ทีลอซู 20-23 ต.ค. 52


ทีลอซู  (ตอนล่องแก่ง)

                ทีลอซูคือที่หมาย  ตั้งใจไว้จะไปกับเพื่อนนานมาแล้ว  แต่เวลาไมลงตัวกันสักที (ปีนี้จะไม่ให้พลาด เพื่อน ๆ บอก) ได้เวลานัดหมายกันไว้  ถามย้ำเพื่อเตือนการนัดหมาย  ผู้ร่วมเดินทางยังไม่เปลี่ยนใจ  ก็กำหนดเวลากันเลย โทรจองทัวร์ก่อนล่วงหน้า กลางเดือนตุลาได้เวลาเหมาะสมที่ 20-23 เพราะฝนน่าจะหยุดตก งานคงสะสางหมดและยังคงไม่เปิดเทอม  เมื่อใจพร้อมกายพร้อมและเงินก็ไม่ใช่ตัวแปรที่สำคัญ เมื่อได้เวลานัดหมาย 9 ชีวิตก็พร้อมออกเดินทางจุดนัดหมายที่ขอนแก่น  5 โมงเย็น ผู้อยู่ไกลคือนุ่น กับลักษณ์ ผู้ร่วมเดินทางจากบุรีรัมย์โดยขับรถคู่ใจมาจอดป้ายที่จุดนัดหมาย สภ.ขอนแก่น ทั้ง ๆที่ไม่เคยขับรถเข้าขอนแก่น ใจรักของจริง แถมถึงที่หมายก่อนใครเพื่อน คนที่ร่องคำต้องรอให้น้องชายสุดท้องอบรมเสร็จก่อนค่อยเดินทาง กว่าจะถึงที่นัดหมายก็ 5 โมงกว่า แต่ยังไวกว่า 2 หนุ่มกมลาไสย ที่มาช้าสุด กว่าจะได้ฤกษ์เดนทางก็กว่า 6 โมง คนขับรถเราชื่อเขียว อัธยาศัยดี บริการยอด ไม่หงุดหงิด เหมาะสมกับอาชีพบริการจริง ๆ

                         

 รถตู้ที่พา 9 ชีวิตทัวร์ เสียใจลืมถ่ายรูปเจ้าของรถ

        ถึงแม่สอดตี 2 กว่า ๆ บอกให้พี่แกพักก่อนเพราะต้องผ่านอีก 1219 โค้ง กลัวพี่ไม่ไหว  แต่พี่บอกไม่เป็นไร แต่ขอพักรถสักครู่  แถมบอกเตือนผู้โดยสารที่เมารถให้กินยาแก้เมาไว้เพราะโค้งเยอะจริง ๆ กว่าจะถึงที่พักก็เกือบ 7 โมงเช้า ตามเวลานัดหมาย  เจ้าของบ้านมาพร้อมกับรอยยิ้ม  บอกเตือนนัดหมายที่ต้องทำพร้อมให้เตรียมเสื้อผ้า 1 ชุด เพื่อนอนพักค้างคืนที่น้ำตก  อาบน้ำเสร็จก็ได้เวลาอาหารเช้าที่เสิร์ฟด้วยข้าวต้มร้อน ๆ กินเสร็จก็นั่งรถรถสองแถวเล็กเพื่อไปลงเรือยาง  (การผจญภัยเริ่มต้นขึ้นแล้ว)  เรือลำหนึ่งนั่งได้ 8-10 คน ผู้โดยสาร 6 ฝีพายอีก 2-4 แล้วแต่ขนาดเรือและน้ำหนักที่บรรทุก สมาชิกต้องแยกกลุ่ม ไล นุ่น ลักษณ์ แยกจากเพื่อนขึ้นเรืออีกลำกับใครที่เราไม่รู้จัก ถามไถ่ผู้ร่วมชะตาชีวิต   3 หนุ่ม จึงรู้ว่ามาจากกรุงเทพฯ เรียนจบ ป.ตรี ละอ่อนเลยมาฉลองกัน 

   

