ประวัติศาสตร์ไทยสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น
(รัชกาลที่ 4-7)
………………………………..
1. การจัดการศึกษา
- สมัยรัชกาลที่ 4
1. ให้มีการคัดลอกภาษา ขนบธรรมเนียมประเพณี คำพิพากษาต่างๆ ไว้ในสมุดหลายเล่มเพื่อการศึกษาของสามัญชนโดยปกติจะอยู่ที่วัดและมีพระเป็นผู้สอน
2. ได้ผ่อนคลายปัญหาการขาดแคลนกำลังคนที่มีความรู้ความสามารถด้วยการจ้างชาวต่างประเทศเข้ามารับราชการ
3. ทรงริเริ่มส่งนักเรียนไปศึกษาต่อยังต่างประเทศ
- สมัยรัชกาลที่ 5
ได้มีการปรับปรุงการศึกษาครั้งสำคัญโดยมีจุดมุ่งหมายสำคัญ 2 ประการดังนี้
1. จัดตั้งโรงเรียนเพื่อผลิตคนเข้ารับราชการและพัฒนาประเทศให้ทันสมัย โดยมีการจัดตั้งโรงเรียนดังนี้
ก. โรงเรียนหลวงแห่งแรกในพระบรมมหาราชวัง เมื่อ พ.ศ.2414 คือโรงเรียนมหาดเล็กหลวง ต่อมาในปี พ.ศ.2425 เรียกชื่อว่า โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ
ข. ตั้งโรงเรียนทำแผนที่
ค. ตั้งโรงเรียนฝึกหัดครูของกระทรวงธรรมการ
ง. ตั้งโรงเรียนกฎหมายของกระทรวงยุติธรรม
2. จัดตั้งโรงเรียนสำหรับราษฎรเพื่อให้การศึกษาหาความรู้
ในปี พ.ศ.2427 ได้ตั้งโรงเรียนมหรรณพาราม ขึ้นเป็นโรงเรียนสำหรับราษฎรแห่งแรก เมื่อแรกตั้งมีการเล่าลือกันว่าจะเอาเด็กไปเป็นทหาร ราษฎรก็พากันหวาดกลัวไม่ยอมส่งบุตรหลานเข้าเรียน ต่อเมื่อรัชกาลที่ 5 ออกประกาศชี้แจงว่าการตั้งโรงเรียนตั้งเพื่อให้ราษฎรรู้หนังสือเป็นประโยชน์แก่ตัวเองและแก่บ้านเมือง กิจการโรงเรียนหลวงจึงเจริญขึ้นตามลำดับ
ต่อมาทรงมีพระราชดำริแยกโรงเรียนมหาดเล็กหลวงออกจากกรมทหารมหาดเล็กและโปรดให้ตั้งกรมศึกษาธิการขึ้นมีเจ้าพระยาภาสกรวงศ์เป็นเสนาบดีคนแรก
การจัดวางระบบการศึกษาแบบใหม่เริ่มพัฒนาปรับปรุงขึ้นตั้งแต่ พ.ศ.2435 ดังนี้
- การประกาศตั้งโรงเรียนมูลศึกษา พ.ศ.2435 ตั้งขึ้นตามวัด แบ่งเป็น 2 ระดับ คือ มูลศึกษาสามัญชั้นต้นใช้เวลาเรียน 3 ปี และมูลศึกษาสามัญชั้นสูงใช้เวลาเรียน 1 ปี และได้มีการชักชวนให้เอกชนตั้งโรงเรียนเชลยศักดิ์ (โรงเรียนราษฎร์) โรงเรียนเชลยศักดิ์แห่งแรกได้แก่โรงเรียน คริสเตียนวิทยาลัย ซึ่งเดิมชื่อสำเหร่บอยคริสเตียนไฮสกูล
- ทำโครงการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2441 และ พ.ศ.2445 เรียกว่าโครงการแผนกการศึกษาโครงการแผนการศึกษา พ.ศ.2441 แบ่งการศึกษาออกเป็น 2 ภาคคือ
ภาคแรก เป็นการศึกษาในกรุงเทพ
ภาคที่สอง ว่าด้วยการศึกษาในหัวเมือง รัชกาลที่ 5 ทรงมอบให้สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพกับสมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรส เป็นผู้รับผิดชอบ
โครงการแผนการศึกษา พ.ศ.2445 แบ่งสหการศึกษาเป็น 2 สาย คือสายสามัญศึกษาการสายวิสามัญ
- แบบเรียนที่ใช้เรียนมี 6 เล่ม เรียบเรียงโดย พระยาศรีสุนทรโวหาร ได้แก่ มูลบทบรรพกิจ วาหนิต์นิกร อักษรประโยค สังโยคพิธาน ไวพจน์พิจารณ์ และพิศาลการันต์
- ให้มีการสอบทุนเล่าเรียนหลวงไปเรียนต่างประเทศเรียกว่าทุน คิงสกอลาชิป ปีละ 2 คน ส่งไปอเมริกาอละยุโรป
