กิจกรรม Peer Assist : beeman and MSU-KM
Peer Assist หรือ เพื่อนช่วยเพื่อน เป็นเทคนิคอย่างหนึ่งในการเรียนรู้เรื่อง KM โดยอาศัยวิธีการก้าวกระโดด เหมือนในเส้นใยประสาทที่มีเยื่อไมอิลินหุ้ม (myelinated nerve fiber) กระแสประสาท (Nerve impulse) กระโดดจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งได้ และกระโดดอย่างต่อเนื่อง ทำให้กระแสประสาทเคลื่อนที่ไปได้เร็วกว่าปกติ ดังภาพประกอบ
 |
||
|
ภาพของ Myelinated nerve
fiber ดูขยาย |
||
ในกิจกรรมของ UKM มมส.หรือมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ค่อนข้างที่จะเป็นน้องใหม่ (ซึ่งไม่ใช่น้องสุดท้าย เพราะยังมีตามมาอีกหลายมหาวิทยาลัย) ซึ่งมีการดำเนินกิจกรรมทาง KM เพื่อสร้างวัฒนธรรมขององค์กรไปสู่ LO (KM กับ LO นี้เหมือน ไก่กับไข่ ครับ ไม่รู้ว่าใครเกิดก่อน)
ใน Model ปลาทู ส่วนหางปลาหรือ KA (Knowledge Assets) [ภาษาไทย ใช้คำว่า "คลังความรู้" กับ "ขุมความรู้" ยังไม่มีข้อสรุปว่าจะใช้คำไหน] เป็นส่วนที่มีพลังของปลา ซึ่งปลาจะใช้ส่วนนี้แหวกว่ายไปสู่จุดหมายปลายทาง ที่สายตาและสมองจะสั่งงาน (ตามวิสัยทัศน์ขององค์กร)
ที่มมส. นอกจากจะทำ KM ไปตามแผนงานแล้ว ส่วนหนึ่งซึ่งนับว่ามีพลังและทวีความสำคัญขึ้นเรื่อยๆ ก็คือเรื่องของ blog ครับ (อ่านเพิ่มเติม ๑ สร้างบล็อกและเริ่มเขียนบันทึกอย่างไรดี ๒ นโยบายเรื่องบล็อกใน Gotoknow.org) ..แทรกโฆษณา
beeman เป็นนามแฝง ของบุคคลซึ่งมีความรู้เรื่องผึ้งค่อนข้างดีคนหนึ่งของประเทศ แต่ในขณะเดียวกันเมื่อมาสร้างบล็อกและเขียนบันทึก ก็ทำได้ดีไม่แพ้ความรู้เรื่องผึ้ง ดังนัน สคส. จึงจำใจมอบรางวัล"สุดคะนึง" ให้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2549 (รางวัลที่ได้รับคือ เสื้อยืดโปโล 2 ตัว สีฟ้าและสีเหลือง) ซึ่งในเดือนนั้น beeman อาจไม่ได้เขียนบันทึกได้ดีที่สุดเมื่อเทียบกับผลงานตัวเองในเดือนอื่นๆ แต่เผอิญในเดือนนั้นแมวมองจากสคส.เห็นแล้วว่าดีกว่าท่านอื่น (ท่านอื่นอาจเขียนดีกว่า แต่เผอิญแมวมอง มองไม่เห็นเอง ก็เป็นไปได้)
การได้รับรางวัล "สุดคะนึง" นี้ นอกจากรางวัลเล็กน้อย (แต่มีค่ามากทางจิตใจ) ที่ทางสคส.มอบให้แล้ว ยังมีสิทธิได้รับ สัญลักษณ์ นี้
 |
จากผู้พัฒนาระบบ Gotoknow.org อีกด้วย (ความจริงไม่ได้ตั้งใจ จะเขียนโฆษณาตัวเองหรอกครับ แต่เพราะเรื่องมันพาไป ให้ต้องบอกที่มาที่ไป...ขออภัยท่านผู้อ่านไว้ ณ ตรงนี้ด้วยครับ)
เมื่อผมจะมีโอกาส ได้เดินทางไปมมส.เป็นครั้งที่ 2 (ครั้งแรก 6-7 มกราคม 49) ในวันที่ 9-10 มิถุนายน 2549 นี้ ที่คณะเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ซึ่งมี ศาสตราจารย์สิริวัฒน์ วงษ์ศิริ (คลิกเข้าไปดูภาพ หรือ เข้าไปที่บันทึกนี้ เพื่อดูภาพที่ 3) เป็นคณบดีในปัจจุบัน ท่านอยากให้ผมไปร่วมงาน "ผึ้งและผลิตภัณฑ์จากผึ้ง" ด้วย เนื่องจากได้ทุนเมธีวิจัยอาวุโสของสกว. ซึ่งมีงบประมาณให้นักวิจัยได้มาพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบประการณ์งานวิจัยซึ่งกันและกัน
โอกาสอันดีเช่นนี้ ผมได้ติดต่อเข้าไปในบล็อกของ คุณ audit3.msu ชื่อบล็อกว่า หน่วยตรวจสอบภายในม.มหาสารคาม (สังเกตว่าผมจะไม่ใช้ลิงค์นี้ http://gotoknow.org/internalmsu แต่จะเขียนชื่อบล็อก-->แล้วทำ Hi-light--> กดเครื่องหมายโซ่--->ทำ Link ซึ่งเป็นวิธีที่ผมเรียนรู้มาจากคุณชายขอบ...สังเกตว่าจะทำให้บันทึกน่าอ่านกว่า Link เฉยๆ เพราะจะทำให้ผู้อ่านทราบก่อนว่า เมื่อ Link แล้วจะไปพบอะไร) ในชื่อบันทึกว่า สืบเนื่องจาก "จิบกาแฟคนเขียน Blog MSU-KM" ไปทิ้งรอยไว้ในข้อคิดเห็นเป็นลำดับ 7 ของบันทึก (ตรงนี้อยากจะแสดงให้เห็นถึงประโยชน์ของบล็อกว่ามีพลัง ในการจัดการความรู้อย่างมากทีเดียว) ว่า
|
สมลักษณ์ เมื่อ จ. 22 พ.ค. 11:17:52 2006 เขียนว่า:
|
|
ผมไม่คิดว่าจะมีอะไรมาก แค่ไปพบปะพูดคุยกันธรรมดา สัก 30-60 นาทีก็น่าจะพอ พอเป็นแนวทางให้ได้รู้จักกัน เผื่อหลงทางจะได้ไปถามทางกันได้บ้าง
แต่คุณ audit3 (ใช้นามแฝงหรือชื่อเล่นแบบนี้จำง่ายดี) คงเห็นว่า ไหนๆ beeman จะไปเยี่ยมทั้งที ควรจะใช้ประโยชน์ให้มากหน่อย เลยไปปรึกษากับ คุณวิชิต ชาวะหา (เลขานุการศูนย์พัฒนาทรัพยากรการศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม) ผลการปรึกษาก็ออกมาเป็นบันทึกชื่อ Beeman "Best blog of the month" in MSU. ครับ ส่วนงานที่จะจัดใช้ชื่อ "Beeman : the Best Bloger to MSU-KM" งานนี้ Open ให้คนมมส.ครับ
พอเห็นชื่อนี้ ผมก็สงสัยว่า เจ้าของบล็อก ภาษาอังกฤษเขียนว่าอย่างไร ระหว่าง "Bloger" กับ "Blogger" ครับ ผมก็ไปค้นใน Google ได้ คำเขียนและความหมายดังนี้ครับ
|
Blogger =
The author
of a blog who keeps and writes a blog. |
|
เป็นอันว่าเข้าใจการเขียนภาษาและความหมายไปพร้อมกันเลยครับ (เป็นการลปรร.กับผู้ที่จะเข้ามาอ่านซึ่งอาจเป็นเยาวชน คนรุ่นต่อไป จะได้ใช้คำได้อย่างถูกต้อง)
