SHA
ฉันรู้จักโครงการนี้ครั้งแรกตอนที่พี่นิตยาแนะนำให้ฉันไปเรียน Narrative medicine นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาโครงการ SHA ก็เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของฉันแบบไม่รู้ตัว คุณเคยได้ยินไหม? คำที่ใคร ๆ เขาเรียกคน.....คนหนึ่งที่มีความเชี่ยวชาญและชำนาญในสิ่งนั้นมากๆ เช่น พยาบาลหรือแพทย์ที่ดูแลผู้ป่วยจิตเวช เขาก็จะเรียกว่าหมอบ้า ผู้ดูแลคลีนิกเบาหวาน เขาก็จะเรียกหมอเบาหวาน สำหรับฉันพี่ ๆ ที่โรงพยาบาลเรียกเจ้าแม่เรื่องเล่า หลายคนให้เหตุผลว่า บางเรื่องที่ฉันเล่าให้ฟังมันดูเหมือนกับไม่ใช่เรื่องที่น่าจะเกิดขึ้นจริง แต่มันกลับเป็นชีวิตจริงของคนคนหนึ่งที่พวกพี่ๆเขาไม่เคยได้มีโอกาสพบเจอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องยายดอน เรื่องลุงสุขสันต์ เรื่องน้องไมล์ หรือแม้แต่เรื่องของน้องสรัญญากับน้องสาว และอีกหลายเรื่องราวที่ถูกถ่ายทอดออกมาเป็นคำพูดโดยผ่านฉัน บุคคลซึ่งเป็นเพียงสะพานที่ทอดยาวให้พวกพี่ๆ ได้มองเห็นอีกมุมหนึ่งของชีวิตในเขตอำเภอโนนคูณ ฉันอาจจะไม่คนที่เชี่ยวชาญหรือผู้ที่ชำนาญที่สุดเกี่ยวกับเรื่องเล่า แต่ฉันก็ได้เล่าในสิ่งที่ตัวเองได้พบ ได้เห็น ได้สัมผัสมันมา บางเรื่องไม่ได้เกิดกับฉัน บางเรื่องเกิดจากพี่คนอื่น แต่ทุกเรื่องที่เล่าเกิดขึ้นที่นี่!!! ที่โนนคูณ......
ไม่เพียงแต่เรื่องเล่าเท่านั้นที่พวกเราชาวโนนคูณต่างสานต่อสำหรับโครงการ SHA ยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่ชาวโนนคูณได้ดำเนินการเพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นโครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้ป่วยเบาหวาน เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีโครงการที่ทำร่วมกับชุมชนอีกมากมาย เช่น โครงการพึ่งตนเองแบบยั่งยืน โครงการงานศพปลอดเหล้า เป็นต้น คงเป็นเพราะโครงการต่าง ๆ ที่ชาวโนนคูณทำมาผู้ใหญ่ใจดีจาก งานพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาลจึงได้เชิญเข้าร่วมการประชุมอีกครั้งที่ขอนแก่น งานนี้ได้มีโอกาสพบกับอาจารย์ดวงสมรอีกครั้ง ทำให้ฉันนึกถึงอาจารย์โกมาตรไม่ได้ มันเป็นความรู้สึกส่วนลึกจริง ๆ ที่อดคิดไม่ได้ว่า ถ้าเอ่ยคำว่า SHA ต้องนึกถึงอาจารย์ 2 ท่านนี้ราวกับเป็น Presenter ของโครงการเลยก็ว่าได้ ( คิดเองคนเดียว 55555555!!!) ถ้าเปรีบยอาจารย์โกมาตรที่สามารถพูดได้คนเดียวตลอด 4 วัน 3 คืน เป็นดั่งขั้นเทพ แล้วอาจารย์ดวงสมรนี่ฉันยังสงสัยอยู่ว่าจะขั้นไหน? เพราะสามารถพูดและบรรยายได้ตลอดรายการ 3 วัน 2 คืน และที่สำคัญร้องเพลงได้ด้วย
