กิ่ง
น.ส. พัทยา กิ่ง เพียพยัคฆ์

บ้าน


ดอกไม้ ประตู แจกัน ต้นไม้ใหญ่ฯ

เมื่อปี  2548   ดีใจที่จะกลับคืนถิ่นและก็ได้กลับสมใจ กลับไปแรก ๆ ก็ปรับตัวลำบาก  เนื่องจากวิถีการอยู่ในชุมชนได้เปลี่ยนไปแล้ว  การใช้ชีวิตแตกต่างจากสมัยที่ปู่  ย่า  ตา  ยาย  ที่ผ่านมาเงินเข้ามาเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของการดำรงชีวิต  จากเคยขอแรงกันได้ก็เปลี่ยนเป็นใช้เงินชื้อแรงงานจะทำอะไรก็ต้องใช้เงิน

                สิ่งแรกที่กลับบ้านไปอยากปลูกหม่อนเลี้ยงไหมก็เลยต้องไปเรียนที่นางรอง  1   เดือนเต็มกลับมาปรับที่เพื่อที่จะปลูกต้นหม่อน ทำไม่ได้ที่เราเวลาหน้าทำนาน้ำท้วมเสียเงินปรับที่ใหม่จ่ายค่าโง่ไปกระเป๋าแห้งเลยยังไม่พอปรับที่ปลูกหญ้า  ปลูกได้แต่จัดการได้ไม่ดีพอตอนนั้นมีแรงงานสองคนกับแม่ในเนื้อที่ 12  ไร่แรงผู้หญิงก็ได้ประมาณเท่าที่ทำได้   ในช่างแรกรายได้ของบ้านเกิดจากการปลูกผักขาย  ตะไคร่เป็นรายได้หลักและใบตอง พอมีเงินจ่ายค่าน้ำไฟ  ช่างนั้นสงสารแม่มากแต่แม่ก็ให้กำลังใจเสมอว่าเดี่ยวทุกอย่างก็จะดีขึ้นเอง  ช่วงสองปีหลังทุกอย่างก็พอจะหายใจหายคอได้  จาอกนั้นก็ได้หาต้นไม้มาลง ไปทำงานที่สวนป่า  ก็ได้ต้นไม้มาปลูกหลายต้น  ตอนมาปลูกบ้าง  แม่หวีให้มาปลูกบ้าง  ต้นที่โตวันโตคืนก็เป็นยางนามันไม่ยอมหยุดโตหนูกลับบ้านไปตอนไหนก็เห็นถอดยอดสวยทุกรอบไป  แม่บอกว่าแม่อิ่มใจเมื่อตื่นตอนเช้าเดินรอบสวนได้ยินเสียงนกกาเหว่าร้องรอบสวน  หมาที่แม่เลี้ยงไว้วิ่งตามแม่ทุกเช้าแม่บอกว่าหมามันรักเจ้าของมาก  เวลาแม่เข้าไปขายผักในบ้านมันก็จะไปนอนรอหน้าประตูสวนรอรับแม่กลับเข้าสวนไม่ว่าจะนานแค่ไหนถ้าแม่ไม่มามันก็จะรอจนแม่มา  ทุกวันแม่เห็นต้นไม้ที่หนูปลูกไว้ก็เหมือนเห็นหนูอยู่ในสวนด้วย  ดอกไม้ที่ปลูกไว้เป็นดอกว่านสี่ทิศจะอกดอกทุกสิ้นเดือนแม่เรียกว่ารางเงินแม่บอกออกดอกที่ไรแม่ได้เงินทุกรอบไป  ดอกไม้ที่แม่ปลูกไว้แย่งกันออกดอกอาดแม่กันใหญ่ส่งกลิ่นหอมไปทั่วสวนปีแรกแม่สร้างบ้านหลังเล็ก ๆ  ในสวนพอที่หนูกับแม่จะอาศัยนอนได้ สามปีต่อมาน้องชายกลับมาอยู่ด้วยเลยต้องต่อบ้านออกมาอีกห้อง  มาปีนี้แม่บอกว่าอยากต่อบ้านออกไปอีกเพราะของในบ้านดูจะมากขึ้น  แม่บอกว่าเอาไม้จากบ้านหลังเก่าไม่ต้องชื้อเพิ่มอีก

                ปีนี้แม่ไถ่นาหญ้ามาทำนาข้าวทำข้าวแดง  1 ไร่ ข้าวเหนียวดำ 1ไร่ข้าวมะลิแดง 1 ไร่ข้าวเหนียว 1  ไร่ จากที่ไม่ได้ทำนาหลายปีปีนี้มาปลูกข้าวดูแล้วก็งามพสมควรแม่บอกว่าต่อไปถ้าไม่มีแม่แล้วถ้ามีนาแค่นี้หนูก็จะได้มีที่ทำนาไว้กินเองได้คงพอกินทั้งปีละ แม่ถึงลูกจะเป็นยังไงก็ยังห่วงลูกเสมอคิดไว้ไปถึงจนตัวเองไม่อยู่นะ ดอกไม้  ประตู  แจกัน ต้นไม้ใหญ่  แก้วน้ำ  จาน  ชามฯ

และอีกมากมายทุกสิ่งทุกอย่างคือบ้าน  ไม่มีที่ไหนสุขเท่าที่บ้านแล้ว

หมายเลขบันทึก: 311922เขียนเมื่อ 8 พฤศจิกายน 2009 20:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 10:38 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

สวัสดีค่ะคุณ ท.เมืองกาฟ

ท่านอาจารย์ทวีสิน ฝากความระลึกถึงมาให้ จากเขาใหญ่ครับ

ขอพระคุณค่ะอาจารย์หนูดีใจยิ่งกว่าถูกรางวัลที่หนึ่งอีกค่ะขอบพระคุณทั้งอาจารย์JJและอาจรย์ทวีสินด้วยค่ะ(กราบรับงาม ๆ สามครั้งค่ะ)เขาใหญ่หนาวแล้วขอให้อาจารย์ทั้งสองท่านรักษาสุขภาพด้วยค่ะ

สวัสดีครับผม   ผมไม่เคยลืมอาจารย์  ที่ไหนจะดีเท่าบ้านเราเอง  เข้ามาทักทายครับผม  หลักจากที่หายไปนานผมก็ไม่เจออาจารย์อีกเลยครับ  ผมคิดว่าคงจำผมไม่ได้หรอกนะครับ  คิดถึงรู้ไหมนะครับ  เข้ามาแลกเปลี่ยนเรียนร่วมกัน

สวัสดีค่ะ จำได้ค่ะตอนเจอกันที่สวนป่าไงค่ะดีใจด้วยกับความสำเร็จ

แล้วมาช่วยกันพัฒนาบ้านของเรานะค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท