จากเด็กบ้านนา…...สู่นางฟ้าในชุดขาว
******************************************************************************
ท่ามกลางแสงแดดที่ร้อนระอุสาดส่องไปทั่วท้องทุ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ขัดกับฤดูการทำนาของชาวอีสานซะเหลือเกิน ความจริงช่วงนี้ท้องฟ้าน่าจะเป็นสีเทา ลมพัดเบาๆ สายฝนโปรยปรายเย็นสบาย อาจจะเนื่องมาจากปีนี้ฝนแล้งก็เป็นได้ถึงทำให้แดดแรงซะเหลือเกิน ฉันยังจำได้เมื่อ 10 ปีก่อนเด็กหญิงคนหนึ่งสวมเสื้อม่อฮ่อมสีดำ ( ผ้าฝ้ายที่นำไปย้อมให้เป็นสีดำหรือสีน้ำเงินด้วยผลมะเกลือ) และกางเกงวอร์มเก่า ๆ ที่ขาทั้งสองข้างเปรอะเปื้อนไปด้วยโคลนจากท้องทุ่งนา ในมือมีต้นกล้าที่จะใช้ดำนาอยู่หนึ่งกำ หมวกสีส้มใบเก่า ๆ ที่สวมอยู่บนศีรษะเพื่อบดบังแสงแดงที่กำลังลามเลียไปทุกอณูของผิวหนัง กำลังก้ม ๆ เงย ๆ เพื่อดำนา
“ ขอโทษเด้อค่า.....นาน้องสายชลอยู่ไสเน้อค่ะ ” เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังแทรกเข้ามาในโสตประสาทหูของฉัน ฉันหยุดการกระทำทั้งหมดแล้วยืดตัวขึ้นมายืนมองผู้หญิงคนนั้น เธอสวมกางเกงผ้าสีดำ เสื้อคอปกสีฟ้า ผิวขาวสะอาด หน้าตาน่ารัก เดินตรงมาหาฉัน
“ เป็นหยั๋งเน้อค่ะจั่งสิไปหาคนสื่อสายชล ” แม่ฉันถามผู้หญิงคนนั้น เธอก็ไม่ได้ตอบเพียงแต่ยิ้มให้ แล้วแม่ฉันก็ชี้มาที่ฉัน
“ นั่นแหละค่ะ คนสื่อสายชล ” เธอมองมาที่ฉันพร้อมยิ้มเต็มใบหน้าอีกครั้ง
“ ไปสิพาไปเฮียนพยาบาล บ่ต้องดำนาอีกแล้ว ” ความรู้สึก ณ ขณะนั้นฉัน งงงง!!!!......... เขาเป็นใคร? และบอกไม่ถูก ไม่เชื่อหูตัวเอง เมื่อผู้หญิงคนนั้นแนะนำตัวเองว่ามาจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ มาตามตัวสำรองไปเข้าเรียนพยาบาลเพราะคนเก่งๆเขาสละสิทธิ์กันหมดเพื่อไปเรียนสิ่งที่เขาคิดว่าดีกว่าอาชีพพยาบาล แต่ไม่ได้หมายความว่าคนเรียนพยาบาลเรียนไม่เก่งนะคะ อาจเป็นเพราะว่าคนเหล่านั้นไม่มีคุณสมบัติของความเป็นพยาบาลต่างหากละ
ตอนแรกฉันไม่เคยคิดอยากเป็นพยาบาลเพราะรู้สึกว่าไม่มีเวลาพักผ่อน และคิดว่าพยาบาลต้องเป็นคนเรียบร้อยและนิสัยดี ซึ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับลักษณะนิสัยโดยส่วนตัวของฉันเองมาก แต่ที่ไปสอบเพราะเพื่อนชวน ความฝันของข้าพเจ้าคืออยากเป็นคุณครู เพราะมีวันปิดภาคเรียนและที่สำคัญได้แต่งตัวสวยๆ
เมื่อฉันได้เข้าเรียนที่วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีสุรินทร์ ก็เริ่มรู้สึกว่าเป็นอะไรที่เหนื่อยและต้องใช้ความอดทนและความพยายามมากที่สุด มีอยู่ครั้งหนึ่งที่รู้สึกว่าตัวเองล้า ไม่อยากเรียน ไม่อยากเป็นอีกแล้วพยาบาล ( ช่วงที่ขึ้นเก็บประสบการณ์ที่ห้องคลอด และเจอกับอากาศที่หนาวเย็นมากๆและฉายาพยาบาลห้องคลอดมีแต่คนใจร้าย ) และบ่อยครั้งที่มีทั้งหัวเราะและร้องไห้ แต่เมื่อกลับมาบ้านก็ได้กำลังใจจากคุณยาย พ่อและแม่ผู้ซึ่งเป็นบุคคลอันเป็นที่รัก จึงทำให้ฉันฮึดสู้อีกครั้งหนึ่ง