กลับมาเข้าเรื่องต่อนะครับ ในตอนเย็นวันที่ 26 พฤษภาคม 2549 เวลาประมาณ 16.35 น. คุณวิชิต ได้โทรศัพท์ส่วนตัว (ผมยังไม่เคยให้เบอร์มือถือกับคนมมส.มาก่อน เลยสอบถามคุณวิชิตว่าไปได้เบอร์มาจากไหน เฉลยว่า โทรไปถามคุณธวัช ที่สคส. มาครับ) มาปรึกษาผมในทำนองว่า "เมื่อพบ beeman ทั้งที ขอเวลาทั้งวันได้ไหม ผมก็บอกคงไม่ได้ เพราะคงต้องอยู่กับผู้เป็นเจ้าของงาน จะว่างก็ตอนเย็นๆ คุณวิชิตต่อรองว่า ก่อนหน้า 1 วัน ได้ไหม ผมก็ตอบว่าไม่ได้ เพราะมีโปรแกรมกับทางสวทช.แล้ว ดังนั้นคุณวิชิตก็เลยสวบบทนักต่อรอง ขอให้เป็นวันต่อจากที่ผมไปขอนแก่นก็ได้ ซึ่งมาลงเอยในวันที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๔๙ โดยทางคุณวิชิตจะได้ไปปรึกษากับทางผู้ใหญ่ของมมส.ของบค่าขนมเล็กน้อยมาใช้ในการจัดงาน"
ผมมาคิดอีกทีว่า ไปทั้งทีควรให้เกิดประโยชน์หลายๆ อย่าง เลยมาเขียนบันทึกนี้เพื่อชาว มมส.นะครับ
เพื่อนช่วยเพื่อน (เรื่องบล็อก) เป็นประโยชน์ที่สำคัญอย่างหนึ่งของ KM คือไม่ต้องมัวเสียเวลาคลำหาวิธีทำงานดีๆ กันเอาเอง สามารถเรียนลัด หรือเรียกว่า "วิธีก้าวกระโดด" จากคนหรือหน่วยงานที่เขามี วิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) อยู่แล้ว
ซึ่งในกรณีนี้คือ ความรู้ภาคปฏิบัติเรื่องบล็อกและการเขียนบันทึก ซึ่งเป็นความรู้ฝังลึกอยู่ในตัวของ beeman (ตอนเริ่มเขียนบันทึก ไม่รู้ว่าตัวเองมี แต่มีหลายคนบอก เช่น ท่านอาจารย์มาลินี และท่านอาจารย์หมอวิจารณ์) ดังนั้นจึงเป็นโอกาสอันดีที่ Blogger (หรือท่านอื่นๆ ที่สนใจ) ของชาวมมส. จะได้มา F2F กับ beeman แบบตัวเป็นๆ ในห้วงเวลาครึ่งวันหรือหนึ่งวันแล้วแต่ผู้จัดและผู้ฟัง ในวันที่ 5 มิ.ย. นี้นะครับ
กิจกรรมนี้ เป็นกิจกรรม "เพื่อนช่วยเพื่อน" ของคนมน.คนหนึ่ง ซึ่งไม่เคยรู้เรื่อง KM และบล็อกเลย (ย้อนกลับไปก่อนวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2548) จะไปช่วยให้คนมมส.เรียนรู้แบบก้าวกระโดด (จะได้ทันเพื่อนๆ ในวงการ KM ในเรื่องของบล็อก) จากวิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศในเรื่องของบล็อกนะครับ (ขอฝากคำคม : ความรู้มันขี้อายและสลายไปเร็ว ดังนั้นขณะลปรร. เราต้องรีบจดไว้นะครับ)
แต่ขอให้ระลึกอยู่เสมอว่า บล็อกไม่ใช่ KM นะครับ แต่เป็นเครื่องมือที่จะทำให้เราค่อยๆ เข้าใจเรื่อง KM และในความคิดของผมนะครับ "บล็อกนี่มันมีพลังที่จะนำพาเราไปสู่ องค์กรแห่งการเรียนรู้ (Learning Organization)" ได้ไม่วันใดก็วันหนึ่งครับ
หมายเหตุ : รายละเอียดของเครื่องมือ เพื่อนช่วยเพื่อน สามารถหาอ่านเพิ่มเติมได้จากหนังสือ “การจัดการความรู้ ฉบับนักปฏิบัติ” ของท่านอาจารย์หมอวิจารณ์ หน้า 157 – 162 ครับ..
