BBCเผยทำไมวัคซีนเอดส์สำเร็จในไทย
ภาพที่ 1,2: การรณรงค์เรื่องเอดส์ในไทย [ BBC ]; โปสเตอร์รณรงค์ว่า "หนูมีเอดส์. โปรดกอด (hug = กอด) หนู. หนูไม่ได้ทำให้คุณป่วย (sick = ซึ่งป่วย ไม่สบาย ติดโรค)" [ NIH ]
...
สำนักข่าว BBC ตีพิมพ์เรื่อง 'Thailand's long battle with HIV/Aids' = "การต่อสู้ที่ยืดเยื้อยาวนานของไทยกับ HIV/เอดส์" ผู้เขียนขอนำมาเล่าสู่กันฟังครับ [ BBC ]
คุณธนัศ ยมหา (ปกติสื่อมวลชนที่ดีจะใช้ชื่อ-นามสกุลสมมติ เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ให้ข่าว) ช่างอีเล็คโทรนิคส์ อายุ 33 ปีเป็น 1 ในคนไทยกว่า 16,000 คนในเขตชลบุรี-ระยองที่อาสาสมัครเข้าร่วมการวิจัย
...
"ผมทำเพื่อคนรุ่นต่อไป (จะได้ปลอดภัยจากโรค)" ท่านให้สัมภาษณ์ (การเป็นอาสาสมัครทดลองถือเป็นความเสี่ยงในระดับหนึ่ง) การทดลองนี้เป็นความร่วมมือกันระหว่างกองทัพสหรัฐฯ กับรัฐบาลไทย
การทดลองนี้ต้องการคนที่มีเลือดเป็นลบ ไม่ติดเชื้อ (HIV-negative) อายุ 18-30 ปี และมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อปานกลาง
...
การศึกษานี้จะใช้วัคซีนที่ก่อนหน้านี้ใช้ไม่ได้ผล 2 ชนิด (ALVAC & AIDSVAX) มาผสมกัน ฉีดอาสาสมัครครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งหนึ่งฉีดยาหลอก (placebo = ยาที่มีลักษณะภายนอกเหมือนยาจริง แต่ไม่มีสารออกฤทธิ์ หรือไม่มีเนื้อยา) ในปี 2003-2006 หรือ พ.ศ. 2546-2549
อาสาสมัครได้รับคำแนะนำในการป้องกันโรคทุกราย และถ้าเกิดมีการติดเชื้อจะได้รับการดูแลรักษา
...
ทดสอบหาเชื้อ HIV ทุกๆ 6 เดือนไป 3 ปี... กลุ่มที่ได้วัคซีน 78 ใน 8,198 รายติดเชื้อ กลุ่มที่ไม่ได้วัคซีน 51 ใน 8,197 รายติดเชื้อ
นี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่วัคซีนเอดส์ได้ผลมากถึง 31.2% และถือเป็น 'breakthrough' หรือความก้าวหน้าครั้งสำคัญ
...
กล่าวกันว่า การเดินทางที่ยาวไกลนั้นก้าวแรกสำคัญที่สุด เรื่องวัคซีนก็เป็นเช่นนี้
คุณอารี กัมพลรัตน์ ชาวนาอายุ 32 ปีจากระยองบอกว่า คนในหมู่บ้านอาสาสมัครไปหลายคน "ฉันต้องการช่วยคนทั่วโลกต่อสู้กับเอดส์ และอยากให้ลูกๆ หลานๆ ไม่ติดเอดส์อีกต่อไป
...
กองทัพสหรัฐฯ ก็มีบทบาทมากในการวิเคราะห์ แยกแยะชนิดของไวรัสมาใช้พัฒนาวัคซีนตั้งแต่ช่วง early 1990s = 1990-1995 = พ.ศ. 2533-2538
ตอนนั้นมีการคาดการณ์กันว่า คนไทยจะติดเชื้อไวรัส HIV ซึ่งทำให้เกิดโรคเอดส์มากจนถึง 4 ล้านคนจากประชากร 65 ล้านคนในปี 2000 หรือ พ.ศ. 2543
...