สิ่งที่ฉันได้รับจากการเข้าร่วมประชุมครั้งนี้ ฉันและพี่ๆ ชาวโนนคูณได้มีโอกาสไปแลกเปลี่ยนความรู้ ความฝันของโรงพยาบาลโนนคูณร่วมกับพี่ๆ น้อง ๆ อีกหลายโรงพยาบาล ความฝันคือสิ่งที่เราตั้งมั่น สักวันหนึ่งในไม่ช้าฝันของเราจะเป็นจริง ยอมรับว่าอาจจะมีอุปสรรคบ้างแต่เราเชื่อว่าไม่มีความสำเร็จใดที่ไม่ได้ฝ่าฟันอุปสรรค เพราะอุปสรรคคือตัวชี้วัดว่าความสำเร็จนั้นยิ่งใหญ่และมีค่าแค่ไหน
นอกจากนี้เรายังได้ประสบการณ์ที่คนเข้าร่วมประชุมเท่านั้นจึงจะรู้ ช่วงบ่ายของวันสุดท้าย ขณะที่ผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนต่างตั้งหน้าตั้งแต่จะนำเสนอ(ขายฝัน)ผลงานของตัวเองให้เพื่อน ๆ ฟัง อาจารย์ดวงสมรได้ดึงดูดความสนใจของทุกคนไว้ที่สิ่งประดิษฐ์เล็ก ที่ประสานได้ด้วยความยิ่งใหญ่แห่งจิตใจ สิ่งนั้นก็คือ หงส์ขาว อาจารย์ดวงสมรเล่าด้วยน้ำเสียงสั่นเครือเล็กน้อยว่า นี่คือสิ่งประดิษฐ์ที่เกิดจากวัสดุเหลือใช้ในตึกผู้ป่วยมะเร็งในเด็ก อาจารย์ได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมการทำงานและเยี่ยมผู้ป่วยตามคำเชิญของพี่กุ้ง แล้วเห็นผู้ปกครองของเด็ก ๆ ที่เป็นมะเร็งมารับการรักษาบางคนนั่งรอลูกตัวเองทำเคมีบำบัด เลยนั่งพับกระดาษเพื่อเป็นชิ้นส่วนประกอบกันทำหงส์ในรูปแบบต่าง ๆ จากคำบอกเล่าของอาจารย์ดวงสมรร่วมกับการอธิบายที่ไปที่มาของโครงการพับกระดาษทำหงส์ของพี่กุ้งแล้วทำให้ฉันนึกถึงรอยกรีดที่กดทับผ่านกระดาษทีละเส้น ผู้ปกครองบางคนคงกรีดไปด้วยความหวังว่าลูกตนต้องดีขึ้น บางคนอาจจะกรีดไปด้วยความรู้สึกเศร้า เสียใจและสงสารลูกที่ตัวเล็ก ๆ ก็ต้องมาเผชิญกับโรคร้ายขนาดนี้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด แต่ทุกรอยกรีดนั้นมันย้ำให้ฉันเห็นว่าในช่วงที่เราเผชิญกับปัญหาไม่ว่าจะยากเย็นสักเพียงใด ก็ยังมีที่ระบาย.........นักจิตวิทยาหลายท่านบอกว่าหากเวลาที่เราเครียดแล้วได้ระบายอารมณ์ในทิศทางที่ถูกต้องและเหมาะสม เราจะค้นพบหนทางแก้ไขทุกปัญหา และสุดท้ายผู้เข้าร่วมการประชุมก็เลือกที่จะระบายอารมณ์ด้วยการร้องเพลง 555555555555...........แหม!! ขอชมนิดนึงนะค่ะว่าตอนแรกที่ได้ยินเสียงพี่กุ้งนะนึกว่าต่าย อรทัยมาเป็นแขกรับเชิญ ยังแอบนึกในใจว่าผู้จัดลงทุนจังเลย พอเห็นว่าเป็นเสียงพี่กุ้งถึงบางอ้อเลย โห๋!!! ผู้หญิงอะไรทั้งสวย เก่ง ร้องเพลงก็เพราะอีก เรียกว่าสมบูรณ์แบบได้ไหมนี่.
พี่นิตยาก็บ่นว่าร้องเพลงไม่เป็น แต่จับไมล์ไม่วางเลยนะนี่ !!!!
ท่าแอ๊บแบ๊วของทุกคน
พวกเราชาวโนนคูณ + พี่กุ้ง +อาจารย์ดวงสมรและคุณพอลล่าที่ปรึกษาตัวน้อย
สวัสดีคะ แอบมาอ่านและให้กำลังใจค่ะ
สวัสดีค่ะ
- ร่วมด้วยช่วยกัน
- เป็นกำลังใจค่ะ