ความเห็น (8)
Dr.Ka-poom
ชื่นชมคะ(แอบมาแซวคะ..ยิ้มๆ)...เป็นเรื่องเล่าเร้า"พลัง"ใจจังคะท่าน beeman เรื่อยๆ แต่ชวนให้อ่านติดตามบรรทัดต่อบรรทัด...เจอกันสัปดาห์หน้านะคะ...ดีใจที่จะได้เจออาจารย์...ทราบจากคุณ"ชายขอบ" ว่าอาจารย์น่ารักมาก...เหมือนผึ้งน้อย(อันนี้เปรียบเองคะ)...ที่ผงาดเป็นพญา"ผึ้ง"..แห่ง..มน.
- ได้คุณ Dr.Ka-poom มาเยี่ยมให้กำลังใจเรื่อยๆ ทำให้มีกำลังใจเขียนต่อครับ
- บางครั้งก็รู้สึกท้อถอยเหมือนกัน
- ครั้งไปบ้านผู้หว่าน นั้นเกร็งๆ ครับ
- แต่ไปขอนแก่นครั้งนี้พบคนกันเองทั้งนั้น คงลปรร.กันสนุกมาก
- และคงได้ ลปรร.กันเรื่องภาษา นะครับ อีสานกับใต้
- อ้อลืมไป ได้ Speak English กับ คุณขจิตด้วย
- ไว้พบกันครับ แต่ผมไปถึงช้ากว่าคนอื่นๆ นะครับ
Dr.Ka-poom
เรารู้สึกเช่นเดียวกันคะ...ว่าพักหลังๆ อาจารย์เงียบไป
จริงๆ แล้วดิฉันกับ"คุณชายขอบ"เป็นแฟนคลับอาจารย์นะคะ
พออาจารย์เงียบไป...เราก็เหงา...
แต่พอมาเจอบันทึกนี้...
อ้า!...ท่าน beeman กลับมาแล้ว...ด้วยพลังดั่งเดิม
ตามสไตล์...คน"beeman"
- ได้กำลังใจเพียบเลยครับ
- ขอบคุณ คุณชายขอบ และ Dr.Ka-poom ครับ
- ผมว่าในความแตกต่าง พวกเราก็มีหลายอย่างที่เหมือนกันครับ คือคอยให้กำลังใจซึ่งกันและกัน
- ผมก็แอบไปบล็อกของคุณชายขอบ บ่อยๆ ครับ ไปแล้วก็เป็นทุกข์ ไม่อยากแบกโลกบนบ่า ก็เลยกลับออกมา แต่บางบันทึกก็ไปทิ้งรอยไว้เหมือนกันนะครับ (ผมเป็นแฟนคลับคุณชายขอบเหมือนคุณบอยเลยครับ)
- แต่บันทึกของ Dr.Ka-poom นี่ ใช้ภาษาที่ต้องคิดทุกครั้ง ผมอ่านแล้วต้องถอยออกมาก่อน เอาไว้เจอตัวเป็นๆ แล้วค่อยไปติดตามอ่านรวดเดียวครับ
- สมกับที่ได้รางวัล"สุดคะนึง" จริงๆค่ะอาจารย์ รวดเร็วมาก ขนาดมมส.เอง ที่เป็นผ่ายเชิญอาจารย์มา ยังช้ากว่าเลยค่ะ
- ขอขอบคุณแทนชาว blogger มมส(เขียนถูกแล้วนะค่ะ) อีกครั้งนะค่ะ สำหรับการที่อาจารย์สละเวลาไปให้
- ได้เรียนรู้เรื่องราวของKM เพิ่มขึ้นอีกแล้วค่ะ วันนี้
- จะรอพบอาจารย์ที่ มมส.แน่นอนค่ะ 5 มิ.ย. 49
ปล. เขียนนามแผงให้สั้นลงแล้วนะค่ะ ตามคำแนะนำค่ะ
- ขอขอบคุณ คุณ audit3 ครับ คิดว่าจะไม่มาเยี่ยมซะแล้วเพราะว่าหายไป
- ขอขอบคุณ อาจารย์ Panda ครับ ที่ติดตามผลงานของผม