- สมัยรัชกาลที่ 6
1. ได้มีการขยายการศึกษาไปสู่ราษฎร เน้นด้านการศึกษาหาเลี้ยงชีพ ด้านหัตถกรรม เกษตรกรรม พาณิชการ วิชาครู วิชาการเสมียน
2. พ.ศ.2456 ประกาศโครงการศึกษาฉบับใหม่แบ่งการศึกษาเป็นประเภทสามัญและวิสามัญ
3. ตั้งโรงเรียนขึ้นตามมณฑลต่างๆ ทุกมณฑล
4. ตั้งโรงเรียนมหาดเล็กหลวงตามแบบโรงเรียนประจำของอังกฤษ ปัจจุบันคือโรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย
5. ออก พ.ร.บ.ประถมศึกษา พ.ศ.2464
6. เก็บเงินศึกษาพลีจากชาวไทยที่มีอายุระหว่าง 18-60 ปี อย่างต่ำ 1 บาท อย่างสูง 3 บาท ตามฐานะ
7. ตั้งโรงเรียนอาชีวศึกษา เช่น พาณิชการ เพาะช่าง อุเทนถวาย และโรงเรียนฝึกหัดครู
8. ตั้งมหาวิทยาลัยแห่งแรกของไทยคือ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งยกฐานะมาจากโรงเรียนข้าราชการพลเรือนหรือโรงเรียนมหาดเล็กหลวงเดิม
- สมัยรัชกาลที่ 7 (ก่อนเปลี่ยนแปลงการปกครอง)
ยังไม่มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงใดๆ ยังคงดำเนินตามสมัยรัชกาลที่ 6
จงตอบคำถามต่อไปนี้
1. การปฏิรูปการศึกษาในสมัยรัชกาลที่ 5 ทำให้ระบบการศึกษาของไทยเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง
2. การจัดการศึกษาที่เน้นการหาเลี้ยงชีพในสมัยรัชกาลที่ 6 หมายถึงอะไร และสามารถเลี้ยงชีพได้อย่างไร
3. นักเรียนคิดว่า ทุนเล่าเรียนหลวงหรือ คิงสกอลาชิป มีความจำเป็นหรือมีประโยชน์อย่างไร
2. การศาสนาและขนบธรรมเนียมประเพณี
- สมัยรัชกาลที่ 4
1. ประกาศใช้ พ.ร.บ.ลักษณะปกครองสงฆ์ ร.ศ.121 เป็นฉบับแรก โดยมีสมเด็จพระสังฆราช เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุด และมีมหาเถรสมาคมเป็นที่ปรึกษา
2. ทรงตระหนักถึงสถานการณ์ของประเทศไทยว่ากำลังถูกคุกคามจากชาติตะวันตก จึงดำริว่าไทยควรปรับปรุงขนบธรรมเนียมให้เป็นที่ยอมรับของชาวต่างชาติได้แก่
ก. โปรดให้ข้าราชการสวมเสื้อเข้าเฝ้า
ข. โปรดให้ชาวต่างประเทศเข้าเฝ้าในงานพระราชพิธีด้วย
ค. ให้ยกเลิกประเพณีห้ามราษฎรเข้าเฝ้าเวลาเสด็จพระราชดำเนิน ทรงอนุญาตให้ราษฎรรับเสด็จได้โดยสะดวก
ง. ฟื้นฟูประเพณีตีกลองร้องฎีกา (มีกลองวินิจฉัยเภรีแขวนไว้ใครเดือดร้อนต้องการยื่นฎีกาให้มาตีกลอง)
- สมัยรัชกาลที่ 5
1. ทรงตั้งสถานศึกษาสำหรับสงฆ์คือ มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยหรือมหาธาตุวิทยาลัยเป็นสถานศึกษาฝ่ายมหานิกาย และมหามกุฏราชวิทยาลัยสำหรับฝ่ายธรรมยุติกนิกาย
2. ให้มีพระราชพิธีบรมราชาภิเษก โปรดให้ทูตานุทูตยืนเฝ้าถวายคำนับ
3. ประเพณีการสืบสันตติวงศ์
4. ทรงยกเลิกตำแหน่งวังหน้าหรือกรมพระราชวังบวรเมื่อกรมพระราชวังบวรวิไชยชาญทิวงคต ทรงตั้งตำแหน่ง สยามมกุฏราชกุมารขึ้นแทน มกุฏราชกุมารพระองค์แรกคือสมเด็จเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ
5. ปรับปรุงประเพณีไว้ผมทรงมหาดไทย โดยให้ชายไทยในพระราชสำนักเลิกไว้ผมทรงมหาดไทย เป็นตัดผมยาวทรงดอกกระทุ่ม
6. ใช้แบบเสื้อราชประแตนและสวมหมวกอย่างยุโรปแต่ยังนุ่งผ้าม่วงอยู่
7. หลังจากกลับจากประพาสยุโรป สตรีไทยได้หันกลับไปนิยมแบบเสื้อของอังกฤษคือคอตั้งแขนยาว
8. ตอนปลายรัชกาลสตรีไทยนิยมนุ่งโจงกระเบน ชายนุ่งกางเกงแบบตะวันตก
- สมัยรัชกาลที่ 6
1. ทรงกระทำพิธีบรมราชาภิเษก 2 ครั้ง
2. กำหนดคำหน้านามว่า นาย นาง นางสาว เด็กชาย และเด็กหญิง
3. ออกพระราชบัญญัตินามสกุล
4. ใช้พุทธศักราชเป็นศักราชทางราชการแทนการใช้รัตนโกสินทร์ศก
5. เปลี่ยนธงชาติจากธงช้างที่มีพื้นธงสีแดงล้วนและมีช้างเผือกอยู่ตรงกลางมาเป็น ธงไตรรงค์
6. เปลี่ยนการนับเวลาทางราชการโดยใช้เวลามาตรฐานตามเวลากรีนิชเป็นหลัก
- สมัยรัชกาลที่ 7 (ก่อนเปลี่ยนแปลงการปกครอง)
ยังคงเหมือนสมัยรัชกาลที่ 6
3. การเลิกทาสในสมัยรัชกาลที่ 5
1. ทาสมีฐานะทางสังคมต่ำที่สุดมีศักดินาเพียง 5 ไร่
2. การเลิกทาสเป็นงานปฏิรูปสังคมอันดับแรกที่รัชกาลที่ 5 ทรงจัดทำควบคู่ไปกับการจัดระบบการศึกษาและการเลิกอากรบ่อนเบี้ย (อากรบ่อนเบี้ยคือรายได้ที่ได้จากการอนุญาตให้เปิดบ่อนการพนันทำรายได้มาก แต่ทำให้ผู้คนติดการพนันและเป็นหนี้สินมากไม่มีเงินใช้หนี้ต้องขายลูกเมียไปเป็นทาสใช้หนี้)
3. การเลิกทาสเริ่มกระทำตั้งแต่ปี พ.ศ.2417 โดยดำเนินการอย่างสุขุมเป็นไปทีละขั้นตอน โดยมิให้กระทบกระเทือนอย่างรุนแรงแก่ฝ่ายเจ้าของทาสและตัวทาสเอง ทรงเริ่มด้วย
ก. ประกาศให้เจ้าของทาสจดทะเบียนแยกประเภทของทาสไว้ให้เป็นระเบียบ เดือนสิงหาคม พ.ศ.2417 ออก พ.ร.บ.พิกัดเกษียณอายุลูกทาสลูกไทย กำหนดให้ลูกทาสที่เกิดปีมะโรง พ.ศ.2411 หลุดพ้นจากความเป็นทาสเมื่ออายุครบ 21 ปีบริบูรณ์
ข. กำหนดอัตราไถ่ถอนทาสไว้เป็นมาตรฐานคงที่ คือ ชายค่าตัว 8 ตำลึง หญิง 7 ตำลึง
ค. ปี พ.ศ. 2448 ออก พ.ร.บ.เลิกทาสทั่วประเทศ
จงตอบคำถามต่อไปนี้
1. การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงขนบธรรมเนียมประเพณีของไทยในสมัยรัชกาลที่ 4 ถึงรัชกาลที่ 7 เป็นการช่วยให้ไทยรอดพ้นจากการเป็นเมืองขึ้นของชาวตะวันตกใช่หรือไม่เพราะเหตุใด
2. การเลิกทาสในสมัยรัชกาลที่ 5 มีมูลเหตุมาจากเรื่องใดและเมื่อเลิกทาสแล้วทำให้สังคมไทยเปลี่ยนแปลงหรือไม่อย่างไร
**ข้อมูลเพิ่มเติม**
*เศรษฐกิจ สังคมศาสนาสมัย ร.1-ร.3*
คลิกอ่านได้ครับ
*ศิลปกรรมและความสัมพันต่างประเทศสมัย ร.1-ร.3*
คลิกอ่านได้ครับ
*กฎหมายเศรษฐกิจการศาลสมัย ร.4-ร.7*
คลิกอ่านได้ครับ
*ประวัติศาสตร์สมัยร.7-ปัจจุบัน(การปกครอง)*
คลิกอ่านได้ครับ
*ประวัติศาสตร์ไทยหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง(การปกครอง)*
คลิกอ่านได้ครับ
แหล่มเลย
อ่านแล้วสนุกมากเลย
อ่านแล้วสนุกมากเลย
อ่า...งงอยู่นิดหน่อยนะ คือเราไปเซิร์ทในกูเกิ้ลเรื่องสมัยรัตนโกสินทร์ งงตรงที่ว่าบางเว็บก็บอกตอนต้นร.1-3 อีกเว็บก็บอก ร.4-7 แล้วตอนกลางไม่มีเหรอ? ใครรู้ช่วยบอกทีนะ เราต้องทำรายงานอ่ะ
ความรู้มากมายเลย
ขอบคุณมากครับ
ไว้โอกาศหน้าจะ
มาใช้บริการต่อ
เมื่อขาดความรู้