รฟท."รถไฟไทย".. อีกแล้วครับท่าน !!
.................................................
ปกติผมเองจะโดยสารรถไฟลงใต้ปีละครั้ง ทุกปีมักจะไปในช่วงสงกรานต์
ซึ่งผู้คนเยอะมาก ๆ บ่อยครั้งที่จองตั๋วไม่ทัน ปีนี้จึงเปลี่ยนใหม่ลงไปช่วง
"สารทเดิอนสิบ" หรือ "วันส่งตายาย"จะได้ทำบุญร่วมพร้อมหน้าญาติพี่น้อง
รถ"ด่วนพิเศษ"หรือ "สปริ๊นเตอร์"คือขบวนรถไฟที่ได้รับการจับจอง 2 ที่นั่ง
ไป-กลับ "กรุงเทพ - ไชยา" และ "ไชยา - กรุงเทพ" ที่ต้องบอกสถานี
ต้นทาง-ปลายทาง เพราะเกี่ยวโยงกับเรื่องที่เล่าต่อไป ครับ
ความจริงแล้วการเดินทางโดยรถไฟไกล ๆ ไป"รถนอน"สบายกว่า ค่าโดยสาร
ก็แพงกว่ากันไม่มากนักแต่ภรรยาผมบอกว่าไม่ชอบ อ้างว่านอนไม่หลับ ชอบนั่ง
รถสปริ๊นเตอร์มากกว่า หรือว่าได้นั่งคู่จู๋จี๋กันก็ไม่รู้..อิอิ
ถ้าผมเดินทางคนเดียวจะเลือกไปรถนอนมากกว่า แต่ช่วงหลัง ๆ มักทำไม่ได้
ดังใจด้วยติดที่แม่เสือ เอ๊ย ! แม่บ้าน เธออ้างมาอย่างว่านั่นแหละ...แหะ ๆ
ภรรยาผมตาลีตาเหลือกไปจองตั๋วล่วงหน้า 1 เดือน คงเข็ดที่ช่วงสงกรานต์
จับจองไม่ได้
เที่ยวล่องใต้หนนี้ รถไฟออกจากสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) เวลา 22.52 น.
ตามธรรมดารถสปริ๊นเตอร์มีบริการแจกอาหารในช่วงหัวค่ำ จะมีเครื่องดื่มและขนม
ให้อีกครั้งอีกช่วงหนึ่ง ...เที่ยวนี้มาแปลกแจกน้ำแข็งเปล่าและขนมคนละชิ้น
ผมและภรรยาขอเป็นน้ำส้ม..ได้รับคำตอบจากพนักงานสาวร่างอวบว่า..
"มีแต่น้ำเปล่าค่ะ" เสียงบ่นงึมงำข้างหูผมว่า "อะไรวะ มีงี้ด้วย"
ตอนเช้าจะมีบริการกาแฟ เครื่องดื่มและขนมอีกครั้งหนึ่ง ใครต้องการดื่มกาแฟ
ก็จะมีช้อนพลาสติกคนกาแฟ ตักขนม เที่ยวนี้มาแปลกอีก ไม่มีช้อนมีแต่
ไม้พลาสติกลักษณะแบนยาวประมาณ 2 นิ้วแถม 1 อัน ใครไม่สั่งกาแฟไม่แจก
ให้ด้วย ผมกับภรรยาขอเป็นน้ำส้ม..เลยไม่ได้รับไม้ประหลาดที่ว่า จึงทานขนม
ลำบากหน่อย...ฮี่ฮี่
เที่ยวกลับกรุงเทพ เวลารถออกจาก"ไชยา" 20.52 น.แต่รถเสียเวลาไปประมาณ
ครึ่งชั่วโมง( ไม่เคยตรงเวลาสักครั้งเดียว ) ตามตั๋วที่จองไว้ รถขบวนที่ 42
คันที่ 3 ที่นั่ง 31 - 32
ปกติพนักงานมักจะช่วยหิ้วสัมภาระของผู้โดยสารขึ้นรถไฟเพื่อความรวดเร็ว
..เที่ยวนี้ไม่มีแฮะ เราหอบของทุลักทุเลเดินหาที่นั่ง เสียงพนักงานหญิงแว่ว
ตามหลังมาว่า ที่นั่ง 31 - 32 ประเดี๋ยวนำอาหารมาให้ค่ะ เรารอคอยประมาณ
20 นาที อาหารเครื่องดื่มก็ไร้วี่แวว
ผมตัดสินเดินไปถามทวงสิทธิ์โดยชอบ..ฮา
ครู่หนึ่งพนักงานสาวคนเดิมเดินมาชี้แจงว่า "รถขบวน 42 นี้เป็นรถยะลา
หมดเวลาแจกอาหารแล้ว ถ้าจะมีอาหารแจกต้องขึ้นขบวน 44 รถสุราษฎร์ฯ"
..เอ้า ! ผมผิดด้วยเหรอ ?