                บรรยากาศการล่องเรือยางครั้งแรกในชีวิตรู้สึกตื่นเต้นดี  เพราะน้ำไม่เชี่ยวมาแก่งหินก็ไม่มีเยอะ เพราะเป็นฤดูน้ำหลากอยู่ ทำให้น้ำท่วมแก่ง  เรือก็เลยไม่โลดโผนมาก หายตื่นเต้นแล้วก็ชมทิวทัศน์ข้างทาง 

     

 หน้าผา และน้ำตกมีให้เห็นเป็นระยะ

บางทีฝีพายก็ทำหวาดเสียวเรียกความตื่นเต้นโดยการพามุดใต้โขดหินบ้าง

         ล่องเรือสักก็มีที่พักข้างทางขึ้นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้งผางพาขึ้นชมธารน้ำร้อนแต่ไม่ร้อนมาก เป็นลำธารเล็กไหลมาจากไหนไม่รู้ กานซึ่งเป็นไกด์นำเที่ยวครั้งนี้บอกเหมือนกันแต่ลืม  จุดนี้มีมันเผา ไข่ปิ้งให้ซื้อหา (กานบอกนี่เป็นเซเว่นนะพี่)

  

ดูเอาแล้วกันใกล้เคียงของจริงม๊าก ๆๆ

 

จุดที่นี่สมาชิกชอบหลังคาส้วม เลยถ่ายรูปมาดู

 

ชอบที่ทำการด้วย

          ออกจากทีนี่ก็หาที่แวะทานข้าวเที่ยงอีกที่หนึ่ง ที่แวะกินข้าวก็สุดจะบรรยาย นั่งกินแบบสบาย ๆ ก็ไม่มี เลยเลือกนั่งตามสบายที่ตัวเองชอบ

 

ท่าแต่ละคนกินข้าวน่ารักมากเห็นแล้วขำเลยเก็บมาฝาก

         กว่าจะถึงท่าทรายก็บ่ายกว่า ๆ ไม่แน่ใจลืมดูเวลา ฝีพายกลายร่างเป็นลูกหาบต้องขนสัมภาระไปให้สมาชิกกินกันข้างบนอุทยาน  เมนูที่ขนไป ไม่มีอะไรพิสดารเรารู้ชะตา ไม่พ้นเมนูไข่ เพราะมีไข่หลายแผง ส่วนกระเป๋าเสื้อผ้าก็ของใครของเรานะจ๊ะ 11 กิโลเป็นของคุณแล้ว

 ทีลอซู  (ตอน เดินขึ้นเขา 11 กิโล)

                หลังจากขึ้นจากเรือแบกกระเป๋าเสื้อผ้าตัวเองทำท่าทะมัดทะแมงข่มขวัญคู่ต่อสู้สักพักก็ออกเดินทาง ก่อนเดินทางเห็นกระเป๋าเสื้อผ้าน้องผู้ร่วมชะตากรรมเปียกก็สงสารจะใส่อะไรนอนหนอน้องเอ่ย