ภาพที่ 3: HIV ทั่วโลกไม่ได้มีสายพันธุ์เดียว แต่แบ่งเป็นกลุ่มๆ ตามภูมิภาค "ถิ่นใครถิ่นมัน" ถ้าจะทำเพื่อการค้าคงจะมีการเลือกสายพันธุ์มหาอำนาจที่มีคนติดเชื้อมาก หรือชาติที่มีกำลังซื้อสูง (รวย) ไว้ก่อน > [บล็อกระบาดวิทยา]
...
ภาพที่ 4: สายพันธุ์ HIV ที่พบในไทย ('E') มีส่วนแบ่งการตลาดจากเชื้อทั่วโลกเพียง 5%, ถ้าเราไม่รีบพัฒนาศักยภาพในการทำวัคซีนในประเทศ หรือหาคนยอมเสี่ยงให้ทดลองวัคซีนไม่ได้...
บริษัทยาคงจะทุ่มเทเพื่อผลิตวัคซีนสายพันธุ์ที่พบมาก (C-อาฟริกาใต้ อาฟริกาตะวันออก อินเดีย, A-อาฟริกาเหนือ ตะวันออกกลาง เอเชียกลาง ญี่ปุ่น รัสเซียครึ่งตะวันออก, B-อเมริกาเหนือ อเมริกากลาง ยุโรปตะวันตก ออสเตรเลีย) หรือสายพันธุ์ที่ประเทศตะวันตก (ฝรั่ง) เป็นมาก (B) ก่อน > [บล็อกระบาดวิทยา]
...
เมืองไทยพัฒนาการท่องเที่ยวกับ 'SSSnS' หรือ 'smile, sea, sand, sun & sex' = "รอยยิ้ม ทะเล ทราย (หมายถึงชายทะเล), แสงแดด (หมายถึงภูมิอากาศแบบเขตร้อน ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของฝรั่งหนีหนาว), และเซ็กส์" ทำให้เป็นแม่เหล็กดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งนำเอดส์เข้ามาด้วย
รัฐบาลไทยและหน่วยงานภาคเอกชนร่วมกันรณรงค์ให้ความรู้เรื่องเอดส์ โดยเฉพาะ "มิสเตอร์คอนดอม (Mr Condom)" ซึ่งปัจจุบันเป็นท่านวุฒิสมาชิกมีชัย วีระไวทยะที่เป็นหัวหอก (spearhead; spear = หอก; head = หัว) รณรงค์เรื่อง "เซ็กส์ปลอดภัย (safe sex)"
...
เรื่องที่น่าทึ่งคือ มีการรณรงค์แบบทุกแนวรบพร้อมกันทั้งวิทยุ, TV, โรงเรียน, โรงพยาบาล, สถานีตำรวจ และชุมชน
ผลคือ การติดเชื้อใหม่ลดลงอย่างมากมายจนธนาคารโลกยอมรับว่า เป็นตัวอย่างความสำเร็จที่มีเพียง 2-3 แห่งในโลก
...
ปี 2546 อัตราคนติดเชื้อรายใหม่ลดลงจาก 143,000 รายในปี 2534 เป็น 19,000 รายในปี 2546
ปี 2548 ประเทศไทยประกาศจะผลิตยาต้านไวรัสเอง เพื่อให้คนที่ติดเชื้อ 500,000 รายได้รับยาทุกคน
...
ตอนที่ระบอบคอมมิวนิสม์กำลังอยู่ในขาขึ้น... ประเทศต่างๆ ล้มไปทีละชาติๆ ตอนนั้นผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกเชื่อในทฤษฎี "โดมิโน (domino)" และพยากรณ์ว่า ไทยคงจะไปไม่รอด แต่ประเทศที่มีรูปคล้ายขวานทองก็ยังมีลมหายใจ รอดมาจนทุกวันนี้
การที่คนไทยเสียสละ เสี่ยงชีวิต ยอมเป็นหนูทดลองให้วัคซีนเอดส์ได้ เป็นเพราะคนไทยมีจิตใจใหญ่ ไม่ใช่ชาติที่เห็นแก่ตัว
...