เมื่อเรียนจบก็ได้ปฏิบัติงานที่บ้านเกิดของตนเอง ซึ่งเป็นโรงพยาบาลประจำอำเภอโนนคูณ หลายคนคงจะไม่รู้จักอำเภอนี้เป็นแน่ เพื่อน ๆ ฉันบอกว่าได้ยินแต่ชื่อก็ไม่มีใครอยากจะอยู่แล้ว แต่ด้วยสปิริตของความที่ว่า สำนึกรักบ้านเกิด ณ ขณะนั้น ฉันจึงไม่มีคู่แข่งในการเลือกลงสมัครที่อำเภอเลยสักคน แรกเริ่มฉันได้ปฏิบัติงานที่ตึกผู้ป่วยใน ต้องขึ้นเวรบ่ายและเวรดึก เวลาส่วนใหญ่สูญเสียไปกับการลงเวรแล้วก็นอน นอนแล้วก็ขึ้นเวร ไม่สุงสิงกับใคร แม้กระทั่งบางวันข้าวก็ไม่ได้กินเลย เพราะมัวแต่นอน ไม่รู้จักใคร แม้กระทั้งคนในหมู่บ้านของตนเอง เป็นอย่างนี้อยู่เรื่อยมาจนเวลาผ่านไป 6 ปี หลังจากนั้นฉันมีโอกาสได้ไปศึกษาต่อเนื่องในหลักสูตร 2 ปี หลังจากเรียนจบที่วิทยาลัยพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี รางวัลชิ้นแรกที่ฉันได้รับหลังเรียนจบและในวันรับปริญญาบัตรคือ การที่ได้รับโทรศัพท์ทางไกลจากโรงพยาบาลโนนคูณว่าถูกย้ายสถานที่ปฏิบัติงานใหม่ ให้ไปทำงานที่กลุ่มงานเวชปฏิบัติครอบครัวและชุมชน ทำให้ฉันถึงกับน้ำตาไหลเพราะอะไรหลายๆอย่างที่ฉันบอกไม่ถูกเหมือนกัน ณ ขณะนั้น
“ ข่อยอยากให้เจ้ามาอยู่นำข่อย มาส่อยกันพัฒนาบ้านเกิดของเฮา ” นี่คือคำพูดของผู้ที่ได้ชื่อว่า เป็นหัวหน้าของฉันตั้งแต่บัดนั้นจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งคำพูดนี้ยังก้องอยู่ใน 2 หูของฉันตลอดมา เนื่องจากพี่ที่รับผิดชอบงานต้องย้ายสถานที่ทำงาน คือย้ายตามสามีไปต่างจังหวัด อย่างกระทันหัน และฉันได้มารับงานต่อ โดยไม่ได้รับการมอบหมายงานอะไรเลย เมื่อไปรายงานตัวที่ทำงานใหม่วันแรก ( วันที่ 6 มกราคม 2549 ) สิ่งที่ฉันได้รับก็คือเอกสารในกล่อง กระดาษ A4 จำนวน 2 กล่อง และเอกสารที่วางไว้บนโต๊ะ ประมาณ 2 / 3 ของโต๊ะ
“ นี่คืองานที่เจ้าต้องศึกษาเอาเองเพราะว่ามันเป็นงานที่เจ้าต้องรับผิดชอบทั้งหมด ” งานที่กล่าวถึงคืองานสร้างสุขภาพ งานผู้สูงอายุ งานคนพิการ งานคัดกรองมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งเต้านม งานคัดกรองเบาหวานและความดันโลหิตสูงเชิงรุก และงานที่สำคัญอีกอย่างที่ ก็คือ งานเยี่ยมบ้าน ทำไมมันช่างมากมายอย่างนี้ จะทำได้ไหมนี่? ทำไมพี่เขาถึงเก่งจัง ? คำถามต่างๆผุดขึ้นมาในใจ แต่เมื่อฉันมาปฏิบัติงานที่กลุ่มงานเวชปฏิบัติ ครอบครัวและชุมชน หัวหน้าบอกฉันว่าฉันมีคุณสมบัติที่เหมาะสมที่จะทำงานกับชุมชน เพราะเป็นคนบ้านเฮา และเมื่อไปปฏิบัติงานในชุมชนจริงๆ ทำให้ฉันได้รู้ถึงคุณค่าของความเป็นคนมากมาย ทำให้ได้รู้จักกับคนหลายๆอาชีพ หลายๆกลุ่มอายุ ทำให้มีความกล้าคิดและกล้าทำอะไรหลายอย่างที่ไม่เคยทำเลยในชีวิต มันฝึกตั้งแต่การติดต่อประสานงานกับทุกๆหน่วยงานและเกือบจะทุกๆอาชีพ และที่สำคัญคือ ใครๆก็รู้จักฉันในนามของ หมอสาย ส่วนใหญ่พ่อแม่พี่น้องบ้านใกล้เรือนเคียงจะขอความช่วยเหลือ ไม่ว่าตั้งแต่การล้างแผล การฉีดยาที่ได้มาจากคลีนิค เป็นธุระเรื่องอุปกรณ์ทำแผล และเป็นที่ปรึกษาในหลายๆเรื่องและอาสาเป็นธุระให้ ถ้าพอทำได้หรือถ้าทำไม่ได้ก็จะพยายามปรึกษาผู้ที่สามารถแก้ไขและทำสิ่งนั้นได้ ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับ ณ ขณะที่เป็นพยาบาลประจำตึกผู้ป่วยใน มันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ขอบคุณที่ฉันได้มาอยู่ตรงจุดนี้ ณ ปัจจุบัน ได้มีโอกาสช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่เขาด้อยโอกาสกว่าเรา