                เส้นทางเดินป่าระยะเริ่มต้นไม่หนักหนามาก  จิตใจจดจ่ออยู่กับการเดินเลยไม่ได้ถ่านรูปเส้นทางไว้ เดินสักพักพอได้เหงื่อก็เจอทางลูกรัง งานนี้ของจริงกานบอก เส้นทางที่เดินขึ้นมีแต่ปีนทั้งสิน ดีที่เป็นถนนเท่านั้นเอง ไม่มีที่พักริมทางเหมือนภูกระดึง ใครอยากพักก็นั่งมันกลางถนนนั่นแหละ เดินได้สักพักรู้เลยสังขารตัวเอง  เหนื่อยมาก ๆ ขอบอก พักเอาแรงก็มีคนแซงไปเรื่อย ฮึดสู้ไม่อยากรั้งท้ายแต่สังขารก็ไม่อำนวย  ทีมวัยรุ่นเขาเดินแซงไป ทีมแรกก็ไม่รู้สึกอะไร พอทีมที่ 2 ที่ 3 เริ่มบ่น พอเหนื่อยมากๆก็เริ่มหาคนชวนมา  ทำไมไม่ชวนตอนฉันเป็นสาวกว่านี้ จะได้เดินไวเหมือนเขา ผ่านภุเขาลูกแรก เหนื่อยแทบขาดใจ  ถามกานนำทางครึ่งทางหรือยัง ได้รับคำตอบที่สุดแสนจะทรมาน ยังไม่ครึ่งเลยพี่ เวรกรรมใครชวนมาทรมานนี่ ผ่านเขาลูกที่ 2 ที่ไม่สูงมากกำลังใจเริ่มมา ครึ่งทางแล้วพี่ กานบอก เขาลูกที่ 3 สมาชิกร่วมเดินทางหายหมด เหลือ อีก 10 ชีวิตรั้งท้าย ลูกทัวร์ 8 กานกัยเพื่อน 2  สุลักษณ์เริ่มเดินท่าแปลก ๆ เดิน เซ ๆยังไงไม่รู้  ชวนให้สงสารแต่ก็อดหัวเราะไม่ได้ มองทีไรก็หัวเราะทุกที บรรยากาศการเดินไม่เครียด เพราะเราไม่รีบ ใครอยากแซงให้แซงไป จริง ๆ แล้วไม่มีใครแซง เพราะเขาไปกันหมดแล้วตั้งแต่เขาลุกที่ 2  เราเดินไปเรื่อยๆ ถึงเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นผู้ร่วมชะตากรรมปลอบใจกันและกัน ไม้เท้าช่วยค้ำยันช่วยได้เยอะจริง ๆ  นุ่นคิดสโลแกน เตือนในการเดินทางสู่ทีลอซู ช่วงเดือนตุลาคม เด็ก สตรี และคนชราห้ามโดยเด็ด ก่อนถึงอุทยานฝนตกลงมา ไม่หนักมาก ทำให้คนเดินมาเหนื่อยๆ เย็นขึ้น กว่าจะถึงที่พักก็กว่า 5 โมงเย็น น้องผู้ร่วมชะตากรรม ยังมีน้ำใจรอพี่ ๆ เพื่อไปน้ำตก แต่พี่ทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกันโดยไม่ต้องคิด ไปเถอะน้องเอ่ยวันนี้พี่เดินมามากแล้ว พอแล้ว พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน ว่าแล้วก็พร้อมกันมุดหัวเข้าเต็นท์เพื่อเตรียมการนอน เพระข้างนอกยุงเยอะ  แต่เอนกายสักพักคิดขึ้นได้ถ้าเย็นกว่านี้ไปอาบน้ำจะลำบากเพราะไม่มีไฟฉาย ไปอาบน้ำไว้ดีกว่า อาบน้ำเสร็จก็ได้เวลาอาหารเย็นพอดี 

     หมดสภาพ จริง ๆมี หมดสภาพกว่านี้แต่ไม่มีอารมณ์จะเก็บภาพเพราะมันเหนื่อย

 ทีลอซู (ตอน กลางคืนที่ทีลอซู)

            ถึงที่พักลูกหาบเราก็กางเต็นท์ให้นอนนัดหมายเวลากินข้าว และเวลาตื่นนอน และอาหารเช้าก่อนไปชมความงามของน้ำตก

            พวกเรากะจะนอนเอาแรงสักพักแต่ต้องลุกไปอาบน้ำเพราะถ้าอาบมืดไม่มีไฟฉายจะลำบากในการเดินทางอาบน้ำเสร็จก็มานวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อสักพัก ก็ได้เวลาอาหารเย็น

                อาหารมือเย็นของเราคือ ต้มไก่  ไข่เจียว น้ำพริกกะปิและผักจิ้ม เป็นอาหารที่อร่อยมาก เติมแล้วเติมอีก ไม่รู้ว่าเราเหนื่อยแล้วกินอะไรก็อร่อยไปหมดก็ไม่รู้ กินข้าวเสร็จเรากะอพยพตัวเองขึ้นมาที่ศาลา เพราะที่เราอยู่มันแฉะเห็นว่าที่ศาลา เขาให้คนอยู่ได้เราก็น่าจะอยู่ได้เช่นกัน ถามน้องกานว่าเขาให้ขึ้นมานอนได้ไหม ได้รับคำตอบว่าได้ งั้นเราก็อพยพมา แต่พอย้ายมาเสร็จ เจ้าหน้าที่อุทยานก็ให้เราลงไปที่ที่เรากางเต็นท์น้ำ เสียงที่บอกไม่เป็นมิตร ถ้ารู้ว่าชื่ออะไรจะแจ้งหัวหน้าให้เข็ด พูดจาไม่เป็นมิตรเลย  คนเราบอกกันดีดีก็ได้ น้ำเสียงเหมือนเราทำความผิดร้ายแรงมาก ๆเหมือนเทศกิจมาไล่แม่ค้าหาบเร่ยังไงยังงั้นเลย เสียอารมณ์หมด

