ครูคนใหม่หัวใจติดดิน....จากครูไทบ้าน


สุภาษิตไทยเขาบอกว่าเข้าเมืองตาหลิวต้องหลิวตาตาม

 

ครั้งที่ืแล้วผมได้กล่าวถึงครูติดดินไปแล้วก่อนหน้านี้และจะขออนุญาตกล่าวถึงครูอีกท่านหนึ่งที่ซึ่งก็เป็นครูที่มาบรรจุใหม่พร้อมกันกับครูติดดินเป็นครูสาว.....น่าัรัก....ชื่อครูษิญาดา  พระเนตร หรือครูติ๊ก ดูค่อนข้างที่จะทะมัดทะเเมงเอาการพอสมควรมาบรรจุในตำแหน่งครูคหกรรมวันแรกที่เดินทางมาโรงเรียนครูติ๊กนั่งรถมาเเบบหรูจนทำให้ผมคิดว่าคงจะไม่ใช่คนพื้นเพแถวนี้แน่นอนในที่สุดก็ได้รับคำตอบว่าครูท่านนี้มาจากจังหวัดสิงห์บุรี...ไกลมากๆๆๆส่วนใหญ่จะใช้ชีวิตในกรุงเทพฯมากกว่าจนทำให้ผมคิด...คิดไปเองว่าจะมาอยู่โรงเรียนในชนบทได้หรือสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆก็ไม่ค่อยมีอีกอย่างรอบๆบริเวณโรงเรียนมีเเต่ป่า ทุ่งนา บ้านคนก็ไม่ค่อยจะมีจะเดินทางไปอำเภอก็ประมาณ 20 กิโลเมตร แรกๆผมเองก็ยังไม่กล้าคุยด้วยเพราะยังวางตัวไม่ค่อยถูกอาจเป็นเพราะอายุที่ห่างกันพอสมควรจนเวลาผ่านไปได้สัปดาห์ผมเริ่มที่กล้าคุยกล้าถามกลายเป็นว่าผมพูดมากไปเลยเวลาก็เริ่มผ่านไปเร็วจนผมเห็นการเปลี่ยนของครูท่านนี้จนไม่เชื่อสายตาตัวเองว่าครูกรุงเทพฯมาอยู่บ้านนอกจะเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เริ่มจากพฤติกรรมการกิน การพูดเริ่มเว้าอีสานได้บ้าง จากที่เคยกินข้าวสวยก็หันมาปั้นข้าวเหนียวจากที่เคยทานอาหารเเบบไทยๆก็เปลี่ยนมากินเเจ่ว ลวกผัก อ่อมกบ แกงเห็ดปวก  (เห็ดโคน) ก้อยบักหอย แกงหน่อไม้ บางครั้งผมก็พูดหยอกว่าอยู่ที่นี่ถือว่าโชคดีนะคับที่มีโอกาสได้กินอาหารชั้นสูงนั้นก็คือ ก้อยไข่มดแดง อ้าว..หรอพี่ไม่รู้นะนี้ พี่อยู่ที่โน้นข้าวเหนียวพี่ไม่ค่อยกินพี่ซื้อห่อหนึ่ง5 บาทพี่ยังกินไม่หมดเลยแต่ทำไม่มาอยูู่นี้กินเอา...กินเอา..โดยเฉพาะปั้นข้าวเหนียวจ้ำแจ่วบองแถมยังบอกว่าแซบอีหลี....มีวันหนึ่งครูติ๊กหิวข้าวมากเดินมาหาผมที่บ้านพักแล้วถามว่า....มีข้าวเหนียวกินป่าวผมเลยตอบว่ามีคับพี่แต่ยังไม่ได้นึ่งนะครับครูติ๊กเลยบอกว่าไม่เป็นไรทำไงบอกพี่เดี๋ยวพี่นึ่งเอง...ครูติ๊กก็จัดการใหญ่เลยซาวข้าวเหนียวในหม้อที่แช่ไว้ใส่หวดตั้งไฟเรียบร้อยสักพักก็ถือกับข้าวมา มี ลวกผัก เเจ่วบอง เเหนมหมู ปลาส้ม มานั่งทานกันที่บ้านพักพูดคุยกันอย่างสนุกสนานเมื่อทานเสร็จครูติ๊กพูดปิดท้ายว่าพี่อิ่มมากๆๆไม่เคยกินข้าวเหนียวเยอะขนาดนี้เลยดูแล้วท่าจะอิ่มจริงๆก็เล่นกินข้าวเหนียวหมดกระติ๊บเลย...และยังบอกอีกว่าพี่ชอบบรรยากาศเเบบนี้แหละไม่วุ่นวายดีเหมือนในเมืองใหญ่ๆต้นไม้ก็เยอะร่มรื่นดีผมก็อดดีใจไม่ได้เหมือนกันที่ครั้งแรกผมคิดว่าครูท่านนี้จะอยู่ได้หรือเวลาก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าคนเราจะมาจากที่ไหนก็ตามแต่หากเรามาด้วยใจความมุ่งและอุดมการณ์แล้วจะอยู่ที่ไหนก็ไม่มีปัญหาสามารถอยู่ได้อย่างมีความสุขสมแล้วที่ผมเรียกครูติ๊กว่าครูคนใหม่หัวใจติดดินถึงเเม้ว่าจะเคยอยู่ในเมืองแต่พอมาอยู่ในชนบทครูติ๊กก็สามรถปรับตัวเข้ากับสถานที่และสภาพเเวดล้อมได้เป็นอย่างดีสุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณครูติ๊กที่ทำให้ผมมีเรื่องราวมาเขียนในครั้งนี้และขอบคุณครูติดดินที่ให้โอกาสผมเข้ามามีส่วนร่วมและจะขาดไม่ได้เลยคือผู้ที่ติดตามผลงานครูติดดินทุกท่าน

 

  คันได้กินลาบซิ้นอย่าลืมแจ่วแพวผัก         ได้กินพาเงินพาคำอย่าลืมกระเบียนฮ้าง

              ...ถ้าได้ดิบได้ดีหรือได้เป็นใหญ่แล้วก็อย่าลืมผู้คนรอบข้าง...

หมายเลขบันทึก: 305567เขียนเมื่อ 13 ตุลาคม 2009 15:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 มิถุนายน 2012 14:45 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ด้วยความยินดี ยินดีทีรู้จักค่ะ

สวัสดีค่ะ อ.ษิญาดา พระเนตร หนูก็พึ่งรู้น่ะค่ะว่ามีชื่อ อ.อยู่ที่ เว็บ ร.ร. น.ป.ส. ด้วย

น.ส บุญล้อม วะราบุตร

สวัสดีค่ะคุณครู ร.ร น.ป.ส ทุกคน คิดถึงครูจังเลยค่ะ จ.เด็กสังในกัดเก่า

นางสาวสุนิสา คงสิม

สวัสดีคะอาจารย์ คิดถึงอาจารย์น่ะค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท