การลง ทุนในธุรกิจการเก็งกำไรอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราผ่านระบบเครือข่ายหรือ FOREX นั้นในปัจจุบันยังไม่มีนักวิชาการ หรือผลงานวิจัยใดที่สามารถสรุปยืนยันได้อย่างชัดเจนว่า ธุรกิจตลาด FOREX สมควรเป็นธุรกิจที่ถูกต้องตามกฏหมาย สามารถทำผลกำไรให้กับนักลงทุนได้อย่างยุติธรรม ไม่ถูกเอาเปรียบ สมควรที่จะให้ประเทศไทยสามารถเปิดธุรกิจด้านนี้ได้อย่างเสรี โดยไม่จำกัดการดำเนินธุรกิจอยู่แต่เพียงธนาคารหรือสถาบันการเงินใหญ่ๆ ซึ่งเรียกกันตามภาษาทางการเงินการคลังว่า การปริวรรตเงินตรา เท่านั้น
ตามข้อเท็จจริงแล้ว กระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทยยังไม่อนุญาตให้บุคคลทั่วไป ซื้อ/ขายเงินตราต่างประเทศในลักษณะเก็งกำไรจากอัตราการแลกเปลี่ยน เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูงจากความผันผวนของตลาด และอัตราแลกเปลี่ยน นอกจากนั้นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกระทรวงการคลัง ได้มีการประกาศเตือนประชาชนว่าอย่าได้ไปหลงเชื่อ แต่ถึงทุกวันนี้บริษัทที่ ทำธุรกิจประเภทดังกล่าวก็ยังคงมีอยู่เป็นจำนวนมาก และได้มีการพัฒนารูปแบบในการหลอกลวงประชาชนอยู่ตลอดเวลา เพื่อหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กลุ่มบุคคลเหล่านี้อาศัยความเจริญทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และช่องว่างทางกฏหมายต่างๆ ในการหาช่องทางกระทำผิด
ความเสียหายและผลกระทบจากธุรกิจ FOREX หรือธุรกิจการเงินนอกระบบอื่นๆนั้นสร้างความเสียหายกับระบบเศรษฐกิจเป็น อย่างมาก เงินที่ได้จากธุรกิจเหล่านี้ มิได้ถูกนำไปใช้ในการลงทุนที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจมวลรวมของประเทศ ส่วนใหญ่จะหมดไปกับการใช้จ่ายสิ้นเปลือง อาจถูกนำไปเพื่อการฟอกเงิน หรือถูกผันไปสู่ธุรกิจนอกกฏหมายอื่นๆ ต่อ นอกจากนี้การระดมเงินนอกระบบมักจะเกิดขึ้นสวนทางกับนโยบายรัฐบาลซึ่งทำให้มี เงินออมในระบบน้อยลง ทั้งยังเกิดผลกระทบต่อการประกอบธุรกิจการเงินภายในระบบ ส่งผลให้เงินฝากของสถาบันการเงินไหลออกไปสู่นอกระบบ อาจมีเงินบางส่วนไหลออกสู่นอกประเทศด้วย ตลอดจนมีผลกระทบต่อประชาชนทั่วไป ทั้งในส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค ทำให้เกิดความเสียหายในวงกว้าง และเกิดความเดือดร้อนไปทุกจังหวัดทั่วประเทศทำให้ความเป็นอยู่ ภาวะทางสังคม สุขภาพจิตของผู้ถูกหลอกลวงอันจะมีผลกระทบไปสู่ระบบเศรษฐกิจและสังคมโดยรวม อีกด้วย
พฤติกรรมในการดำเนินการของธุรกิจการเก็งกำไรอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราผ่านระบบ เครือข่ายที่ดำเนินธุรกิจอยู่ ณ ปัจจุบันในสังคมไทยนั้น เป็นการกระทำความผิดตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 โดยสาระสำคัญของพระราชกำหนดนี้มีถูกร่างขึ้นมาโดยมีความมุ่งหมาย 3 ประการ ดังนี้
1. เพื่อมิให้ประชาชนตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมทางเศรษฐกิจดังกล่าว
2. เพื่อให้ประชาชนได้รับเงินลงทุนคืน
3. เพื่อปราบการระดมเงินที่ผิดกฎหมายในช่วงระยะเวลานั้น