ผมเปรยไปว่า "ผมจองตั๋วล่วงหน้า 1 เดือน ผมจะรู้ได้อย่างไรว่า
ขบวนไหนมีแจกอาหารหรือไม่มี แล้วค่าโดยสารที่ผมเสียไปรวมบริการ
อาหารไว้หรือเปล่า เป็นความผิดของใครที่เลือกขบวน 42 ให้ผม"
พนักงานคนนั้นเดินกลับไป ตามหลังด้วยเสียงบ่นของผมและภรรยา ยังดีนะ
ที่เรารับประทานอาหารมาบ้างแล้วก่อนขึ้นรถ..ไม่งั้นอารมณ์เสียกว่านี้แน่เลย...อิอิ
อีกครู่หนึ่ง พนักงานสาวเจ้าเก่า กลับมาสาธยายยืนยันคำพูดเดิมสรุปว่า
"ไม่มีอาหารแจกให้จริง ๆ" ผมก็บอก "ไม่เป็นไร แล้วผมจะสอบถาม
การรถไฟดูซิว่า มีบริการ 'ห่วย' อย่างนี้ด้วยหรือ"
แล้วไม่นานนัก เข้าใจว่าเป็นพนักงานไม่แต่งฟอร์ม เธอนุ่งยีนส์ นำน้ำส้ม
และขนมมาให้ผมและภรรยา เราสบตาเธอ เธอยิ้มเขินเล็กน้อย เราไม่ลืม
ขอบคุณตามมรรยาท
เข้าใจว่า พนักงานผู้มีหน้าที่รับผิดชอบรถขบวนนี้คงจะปรึกษาหาทางออก
เพราะอีกไม่นานพนักงานคีบตั๋ว ( การ์ดรถ )ถือข้าวกล่องมา 2 กล่อง
ถามว่า "ยังไม่ได้ทานอาหารเหรอพอดีอาหารหมด ถ้าจะทานผมจะไป
อุ่นเวปให้ครับ" เราจะปฏิเสธก็ใช่ที่...ดีเหมือนกัน...แหะ ๆ
คงจะโทร.ไปสั่งที่ร้านค้าสถานีข้างหน้าไว้ และแล้วเราก็ได้รับประทาน
ข้าวกล่อง "ผัดกะเพราไก่ประวัติศาสตร์" จำได้ว่าอร่อยกว่าอาหารของ
การรถไฟมากมายหลายเท่านัก..ฮา
เราเดินทางกลับถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ...ข้องใจอีกนิดเดียว
พนักงานสาวคนนั้น...นอกจากไม่ช่วยบริการหิ้วของตอนขาขึ้นที่ไชยาแล้ว
ขาลงที่หัวลำโพง เธอก็ยืนเมินเฉยอย่างไร้น้ำใจบริเวณทางลง ดูผมและ
ภรรยาหิ้วของลงจากรถไฟด้วยสายตาบอกบุญไม่รับ...ให้ได้อย่างนี้สิน่า
บทเรียนจากการนั่งรถไฟหนนี้ เห็นทีต่อไปเวลาจองตั๋วรถด่วนพิเศษล่วงหน้า
นอกจากขอเลือกที่นั่งตรงไหนแล้ว คงจะต้องย้ำบอกเลือกเอาขบวนที่
มีบริการอาหารและเครื่องดื่มด้วย..ใช่ไหมครับ.. "การรถไฟแห่งประเทศไทย"
..............................................................................................................
ชอบขึ้นรถไฟเหมือนกันค่ะ ดูวิวสองข้างทาง รถไฟไทยก็มีดีเหมือนกันนะคะ...
ตอนนี้ การรถไฟฯแจกบัตรทดลองนั่งรถไฟฟ้า Airport Link คนไปเข้าคิวรอรับกันตรึม"รถไฟฟ้าสายด่วนท่าอากาศยาน (Express Line)" Airport Linkมีให้เลือก 2แบบคือ City Line และ Express Line
City Line จะ มีต้นทางอยู่ที่สถานีพญาไท ไปสิ้นสุดที่สถานีสุวรรณภูมิ โดยมีสถานีระหว่างทางอยู่ 6 สถานี คือ สถานี ราชปรารภ, มักกะสัน, รามคำแหง, หัวหมาก, ทับช้าง และลาดกระบัง คาดด้วยสีน้ำเงิน
อีกเส้นทางหนึ่งคือ รถไฟฟ้าสายด่วนท่าอากาศยาน หรือ Express Line จะมีต้นทางอยู่ที่สถานีมักกะสัน ไปสิ้นสุดที่สถานีสุวรรณภูมิเช่นกัน แต่เส้นทางนี้จะไม่จอดสถานีระหว่างทางเลย ระยะทางรวม 25.7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาทีเท่านั้น คาดด้วยสีแดง