สรุปสาระสำคัญของการอบรมทางไกลผ่านอินเตอร์เน็ต
“กระบวนทัศน์และคุณลักษณะข้าราชการยุคใหม่”
จัดโดย
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน
ด้วยสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน
ได้จัดทำโครงการพัฒนาเจ้าหน้าที่ของรัฐบนอินเทอร์เน็ต
(HRD: e-Learning) การอบรมออนไลน์ด้าน
“กระบวนทัศน์และคุณลักษณะข้าราชการยุคใหม่”
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนากระบวนทัศน์ในการทำงานของข้าราชการ
ให้สามารถนำคุณลักษณะไปใช้ในการกระตุ้นพฤติกรรมการทำงานภาครัฐเกี่ยวกับทักษะในการตัดสินใจแก้ปัญหาด้วยความถูกต้องและใช้เหตุผลเชิงจริยธรรม
ปฏิบัติงานโดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม ซื่อสัตย์ สุจริต
ทำงานโดยมุ่งผลสัมฤทธิ์ของงาน มีทัศนคติที่ดีต่อการปฏิบัติงาน
ปรับเปลี่ยนบทบาท ภารกิจตามการบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่
และมีจิตใจให้บริการประชาชนอย่างเป็นธรรม
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครราชสีมา
เขต 1 ได้แจ้งให้ข้าราชการสมัครเพื่อเข้าร่วมโครงการดังกล่าว
เพื่อให้ข้าราชการได้ศึกษา เรียนรู้
ด้วยการอบรมทางไกลผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต
ข้าพเจ้าจึงได้สมัครเข้าร่วมโครงการ เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2548
โดยมี User ID cosc132505 และสมัครการอบรมทั้งสิ้น 8 หลักสูตร ได้แก่
1. ทักษะการตัดสินใจและแก้ปัญหา
2.
การสร้างแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ในการทำงาน
3. ทัศนคติที่ดีต่อการทำงานภาครัฐ
4. การมุ่งอนาคตและการควบคุมตน
5.
ความเชื่อมั่นในตนเอง
6.
ความฉลาดทางอารมณ์
7.
การพัฒนาจริยธรรมผู้ใต้บังคับบัญชา
8.
ความขัดแย้งกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม
ได้เริ่มเข้ารับการอบรมหลังจากได้รับอนุมัติการสมัครเรียบร้อยตั้งแต่วันที่
25 พฤศจิกายน 2548
หลักสูตรการอบรมแต่ละหลักสูตรมีประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองให้เป็นข้าราชการที่ดีและเป็นที่พึงประสงค์ของประเทศ
เพื่อเป็นเครื่องมือในการบริหารราชการแผ่นดิน
การบริการประชาชนและพัฒนาประเทศต่อไป
จากการอบรมแต่ละหลักสูตรนั้นพอจะสรุปสาระสำคัญของหลักสูตรต่าง ๆ
ได้ดังนี้
หลักสูตร
ทักษะการตัดสินใจและแก้ปัญหา
วัตถุประสงค์
(ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง)
1.
เข้าใจความหมายของปัญหาจริยธรรม
และความสำคัญของทักษะการตัดสินใจและแก้ปัญหาเชิงจริยธรรม
2.
