ยารักษาภายในจิตใจ สำหรับผู้เจ็บป่วย

ธรรมะโอสถ

ยารักษาภายในจิตใจ สำหรับผู้เจ็บป่วย

บทธรรมะสำหรับพิจารณาธาตุขันธ์ มีเพียงรูป และนาม
ทุกสิ่งทุกอย่าง ต่างก็เปลี่ยนแปลงหมุนเวียนแปรเปลี่ยนไป

มองธรรม

หัวข้อธรรมะต่างๆที่พระพุทธเจ้าได้ทรงกล่าวไว้ในพระไตรปิฎกนั้น ประดุจดั่งยาทิพย์ที่รักษาได้ทุกโรค มีคำกล่าวว่า “ร่างกายแข็งแรงจากภายใน สู่ภายนอก” ภายในนั้นคือจิตใจที่ดีมีพลังจะส่งผลทำให้ภายนอกนั้นคือร่างกายแข็งแรงมีสุขภาพดี แต่ถ้าหากเราเกิดอาการเจ็บป่วยขึ้นทางกาย จิตใจจะไร้พลังส่งผลให้ร่างกายทรุดโทรมลง มีตัวอย่างให้เห็นมากมาย เช่นมีชายคนหนึ่งใช้ชีวิตเป็นปกติสุขดี วันหนึ่งเค้าไปตรวจสุขภาพ นายแพทย์แจ้งผลการตรวจว่าเค้าเป็นโรคร้ายจะอยู่ได้อีกแค่สามเดือน พอรู้แค่นั้นแหละชายคนนี้ เกิดอาการ กินไม่ได้ นอนไม่หลับ คิดมากฟุ้งซ่านกับเรื่องอาการเจ็บป่วยของตนเองทำให้จิตใจห่อเหี่ยว ร่างกายทรุดโทรม ผลคือทำให้อยู่ได้แค่สองเดือนก็ตายลง(อยู่ไม่ถึงสามเดือน) ในทางกลับกันเมื่อชายคนนี้เมื่อรู้ว่าเค้าเป็นโรคร้ายจะอยู่ได้อีกแค่สามเดือนแต่แทนที่เค้าจะเศร้านั่งกลุ้มใจ เค้ากลับปลงตกคิดได้ว่าชีวิตนี้ไม่เที่ยง ศึกษาธรรมะปฏิบัติกรรมฐาน ทำสมาธิ ทำให้จิตมีพลัง ร่างกายของเค้าก็จะสามารถอยู่ได้อีกหลายสิบปีเลยทีเดียว
จะเห็นได้ว่ากำลังจิตนี้มีความสัมพันธ์กับร่างกายเรามาก เราสามารถรักษาจิตใจได้ด้วยธรรมะของพระพุทธเจ้า ธรรมะของพระพุทธเจ้าเปรี่ยมด้วยคุณค่ามากด้วยคุณประโยชน์มหาศาล หากเราได้หยิบยกข้อธรรมะนั้นมาคิดพิจารณาให้ดี ด้วยความมีสติตั้งมั่นปราศจากอารมณ์จิตใจที่ฟุ้งซ่านเฉกเช่นเวลาอันเป็นปกติสุขแล้วละก็ แม้นว่าเราจะเจ็บป่วยกายอยู่ แต่ใจเราหาได้ป่วยตามกายแต่อย่างใด ใจเราจะเย็นสบาย นับเป็นประโยชน์แก่เราในเวลาเช่นนี้อย่างยิ่ง

พระพุทธเจ้า กล่าวไว้ว่า “ทุกสิ่งล้วนเป็นไปตามกฎของไตรลักษณ์”
ทุกสิ่ง เกิดขึ้น – ตั้งอยู่ – ดับไป
เป็นเรื่องของธรรมชาติล้วนๆ เรามาลองคิดพิจารณาตาม เมื่อแรกเกิดมาเราก็ไม่ได้คงสภาพอยู่แบบเดิม ไม่ได้เป็นทารกตัวเล็กอยู่แบบนั้นตลอด เรามีการเปลี่ยนแปลงมีเติบโตขึ้น มีพัฒนาการ เริ่มจากการคลาน การตั้งไข่ เริ่มหัดเดิน และสามารถวิ่งได้ จากวัยเด็กก้าวสู่วัยรุ่นเป็นหนุ่มเป็นสาว จากวัยรุ่นก้าวเข้าสู่วัยกลางคน จวบจนกระทั้งเราได้ก้าวเข้าสู่วัยชราเป็นคนแก่หัวหงอกขาว กระทั่งตายไป วันเวลาหมุนเวียนไป เราก็มิได้หยุดนิ่งตามวันเวลา ทุกสิ่งแปรเปลี่ยนไปทุกขณะจิต
ลมพัด ใบไม้ไหว สายน้ำไหล ภูเขาใหญ่ สิ่งเหล่านี้หากเราพิจารณาให้ดี ล้วนเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป เป็นไปตามกฎของไตรลักษณ์ทั้งสิ้น ทุกสิ่งทุกอย่างก็เป็นเช่นนั้นเอง

ความเจ็บป่วยก็เป็นเช่นนั้นเอง
ให้พิจารณา ธาตุขันธ์ร่างกายเรามันก็ตั้งของมันอยู่แบบนั้น มันมีความเปลี่ยนแปลงของมันอยู่ตลอดเวลา การที่เรายังอยู่ดีกินได้สบายกายนั้นก็เป็นเช่นนั้นเอง การที่เราต้องเจ็บไข้มันก็เป็นเช่นนั้นเอง ถ้าหายมันก็คือความเป็นเช่นนั้นเอง มีเหตุปัจจัยที่ถูกต้อง ถ้าไม่หายมันก็คือความเป็นเช่นนั้นเอง เพราะมันมีเหตุปัจจัยที่ไม่ถูกต้อง ถ้าแม้ว่าเราจะต้องตายมันก็คือความเป็นเช่นนั้นเอง
ดังนี้ ทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นเรื่องของความเป็นเช่นนั้นเอง เป็นความไม่เที่ยง เป็นเช่นนั้นเองของสังขารทั้งหลายทั้งปวง