นอกจากนั้นในการแก้ไขกฎหมายการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ครั้ง 2 พ.ศ. 2545 ยังได้มีการเพิ่มเติมถึงกรณีของการเก็งกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนอีกด้วยเนื่อง จาก บทบัญญัติเดิม ยังไม่อาจใช้บังคับครอบคลุมแก่การกระทำดังกล่าวได้ จึงจำเป็นต้องแก้ไขเพิ่มเติมองค์ประกอบความผิดฐานกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อ โกงประชาชน และกำหนดให้การโฆษณาหรือประกาศ หรือการกระทำใดๆ ให้ประชาชนนำเงินเข้ามาร่วมลงทุนลักษณะดังกล่าว เป็นความผิดฐานกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนด้วย ประกอบกับจำเป็นต้องเพิ่มเติมบทบัญญัติในเรื่องการคำนวณผลประโยชน์ตอบแทน ความรับผิดของพนักงาน หรือลูกจ้างของนิติบุคคลผู้กระทำความผิดซึ่งเป็นคนต่างด้าว รวมทั้งให้มีการจ่ายสินบนและเงินรางวัล เพื่อให้การปราบปรามผู้กระทำความผิดมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกง ประชาชน พ.ศ. 2527 (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2545 เป็นต้นมาสาระสำคัญที่แก้ไข ดังนี้
หลักการสำคัญของร่างพระราชบัญญัตินี้แยกออกได้เป็นสองเรื่อง เรื่องแรกเป็นการห้ามประกอบกิจการซึ่งในร่างกฎหมายเรียกว่า “ กิจการระดมเงินนอกระบบ ” และเรื่องที่สองได้แก่ การห้ามการประกอบกิจการซึ่งเรียกว่า “ กิจการเงินต่อเงิน ” ซึ่ง FOREX เข้าข่ายความผิดนี้ เพราะเป็นรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่มีการใช้เงินตราเป็นตัวแปรสำคัญในการระดม เงินลงทุน นอกจากนั้นยังมิได้มีการซื้อ/ขายอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา เป็นเพียงการ ผันเงินจากนักลงทุน สู่บัญชีของกลุ่มผู้ที่ดำเนินธุรกิจนอกกฏหมายเหล่านี้เพียงเท่านั้น
ข้อเสนอแนะ
ผู้เรียบเรียงมีความคิดเห็นว่าในการศึกษาครั้งนี้ควรแบ่งข้อเสนอแนะออกเป็น 2 ประเด็น ดังนี้
ข้อเสนอแนะต่อประชาชน และนักลงทุน
ข้อเสนอแนะสำหรับประชาชน และนักลงทุน มีดังต่อไปนี้
ข้อเสนอแนะต่อหน่วยงานภาครัฐบาล
ข้อเสนอแนะต่อหน่วยงานภาครัฐบาลมีดังต่อไปนี้
บรรณานุกรม
ข่าวสารทิศทางประเทศไทย. เศรษฐกิจใต้ดิน : การงอกงามใต้ร่มเงาโลกาภิวัฒน์. กรุงเทพฯ : 2546
คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. โครงการศึกษาวิจัยเรื่อง ธุรกิจนอกกฏหมาย
ความผิดมูลฐานและการฟอกเงิน. กรุงเทพฯ : 2547
ธนาคารแห่งประเทศไทย. การเก็งกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ.
[ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา http://www.bot.or.th. (29 พฤศจิกายน 2550).
พีรพันธุ์ เปรมภูติ. คู่มือพนักงานสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางการเงิน. กรุงเทพฯ :
สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน. 2545
มิศรา สามารถ. การฟอกเงิน. กรุงเทพฯ : สถาบันดำรงราชานุภาพ. 2540
วีระพงษ์ บุญโญภาส. อาชญากรรมทางเศรษฐกิจ. พิมพ์ครั้งที่ 5. กรุงเทพฯ : นิติธรรม. 2549
สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา. ศูนย์บริการข้อมูลและกฎหมาย. การป้องกันและปราบปราม
การฟอกเงิน. กรุงเทพฯ : สำนักงาน. 2537
สุรพล ไตรเวทย์. คำอธิบายกฎหมายฟอกเงิน : ปัญหา ข้อเท็จจริง คำอธิบาย พระราชบัญญัติ
ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542. กรุงเทพฯ : วิญญูชน. 2542
ไม่มีความเห็น