เรื่องนี้บอกเราว่า คนไทยไม่ได้ล้มเหลวไปเสียหมดทุกเรื่อง... อะไรๆ ที่ดีนั้นคนไทยทำได้ ถ้าจะทำและยืนหยัดจะทำ
ถึงตรงนี้... ขอให้พวกเรามีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ > [ ระบาดวิทยาสายพันธุ์เอดส์ ]
หมายเหตุ > อาจารย์หมอเฉวตสรร ผู้เชี่ยวชาญระบาดวิทยา ได้ให้ข้อคิดเห็นที่ทรงคุณค่าไว้ที่บล็อก 'OKnation' เรียนเสนอให้พวกเราแวะไปอ่านความคิดเห็นที่ 4 กันครับ > [ Click ]
ภาษาอังกฤษสบายๆ สไตล์เรา
ต้นฉบับเรื่องนี้คือ 'Thailand's long battle with HIV/Aids' = "การต่อสู้กับ HIV/เอดส์ ที่ยืดเยื้อยาวนานของ (ประเทศ) ไทย"
คลิกลิ้งค์ > คลิกลำโพง-ธงชาติ > ฟัง-ออกเสียงตามเจ้าของภาษา 3 รอบ ย้ำเสียงที่พยางค์แต้มสี เพื่อให้จำศัพท์ได้ถูกต้องและเร็ว
...
@@ [ battle ] > [ แบ๊ท - เถิ่ล - l ] > noun, verb = (การ) สู้รบ สนามรบ
ตัวอย่าง
## Our soldiers battled the enemy. = ทหารของเราต่อสู้กับข้าศึก (enemy = ข้าศึก ศัตรู).
## Our navy needs new battleships. = ทหารเรือ (navy = ทหารเรือ นาวี) ของเราต้องการเรือรบ (battle = ต่อสู้ รบ; ship = เรือ) ใหม่หลายลำ.
## Their children were not killed in battle. = เด็กหลายคน (หมายถึงลูกหลาน) ของพวกเขา (พวกเธอ) ไม่ได้ถูกฆ่าในสนามรบ.
## First step is half the battle. = ก้าวแรกเป็นครึ่งหนึ่งของการรบ ('to be half the battle' = เป็นครึ่งหนึ่งของความสำเร็จ).
ติดตามบล็อกของเราได้ทางทวิตเตอร์ > [ Twitter ]
ที่มา
-
Thank BBC > Thailand's long battle with HIV/Aids. 24 September 2009.
-
นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ รพ.ห้างฉัตร ลำปาง สงวนลิขสิทธิ์. ยินดีให้นำไปเผยแพร่โดยอ้างอิงที่มาได้. ห้ามนำไปใช้เพื่อการค้า > 26 กันยายน 2552.
-
ข้อมูล ทั้งหมดเป็นไปเพื่อการส่งเสริมสุขภาพ ไม่ใช่วินิจฉัยหรือรักษาโรค ท่านที่มีโรคประจำตัวหรือความเสี่ยงต่อโรคสูงจำเป็นต้องปรึกษาหมอที่ดูแล ท่านก่อนนำข้อมูลไปใช้.
ความเห็น (2)
เรียน ท่านผู้อ่านครับ // อาจารย์หมอเฉวตสรร ผู้เชี่ยวชาญสาขาระบาดวิทยา ซึ่งเป็นผู้รู้จริง ได้ให้ข้อคิดเห็นทรงคุณค่าไว้ในบล็อกที่ OKnation เรียนเสนอให้พวกเราเข้าไปอ่านข้อคิดเห็นที่ทรงคุณค่าต่อสังคมไทยได้ที่นี่ครับ >> http://www.oknation.net/blog/health2you/2009/09/26/entry-1