ระวังแก๊งค์ดมยาพาขึ้นรถ

"บางกอกทูเดย์" 22 กันยายน 52 ตีพิมพ์เรื่อง "โปรดระวัง แก๊งค์รมยา... ฉุดขึ้นรถตู้" ผู้เขียนขอนำมาเล่าสู่กันฟัง ถ้าท่านได้รับประโยชน์จากบทความนี้ ขอความกรุณาแวะไปเยี่ยมเยียนเว็บไซต์ "บางกอกทูเดย์" กันครับ

...

แก๊งค์โป๊ะยาสลบแล้วฉุดขึ้นรถตู้กำลังระบาดอีกครั้งแล้ว... มาคราวนี้ขยับออกไปเกือบจะนอกเมืองแล้ว อย่างแถวๆ อ่อนนุช บางนา ซีคอนสแควร์คนที่อาศัยอยู่ตรงบริเวณนี้คงต้องระมัดระวังตัวให้มากๆ

โดยเฉพาะสุภาพสตรีที่ต้องเดินทางคนเดียว อย่าไว้ใจคนแปลกหน้าในยามวิกาลไม่อย่างนั้น คุณอาจจะเป็นเหยื่อพวกมิจฉาชีพ รมยาฉุดขึ้นรถตู้ได้

...

อย่างที่เกริ่นไว้ตั้งแต่ต้นว่า เหตุการณ์ที่จะนำมาเตือนภัยในครั้งนี้ เกิดขึ้นในพื้นที่อ่อนนุช บางนา และผู้ที่ประสบเหตุนี้ก็เป็นผู้หญิง เธอกำลังจะไปพบเพื่อนเพื่อคุยธุระกันที่แถวๆอ่อนนุชในเวลาประมาณ 2 ทุ่ม

เธอคนนี้ได้ขึ้นรถไฟฟ้าไปลงที่สถานีอ่อนนุช และเดินลงจากรถไฟฟ้าตรงทางลงฝั่งห้างดัง เพื่อมุ่งหน้าไปทางปั๊มน้ำมันระหว่างที่เดินอยู่ริมถนนสุขุมวิทฝั่งขาออก ก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาสอบถามทางกับเธอ

... 

เขาสอบถามแบบวกวนไปวกวนมา ขณะที่คุยกับชายคนนั้นโดยที่ไม่ได้ถูกเนื้อต้องตัว เธอกลับรู้สึกว่าตัวชา ประสาทตอบสนองช้าลง อึดอัดขยับตัวไม่ค่อยสะดวก

เมื่อรู้สึกผิดสังเกต เธอจึงพยายามล้วงกระเป๋าสะพายหาอุปกรณ์ป้องกันตัว และพยายามป่ายมือไปมา เพื่อป้องกันตัว

... 

ขณะที่เดียวกันชายคนดังกล่าว เมื่อเห็นอาการของเธอเริ่มผิดปกติ ก็พยายามยื้อยึดเธออยู่สักพัก และเรียกผู้ชายเข้ามาเพิ่มอีก 2 คน กับรถตู้อีกหนึ่งคันเข้ามาจอดเทียบ พร้อมทั้งฉุด และอุ้มเธอขึ้นรถ

เธอก็พยายามต่อสู้เท่าที่จะต่อสู้ได้ แต่โชคดียังเป็นของเธอ ที่มีผู้ชายท่านหนึ่งเห็นความผิดปกติ  จึงเข้ามาช่วยเธอไว้ ชายคนนั้นพยายามชกต่อยต่อสู้กับคนร้ายทั้งสามอยู่นาน

... 

คนร้ายเห็นท่าไม่ดีจึงพากันขึ้นรถตู้หนีไป พลเมืองดีท่านนั้นก็บาดเจ็บเล็กน้อย แต่เธอนั้นฟอกช้ำดำเขียวหลายจุด และต้องนั่งพักอยู่ครู่ใหญ่ จึงจะหายจากอาการนั้น แล้วโทรไปให้พ่อแม่มารับ

เนื่องจากเธอต้องเดินทางไปต่างจังหวัดในคืนนั้น จึงไม่ได้ไปแจ้งความแต่อย่างใดสิ่งที่น่าเป็นห่วงในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและสิ่งที่ควรระวังคือ

...

1. เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นไม่ได้เกิดในช่วงเวลาดึกมาก และเกิดในใจกลางเมืองคนพลุกพล่าน

2. คนร้ายนั้นมีสารเคมีบางอย่างที่ทำเหยื่อเกิดอาการตัวชา ขยับตัวไม่ได้แม้ไม่ได้สัมผัสร่างกาย และยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นสารเคมีชนิดใด

3. คนร้ายน่าจะมิได้ประสงค์ต่อทรัพย์ แต่การนำตัวขึ้นรถไปนี้น่าจะไปเชื่อมโยงกับเรื่องแก๊งค์ค้ามนุษย์หรือเปล่า

4. คนร้ายมักใช้ความมีน้ำใจของเหยื่อเป็นเครื่องมือ เข้ามาสอบถามเหมือนคนหลงทาง จึงอยากจะให้เหตุการณ์นี้เป็นเสมือนเครื่องเตือนภัยสำหรับคุณผู้หญิงทั้งหลายว่า ให้ระมัดระวังตัวเองด้วย เพราะจะมีสักกี่คนที่โชคดีดังเช่นเธอคนนี้

... 

สิ่งที่น่าจะทำได้คือ หากมีบุคคลที่ดูแล้วไม่น่าไว้ใจในยามวิกาลมาขอความช่วยเหลือ ก็ควรจะที่เตรียมตัวเพื่อป้องกันตัวเองไว้ก่อน หรือไม่อย่างนั้นก็ควรที่จะบอกเขาให้ไปสอบถามกับทางตำรวจเอง เพื่อป้องกันคนประสงค์ร้ายกับเราได้ด้วย [ บางกอกทูเดย์ ]