                อพยพเต็นท์เสร็จเราก็ไปนอน  ไม่สนใจเต็นท์อื่น นอนเก็บแรงไว้สู้กับพรุ่งนี้ต่อไป ก่อนนอนลักษณ์บอกพรุ่งนี้ถ้ามีรถลง คิดค่าจ้างเที่ยวละ 500 บาทฉันก็จะจ้าง ฉันเหนื่อยเดินไม่ไหว  นุ่นบอกฉันด้วยเงิน 500 ถ้าไม่ตายหาใหม่ได้ เ เพื่อนฉันน่าสงสาร  จากนั้นก็ต่างคนต่างนอน เสียงเขียดที่ทีลอซูร้องขับกล่อมคนนอนด้วยเสียงแปลก ๆ เสียงร้องไม่เหมือนเขียด หรือกับที่บ้านเรา เขียดอะไรก็ไม่รู้ไม่เห็นตัว  ตื่นขึ้นมาอีกครั้งได้ยินเสียงน้อง ๆ คุยกัน เรื่องอะไรไม่รู้ ไม่นานก็หลับต่อ ตื่นอีกที ตี 2 เพื่อนอีกเต็นท์ไปเข้าห้องน้ำ แล้วก็ไม่หลับอีกเลยถึงเช้า อากาศตอนกลางคืนไม่หนาวมาก  เพราะปกติเป็นคนขี้หนาวแต่คืนนี้ไม่หนาวเลย ฝนก็ไม่ตกด้วย เพราะที่ผ่านมาเขาบอกที่นี่ฝนตกทุกคืน เราเป็นกรุ๊ปที่โชคดีไม่มีฝน

ทีลอซู (สู่น้ำน้ำตกแสนสวย)

       ตี  5  กว่าลุกขึ้นอาบน้ำแต่เช้าจะได้ไปดูน้ำตกแต่เช้า  ระหว่างทางก็ชมนกชมไม้ไปเรื่อย  เราไม่รีบร้อนเพราะยังเช้าอยู่  เดินชี้ชมบรรยากาศไป มีต้นไม้ใหญ่ข้างทาง  ดอกไม้ต้นไม้ มีความสุขกับธรรมชาติรอบตัว อากาศยามเช้าชั่งสดชื่นเสียจริง ๆ ระหว่างทางก็มีสายน้ำไหลเชี่ยว ถามกานบอกน้ำมาจากกานบอกมาจากน้ำตก  เสียงน้ำตกไหล  เรียกร้องให้เดินเข้าหาดังกระหึ่มแต่ไกล ฝีท้าวแต่ละคนก้าวไวขึ้น  ผ่านโค้งสุดท้าย น้ำตกอยุ่ตรงหน้า  นาทีที่เห็นน้ำตก ทุกคนอ้าแขนรับ ร้องเป็นเสียงเดียว  สวยมาก สดชื่น ตื่นตา  สวย นุ่นเข้ามาจับมือบอกขอบคุณที่ชวนมาด้วย คุ้มค่ากับการดั้นด้นมาจริง ๆ  ทีมเราไปเช้าสุดไม่มีใครอยู่ที่นั่น ตอนนี้เหมือนอายุ 14 อีกครั้ง ทุกคนถ่ายรูปมุมต่าง ๆ จนหนำใจ  

       

 

                               ภาพน้ำตกแสนสวยกับ ผู้ร่วมเดินทาง  9 ชีวิต

                