ซึ่งเพื่อนหลายๆคนเคยบอกว่าฉัน “ตามใจคนไข้ ” แต่สำหรับตัวฉันเองไม่ได้คิดว่ามันเป็นการตามใจแต่คิดว่ามันเป็นการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ เมื่อมนุษย์ร้องขอ เราก็ต้องให้ และให้แบบไม่หวังสิ่งตอบแทน คือการให้บริการด้วยหัวใจของความเป็นมนุษย์ มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ฉันคิดว่าเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ยอมให้ญาติผู้ป่วยต่อว่า ซึ่งฉันคิดว่าตนเองไม่มีความผิดเลยกับการที่พยายามกระตุ้นให้ญาติหันมาสนใจผู้ป่วยที่พิการและช่วยเหลือตนเองได้บ้าง สักนิดก็ยังดี และบางครั้งยังทำให้ฉันคิดว่า ตัวเองเข้าไปยุ่งกับเขาทำไม? ญาติพี่น้องก็ไม่ใช่ แต่สิ่งที่ฉันได้รับคือความภูมิใจ และความดีใจ ที่ภรรยา บุตรและญาติหันมาดูแลกันจนถึงปัจจุบัน ( เห็นหน้าผู้ป่วยรายนี้ทีไรก็มีแต่รอยยิ้ม แห่งความภูมิใจ ) ยังแอบคิดในใจเลยว่า
ถึงแม้จะโดนด่าก็คุ้มกับการลงทุนครั้งนี้นะ
สายชล นิลเนตร
team HHC รพ.โนนคูณ
สวัสดีครับ อ่านไปยิ้มไป สนุกดีครับ เป็นกำลังใจให้นะครับสายชล
ขอบคุณมากค่ะ ตอนนี้ก็กำลังทำหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มที่
เมื่อก่อนเคยถามตัวเองว่าทำแบบนี้ทำไม?
ตอนนี้กลับถามว่าถ้าวันนั้นเราไม่ทำวันนี้เราจะรู้ไหม?
ว่าคุณค่าของความเป็นคน.....
มันมีค่าแค่ไหน?
เรื่องเล่า่นี้งดงามมาก
ขอเป็นกำลังใจให้ครับ
หมอสายหายไปนานจังครับ รอติดตามผลงานครับผม
ขอบคุรนะค่ะที่หลาย ๆ คนคอยติดตามผลงานเรื่องเล่าจากรพ.โนนคูณ อีกไม่นาน จะมีเรื่องเล่าให้ใหม่ ๆ ให้อ่านหวังว่าคงคอยติดตามและเป็นกำลังใจให้กันนะค่ะ
ขอเป็นกำลังใจให้คุณหมอสายและทีมงาน นะครับ ขอคุณงามความดีทั้งหลายที่ทีมงานได้ทำแล้วให้ผู้รับบริการได้ประทับใจ ในความเป็นผู้ให้ ขอจงเป็นตะบะเดชะพลวะปัจจัยอำนวยอวยชัยให้ บุคลากร รพ.โนนคูณ สุขทั้งกายและใจตลอดไปนะครับ คุณหมอสายสุดยอดในการบริการครับ บริการทุกระดับประทับใจ "บริการดุจญาติ รับใช้ราษฎรดุจครอบครัว" จากหนึ่งกำลังใจครับ
หวาดดีคราฟอาสายขอเป็นกำลังใจให้คุณหมอสายและทีมงาน นะครับ ขอคุณงามความดีทั้งหลายที่ทีมงานได้ทำแล้วให้ผู้รับบริการได้ประทับใจ ในความเป็นผู้ให้ ขอจงเป็นตะบะเดชะพลวะปัจจัยอำนวยอวยชัยให้ บุคลากร รพ.โนนคูณ สุขทั้งกายและใจตลอดไปนะครับ คุณหมอสายสุดยอดในการบริการครับ บริการทุกระดับประทับใจ "บริการดุจญาติ รับใช้ราษฎรดุจครอบครัว" จากหนึ่งกำลังใจครับ
ขอเป็นกำลังใจให้คุณหมอสายและทีมงาน นะครับ ขอคุณงามความดีทั้งหลายที่ทีมงานได้ทำแล้วให้ผู้รับบริการได้ประทับใจ ในความเป็นผู้ให้ ขอจงเป็นตะบะเดชะพลวะปัจจัยอำนวยอวยชัยให้ บุคลากร รพ.โนนคูณ สุขทั้งกายและใจตลอดไปนะครับ คุณหมอสายสุดยอดในการบริการครับ บริการทุกระดับประทับใจ "บริการดุจญาติ รับใช้ราษฎรดุจครอบครัว" จากหนึ่งกำลังใจครับ