ทราบหลักการที่ควรใช้ในการตัดสินใจ
คือการเห็นประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว
3. วิเคราะห์องค์ประกอบต่าง ๆ
เพื่อใช้เป็นแนวทางในการเลือกตัดสินใจ
เมื่อเผชิญปัญหาขณะปฏิบัติงานได้อย่างเหมาะสม
4. ยกระดับความสามารถในการตัดสินใจและใช้เหตุผลเชิงจริยธรรมให้สูงขึ้น
ความหมายของปัญหาทางจริยธรรม
ปัญหาทางจริยธรรม
หมายถึง ปัญหาที่มีเรื่องค่านิยม คุณธรรม จริยธรรม เข้ามาเกี่ยวข้อง
และเกิดสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างค่านิยมหรือคุณธรรมตั้งแต่ 2
อย่างขึ้นไป ทำให้เกิดการยากในการตัดสินใจ
ผลกระทบที่เกิดขึ้นทำให้เกิดความลำบากใจในการเลือกตัดสินใจว่าจะใช้คุณธรรม
ค่านิยมข้อใดมากกว่ากัน เช่น
การช่วยเหลือญาติในการสอบคัดเลือกบรรจุเป็นข้าราชการ หรือพนักงาน
เป็นต้น
ความสำคัญของทักษะการตัดสินใจ
การตัดสินใจแก้ปัญหาเชิงจริยธรรม
ต้องคิดพิจารณาไตร่ตรองให้รอบคอบ
และใช้เหตุผลที่ดีว่าผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการตัดสินใจนั้นควรคำนึงว่าผลจากการตัดสินใจเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมมากกว่าส่วนตนหรือไม่
เพื่อให้นำไปสู่การตัดสินใจที่ดีเสมอ ๆ
หลักการตัดสินใจ
1.
“คิดถึงใจเขาใจเรา เห็นใจ
เข้าใจซึ่งกันและกัน
หรือคำนึงถึงความคิดความพอใจของกันและกัน”
เป็นหลักการตัดสินใจเมื่อเกิดกรณีความขัดแย้งระหว่างตัวเราและบุคคลหรือกลุ่มบุคคลใกล้ชิด
2. “ยึดระเบียบ กฎเกณฑ์
มาตรฐานของสังคม”
เป็นหลักการตัดสินใจเมื่อเกิดกรณีความขัดแย้งระหว่างตัวเราหรือบุคคลใกล้ชิดกับสถาบันส่วนรวมของสังคม
3. “ยึดหลักการ อุดมคติสากล
และเหตุผลของตนเองโดยมุ่งประโยชน์และความสงบสุขของสังคมส่วนรวม”
เป็นหลักการตัดสินใจเมื่อเกิดกรณีความขัดแย้งระหว่างการปฏิบัติตามระเบียบ
กฎเกณฑ์หรือมาตรฐานของสังคมกับอุดมคติอันสูงส่งหรือประโยชน์ของมวลมนุษย์
หลักสูตร
ทัศนคติที่ดีต่อการทำงานภาครัฐ
วัตถุประสงค์
(ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง)
1.
ประเมินคุณค่าการทำงานราชการภาครัฐในบริบทใหม่ได้อย่างเหมาะสม
2.
สร้างความรู้ความพอใจในการทำงานภาครัฐอย่างเต็มความสามารถ
3.
พัฒนาความพร้อมที่จะกระทำพฤติกรรมในการปฏิบัติงานภาครัฐที่สอดคล้องกับสถานการณ์บริหารภาครัฐแนวใหม่
ความจำเป็นในการปรับเปลี่ยนการบริหารภาครัฐแนวใหม่
ข้าราชการเป็นกลุ่มอาชีพที่มีเกียรติและศักดิ์ศรีในการทำหน้าที่ต่าง
ๆ ในการพัฒนาประเทศชาติ ความเจริญรุ่งเรือง และบริการประชาชน
เพื่อให้ประชาชนที่มารับบริการได้รับความพึงพอใจ ความสะดวก
สบายในการติดต่องานราชการ อีกทั้งสำเร็จตามความมุ่งหมายของประชาชน
ดังนั้นอาชีพข้าราชการจึงเป็นอาชีพที่สามารถทำคุณประโยชน์และคุณค่าต่อสังคมโดยรวม
ข้าราชการจึงควรได้รับการพัฒนาตนเองและปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานให้เหมาะสมกับยุคสมัย
ความจำเป็นในการปฏิรูปและพัฒนาระบบราชการไทย
คือ
1. การขาดประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการทำงาน
2.
ความด้อยคุณภาพในการบริการประชาชน
3. การฉ้อราษฎร์บังหลวง
4. ขีดความสามารถของระบบราชการหรือความล้าสมัยของภาคราชการ
5.
อำนาจและบทบาทของภาคราชการมีมากเกินความจำเป็น
หลักสูตร
ความฉลาดทางอารมณ์
วัตถุประสงค์
(ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง)
1.
ตระหนักถึงความสำคัญของความฉลาดทางอารมณ์
2. ตระหนักรู้อารมณ์และควบคุมตนเองได้
3. จัดการกับอารมณ์และควบคุมตนเองได้
4. จูงใจตนเองและใช้อารมณ์ให้เกิดประโยชน์
5. เข้าใจในอารมณ์และความรู้สึกผู้อื่น
6. มีทักษะทางสังคม
7. ใช้ความฉลาดทางอารมณ์ในบริบทต่าง ๆ
ของสังคมได้
ความคาดหวังในตัวข้าราชการยุคใหม่
คุณลักษณะของข้าราชการยุคใหม่
1. การกล้ายืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้อง
2. มีความซื่อสัตย์และความรับผิดชอบ
3. ทำงานอย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้
4. การไม่เลือกปฏิบัติ
5. มุ่งผลสัมฤทธิ์แห่งงาน
การทำงานของข้าราชการยุคใหม่ ต้องคำนึงถึง “เน้นประชาชน ประชาชนได้รับความพึงพอใจ
เพิ่มอำนาจให้กับประชาชน ทำงานเป็นทีม
และมุ่งผลลัพธ์ของงาน”
และการที่ข้าราชการจะทำงานได้ประสบผลสำเร็จมากยิ่งขึ้นนั้น
ข้าราชการต้องวิเคราะห์ตนเองอย่างสม่ำเสมอ
การแสดงออกทางอารมณ์ของคนเราจะมีความสัมพันธ์กันกับการแสดงออกทางพฤติกรรม
จึงสามารถรับรู้อารมณ์ของคนอื่นได้ด้วยการสังเกตจากพฤติกรรม
การแสดงออกทางสีหน้าท่าทาง แววตา และน้ำเสียง
สมองซีกขวาจะเป็นส่วนที่ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของอารมณ์และความรู้สึก
ความคิดสร้างสรรค์
และทำงานควบคู่กับการทำงานของสมองซีกซ้าย
ความหมายและความสำคัญของความฉลาดทางอารมณ์
ความฉลาดทางอารมณ์
(Emotional Quotient : EQ) หมายถึง
ความสามารถที่จะต้องจัดการเกี่ยวกับตนเอง
และความสามารถที่เกี่ยวข้องกับผู้อื่น
องค์ประกอบความฉลาดทางอารมณ์
1.
องค์ประกอบของความฉลาดทางอารมณ์
ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับตนเอง ประกอบด้วย
· การตระหนักรู้อารมณ์ของตนเอง
· การจัดการกับอารมณ์ของตนเอง
· การจูงใจตน
2. องค์ประกอบของความฉลาดทางอารมณ์ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับผู้อื่น
ประกอบด้วย
· การเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่น
· การมีทักษะทางสังคม
แนวทางการพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์
แนวทางการพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์
สามารถแบ่งออกได้ 2 แนวทาง คือ
1. แนวตะวันตก ประกอบด้วย
· การตระหนักรู้อารมณ์ตนเอง
เป็นความสามารถในการจัดการกับอารมณ์ของตนเอง
สามารถขอกได้ว่าตนเป็นคนมีอารมณ์แบบใด ตระหนักรู้ถึงข้อดีข้อบกพร่อง
และสามารถทำความเข้าใจกับลักษณะอารมณ์ของตนเองในบริบทต่าง ๆ
ได้
·
การจัดการกับอารมณ์ตนเอง
เป็นความสามารถในการจัดการกับอารมณ์ต่าง ๆ สามารถควบคุมตนเองได้
และสามารถหาวิธีแก้ไขอารมณ์กลับคืนสู่สภาพปกติได้
·
การผ่อนคลายความเครียด
เป็นการฝึกการหายใจที่ถูกต้อง สูดลมหายใจให้เต็มปอด
และกลั้นเอาไว้เล็กน้อย แล้วค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจออกเป็น 4
จังหวะ
·
การจูงใจตนเอง เป็นความสามารถในการสร้างอารมณ์
เพื่อจูงใจตนเอง ให้มีพลังในการกระทำสิ่งต่าง ๆ
เป็นพลังในการให้กำลังใจตนเองในการคิดและทำอย่างสร้างสรรค์
โดยการ คิดถึงความสำเร็จ
ความสุขของชีวิตที่จะเกิดขึ้น คิดถึงครอบครัว คิดถึงประชาชน
คิดถึงสิ่งที่เราให้ความช่วยเหลือ
ชื่นชมในความเสียสละและความรับผิดชอบของเรา
·
การเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่น โดยการสังเกต
สนใจ และใส่ใจความรู้สึกของผู้อื่น และน้ำเสียง การใช้ถ้อยคำ
ความดัง
·
การมีทักษะทางสังคม
เป็นความสามารถในการสร้างความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง
และการมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี
โดยใช้การสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ
2. แนวพุทธ
แนวทางพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ตามวิถีแนวพุทธนั้นเน้นการใช้ปัญญาในการควบคุมความคิด
ความรู้สึกของตนเองให้มีพฤติกรรมและการแสดงออกในที่ถูกที่ควร
โดยคำนึงถึงให้ตนเองมีความสุข สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ดี
และทำงานได้ประสบความสำเร็จ การพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์แนวพุทธเรียกว่า
“การพัฒนาปรีชาเชิงอารมณ์” มีวิธีดังนี้
· การพัฒนาอารมณ์ฝ่ายกุศล คือ
เป็นการพัฒนาตนเองไม่มีความโกรธ ไม่มีความโลภ
ฝึกสติในการควบคุมตนเอง
· การควบคุมอารมณ์ฝ่ายอกุศล คือ เป็นการควบคุมอารมณ์ที่ไม่ดี
ที่จะทำให้เกิดอุปสรรคในการทำงานและการพัฒนาตนเอง ได้แก่ ความอิจฉา
ริษยา อาฆาต พยาบาท
การพัฒนาปรีชาเชิงอารมณ์นั้นต้องอาศัยพลังฝ่ายกลาง (ปัญญา)
ควบคุมความรู้สึก ความเพียร การคิด และเจตนา
วิธีการพัฒนาปรีชาเชิงอารมณ์สามารถทำได้โดยการฝึกอาณาปานสติเบื้องต้น
เป็นการกำหนดลมหายใจเข้า-ออก มี 4 แบบ ได้แก่
1. ลมหายใจยาว-แรง
2. ลมหายใจยาว-ลึก
3. ลมหายใจยาว-ช้า
4. ลมหายใจยาว-ธรรมชาติ
การใช้ความฉลาดทางอารมณ์ของตนในบริบทต่าง ๆ
ของสังคม
การใช้ความฉลาดทางอารมณ์นั้นสามารถใช้แนวทางการพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์แนวตะวันตกหรือแนวพุทธก็ได้
โดยเลือกเอาแนวทางที่เหมาะสมกับตนเอง มาควบคุมพฤติกรรมทั้งทางกาย วาจา
ใจ ควบคุมความคิดและอารมณ์ด้วยการตรวจสอบ ติดตามผล ปรับปรุง
พัฒนาตนเอง
การประเมินความฉลาดทางอารมณ์
เป็นการประเมินความฉลาดทางอารมณ์ของตนเองโดยประเมินจากโครงสร้างความฉลาดทางอารมณ์ทั้ง
3 ด้าน ได้แก่
1. ด้านดี
ประกอบด้วย การควบคุมตนเอง การเห็นใจผู้อื่น
และความรับผิดชอบ
2. ด้านเก่ง
ประกอบด้วย การมีแรงจูงใจ การตัดสินใจและแก้ปัญหา
และความสัมพันธภาพ
3. ด้านสุข
ประกอบด้วย ความภูมิใจตนเอง ความพอใจในชีวิต
และความสุขสงบทางใจ
ได้ความรู้ดีนะคะ
ขอบคุณค่ะ