กับน้องๆผู้ร่วมชะตากรรม  9 ชีวิต เช่นกัน

     พอคนเริ่มทยอยมาที่น้ำตกมากขึ้น  เราก็ล่าถอยกลับ  กลับที่พัก  เสียงพูดคุยถึงความอลังการของน้ำตกตลอดทาง  แต่ยังไม่วายเป็นห่วงลักษณ์ เพราะท่าเดินยังไม่ปกติ ชวนให้ตลกอยู่  

 ทีลอซู  (เดินทางกลับ)

                ก่อนออกเดินทางเราน้ำกระเป๋าตัวเองจากที่พัก เตรียมตัวเตรียมใจพร้อมจะเดินทางกลับ(แม้ร่างกายจะไม่ค่อยไหวก็ตาม) ไม้เท้ากายสิทธิ์ถูกถามหาเป็นอันดับแรกก่อนออกเดินทาง  ขากลับเอากระเป๋าให้ลูกหาบให้หมดเพราะเขาไม่มีสัมภาระแล้วขาลง สบายตัวขึ้น  ได้เวลาก็เริ่มออกเดินทาง  เดินทางได้สักพักผู้รั้งท้ายยังคงเป็นกลุ่มเดิมแต่น้องน้อยฟิตกว่าเดิม ผ่านทางลาดชันโค้งแรกแทบขาดใจ เดินไปพักไป ไลบอกลักษณ์ ฉันไม่รีบฉันจะเดิน 20 ก้าวแล้วพักเส้นทางข้างหน้าเรารู้แล้วว่าจะผ่านกี่โค้งข้างหน้า แต่เราโชคกีตอนลงมีรถมาช่วยชีวิต เพราะเดินผ้าเขาลูกแรก รถที่วิ่งสวนไปกลับลงมาช่วยชีวิตเราเราขอบคุณหลายเด้อที่มีน้ำใจ

ลงจากรถช่วยชีวิต มองหาเพื่อผู้ร่วมชะตากรรม ลุ้นว่าจะได้ขี่รถลงมาเหมือนเราไหม

       รถที่รับเรามาทราบทีหลังว่าเป็นรถขนเสบียงขึ้นไปรอรับผู้มาเยือนทีลอซูกลุ่มใหญ่ เพราะเป็นวันหยุดยาว (วันปิยะ) เนื่องจากคนมากลูกหาบแบกอาหารขึ้นไม่ไหว ชมรมเลยขอให้รถขึ้นได้ 1 วัน ในเดือนตุลาคม โชคดีจึงเป็นของเราได้ประสบการณ์ทั้งเดินเท้าและนั่งรถ  คุ้มจริง ๆทัวร์นี้

หมายเลขบันทึก: 312657เขียนเมื่อ 11 พฤศจิกายน 2009 12:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:52 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)
  • สวัสดีคะ
  • เข้ามาติดตามเรียนรู้คะ...อยากไปบ้างเหมือนกัน...กำลังระดมเพื่อนๆ อยู่
  • ว่าแต่ว่ารถที่ออกจากขอนแก่น เป็นทัวร์หรือเป็นรถเช่าคะ...
  • ขอข้อมูลไว้ เผื่อจะใช้บริการบ้าง...เพราะว่าอยู่ จ.เลย
  • แล้วจะกลับมาดูภาพอีกครั้งคะ
  • ปล. เล่าเรื่องได้สนุก น่าไปทดลองสมรรถนะของตนเองบ้าง...อิอิ

ยินดีให้คำปรึกษาคะ

แต่เขียนยังไม่จบเดี๋ยวจะโพสรูปให้ดูด้วยคะ

ทีลอซู ถ้าอยากดูน้ำใสๆสีเขียวมรกต ต้องไปช่วงเดือน มกราคม ครับ สวยใส ผมเคยไปเมื่อปี 2539 ก่อนที่ทีลอซู จะพังและพักฟื้นคืนสภาพใหม่ดังที่เห็นนี้ ลองไปดูสภาพเมื่อ ม.ค.2539 ครับ http://www.facebook.com/profile.php?id=100001277238617#!/photo.php?pid=241347&id=1766959644&ref=fbx_album

?ฯฯอยากเที่ยวอุ้มผางติดต่อนี่เลย....0879888794 คุณเทนด์ เลขาฯนายก เทศมนตรีอุ้มผาง อิอิอิ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท