นโยบายกระทรวงศึกษาธิการ
รมว.ศธ. ได้มอบนโยบายแก่ผ.อ.สพท.และประธานศูนย์ประสานงานการจัดการมัธยมศึกษาทั่วประเทศ มีสาระสำคัญดังนี้
1. กรอบการปฏรูปการศึกษาไทยรอบสองเน้น 4 ใหม่ คือ คนไทยยุคใหม่ ครูยุคใหม่ ระบบบริหารจัดการแบบใหม่ และแหล่งเรียนรู้หรือสถานศึกษายุคใหม่ เพื่อให้คนไทยทุกคนได้เรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ เน้นคุณาภาพ การขยายโอกาสและการแสวงหาการมีส่วนร่วม
2. โครงการ 5 ฟรี คือ เรียนฟรี 15 ปี ติวฟรี (Tutor Channal ) ดื่มนมโรงเรียนฟรี อาหารกลางวันฟรีและผู้พิการเรียนฟรีถึงระดับปริญญาตรี
3.โครงการไทยเข้มแข็ง ( SP2 ) ขณะนี้งบประมาณอยู่ที่กระทรวงการคลังแล้ว ซึ่งมีโครงการที่ต้องดูแลคือ โครงการโรงเรียน 3 ดี จำนวน10,000 โรง โครงการอินเตอร์เน็ดความเร็วสูง ต้องเข้าถึงโรงเรียนอย่างน้อย3,000 โรงเรียน การเพิ่มความปลอดภัยในโรงเรียนพื้นที่ห่างไกร ทุรกันดาร เช่นเพิ่มบ้านพักครู เรือนนอนนักเรียน ศธ.จัดงบให้โรงเรียนละ 170,000 บาท ห้องสมุด 3 ดี จะมีคอมพิวเตอร์เพื่อใช้E-book ให้กับทุกโรงเรียน โครงการจัดซื้อคอมพิวเตอร์ 4000,000 เครื่องให้กับโรงเรียน 18,000 โรงทั่วประเทศโดยให้โรงเรียนจัดซื้อเอง และการอบรมพัฒนาครู 450,000 คน แยกเป็นระดับผู้บริหารและระดับผู้สอนตามกลุ่มสาระ
4.นโยบาย 3 ดี ซึ่งอยู่ในเงื่อนไขของสมศ.ด้วยเพื่อให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ มารองรับ
5. การสอนทางไกล ในโรงเรียนขนาดเล็ก โรงเรียนมัธยมขนาดเล็กและโรงเรียนขยายโอกาส ที่ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนต่ำ ทั้งหมด9,000 โรง
6.การแยกประถม-มัธยม ซึ่งให้มีผลในทางปฎิบัติไปก่อนระหว่างรอกฏหมาย และระบบการดำเนินการโยกย้ายให้แยกเป็นคณะกรรมการกลั่นกรองสองชุด คือระดับประถมมีผ้อำนวยการเขตพื้นที่เป็นประธาน และระดับมัธยม มีผู้แทนจาก สพฐ.เป็นประธาน
7.นโยบายส่งเสริมการศึกษาเอกชน ทั้งระดับประถมและมัธยม
8.โรงเรียนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ จะมอบหมายให้มีผู้รับผิดชอบในระดับกระทรวง 1 คน เพื่อรับผิดชอบการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้โดยเฉพาะ และให้มีอำนาจหน้าที่ในการบริหารจัดการในเขตพื้นที่ เสมือนเป็นตัวแทนทุกหน่วยงาน ทุกองค์กรหลัก และถือเป็นตัวแทนของกระทรวงศึกษาธิการรับผิดชอบในทุกเรื่อง
9. เด็กนอกสัญชาติ สนับสนุนให้เด็กนอกสัญชาติได้เข้าเรียนในระบบการศึกษาของไทย เพื่อให้ได้เรียนภาษาไทย และรักความเป็นไทย
10.การทะเลาะวิวาทของนักเรียน ให้ยึดประกาศกระทรวงศึกษาธิการ ( ที่รมว.ศธ.ลงวันที่ 3 ก.พ. 52 ) เป็นหลัก และผู้บริหารต้องร่วมรับผิดชอบ
11.เรื่องที่เกี่ยวข้องกับครู วันที่ 1 ตุลาคม 2552 จะมีผลบังคับใช้วิทยฐานะระบบใหม่ของวิทยฐานะครู ที่จะให้ความสำคัญกับการจัดการเรียนการสอนหรือผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพิ่มมากขึ้น เป็น 60 % และให้ความสำคัญกับเอกสาร 40 % และโครงการคืนครูสู่ห้องเรียน จะได้ปรับเงินเดือนตาวุฒิปริญญาตรี
12. ช.พ.ค.ต้องรักษาผลประโยชน์ขอบครูให้มากขึ้น ไม่บังคับให้ทำประกันชีวิต และลดดอกเบี้ยสำหรับครูที่เป็นลูกหนี้ชั้นดี
ปฏิรูปการศึกษารอบ 2 กำลังดำเนินการเพื่อขับเคลื่อนนโยบายต่าง ๆ และผลทั้งหมดจะเกิดขึ้นเมื่อได้นำนโยบายลงสู่การปฏิบัติ และควรจะมีหน่วยงานพิเศษที่จะเป็นผู้มาประเมินผลการปฏิบัติ และนำมาซึ่งข้อมูลที่ถูกต้องตามความเป็นจริงในการวัดและประเมินผล เพราะภาพสะท้อนของสังคมไทยกำลังแย่เด็กไทยกำลังสับสน มองเห็นสิ่งที่ดีที่ใช่ว่าจะถูกต้องและสิ่งที่ถูกต้องก็ใช่ว่าจะดี อนาคตของการศึกษาของเด็กทุกคนจึงอยู่ในกำมือของผู้ใหญ่ในทุกระดับนั้นเอง
ความเห็น (1)
คงต้องใช้นโยบายของพระราชานะครับ สังคมจึงไปรอด
สรุปงานเสวนา ๙ วิธีฟื้นฟูชาติ ตามแนวพระราชนิพนธ์เรื่อง"พระมหาชนก"ที่ผ่านมาครับ