่าตัวเอง..(จริงป่าว..ไม่รู้) เมื่อคนอื่นเก่งกว่าก็จะอ้างโน่นอ้างนี่..รวยกว่าก็ว่าเขาโกงมา..(เหมือนนักการเมืองปัจจุบัน..หรือเปล่า..ก็ไม่รู้ครับ) ที่กล่าวมาก็เป็นภาพใหญ่ผมขอเพียงเรามองกลับมาที่บ้านของเรา (ครอบครัว..)สถาบันแรกที่ทุกคนทราบดีว่าเป้นสถานที่บ่มเพาะ สร้างและทำลายให้คนๆหนึ่งเป้นคนดีหรือเลวก็ได้..ให้มีความรักความสามัคคีอย่างที่ต้องการในปัจจุบันก็ได้ ให้มีความแตกแยกกันเป็นฝักฝ่ายก้ได้และอีกหลาย ๆอย่าง ก็ได้ ....ลูกของเราเอา..เมียของเราเอง..เราเคยพูดหรือให้กำลังใจด้วยการชื่นชมอย่างใดอย่างหนึ่งหรือไม่... ไม่ใช่มีแต่คำด่า ผรุสวาท(ไม่รู้เขียนถูกหรือไม่..) เช่น มึงไม่เอาอย่างบ้านโน้นเลย..เขาทำกับข้าวอร่อย ส่วนของมึงเหมือนกับน้ำลางชาม..ไปโน่น.. (เมียตอบมั่ง) มึงอยากจะกินกับข้าวอร่อย..ก็ไปอยู่กับมันซิ.. ต่อมาคุณสามีก็ไปอยู่กับเขาจ้อย..นี่ก้เป็นตัวอย่างที่มีการติำหนิ เปรียบเทียบ และไม่ชื่นชมกันเลย ภรรยาอาจจะทำไม่อร่อยบ้าง..ก็อาจจะบอกว่า..แม่มึงเอ้ย.ไข่เจียวน่ะมันอร่อยดีแต่มันกรอบไปนิดนึง..คราวหน้าพ่อขอนิ่มๆ กว่านี้หน่อยน๊ะ.. และตัวอย่างลูกชายตัวดี ปกติมันชอบไปเล่นกับเพื่อนเตะบอล ขี่รถแมงกะไซด์ กลับเข้าบ้านค่ำ แต่วันนี้ดันกลับมาแต่วัน และยังนั่งอ่านหนังสืออีก...แม่เห็นกลับบอกว่า "สงสัยวันนี้ฝนจะตกแน่" พ่อเข้ามาเห็นพอดีถามคุณแม่ไปว่า..มันอ่านหนังสือก็ดีแล้ว..ไม่ชมมันซักหน่อยนึง..แต่คุณแม่บอกว่า..ชมมันได้ไงเดี๋ยวมันเหลิง..(หากไม่เข้าใจคำว่า"เหลิง" ให้กลับไปถามคนโคราช น๊ะครับ..) ครับก็คงจบแค่นี้แหละครับเกี่ยวกับคำว่า "ชื่นชม" อย่าลืมว่าการที่จะชื่นชมใครซักคนด้วยความจริงใจ..(จริงใจแบบแสดงด้วยสีหน้าและแววตา..หรือไม่นั้น ให้ท่านพิจารณาเองครับ) เขาจะมีกำลังใจและมีความสุข และไม่ลืมที่จะให้กำลังใจกับตัวเองบ้างน๊ะครับ... เออ..,macity นายก้เขียนบันทึกเป็นนี่นา ..เก่งเหมือนกันนิ....
จบครับ..
เจอเพื่อนทางธรรมอีกคนแล้ว สวัสดีค่ะขอชื่นชมที่เขียนบทความดีๆให้อ่าน เรื่องของการชื่นชมที่มาจากใจ เป็นพลังบวกในการทำงานทุกขนิดเลยนะคะ