สนทนา: บทความ ฟักกลิ้งฮีโร่กับคืนที่สังคมไทยนอนไม่หลับ ของ อติภพ ภัทรเดชไพศาล


ผมคิดว่าเพลงราตรีสวัสดิ์ได้ดึงให้ประเด็นภาคใต้กลับเข้ามาอย่ในความสนใจของคนในสังคมอีกครั้งหนึ่ง ทั้งในแบบที่เคลิ้มไปกับเพลง และแบบที่วิพากษ์วิจารณ์ สำหรับผมแล้ว ผมชื่นชมใน “ความตั้งใจดี” ของผู้แต่ง แม้ว่าจะไร้เดียงสา ขาดข้อมูล หรืออะไรก็แล้วแต่ตามที่ผู้คนจะว่ากันไป แต่ผมคิดว่า คนที่ “ตั้งใจดี” ควรจะได้รับการส่งเสริม การส่งเสริมนี้มีหลายรูปแบบรวมถึงการวิพากษ์ด้วย

คุณอติภพ ภัทรเดชไพศาล เขียนบทความชื่อ ฟักกลิ้งฮีโร่กับคืนที่สังคมไทยนอนไม่หลับใลงในหนังสือพิมพ์สยามรัฐออนไลน์ (อ่านได้ที่ลิงค์นี้  http://www.siamrath.co.th/UIFont/ArticleDetail.aspx?acid=3956บทความนี้คอมเมนต์เพลง ราตรีสวัสดิ์ ของ คุณฟักกลิ้ง ฮีโร่ ซึ่งเมื่อผมอ่านแล้ว ผมีความคิดเห็นต่อบทความดังกล่าวในฐานะคนแต่งเพลง และคนที่พอจะอ่านเขียนได้ดังนี้

 

ผมรู้สึกได้ชัดว่า คุณอติภพคอมเมนต์ลึกลงไปในรายละเอียดของเนื้อหามาก และแตะเล็กน้อยเกี่ยวกับสไตล์เพลง อย่างเช่นประเด็นประโยชคที่บอกว่าเพราะรู้ว่าเลือดเนื้อเค้าจะสละไม่ให้เราเป็นทาสใครที่ผู้เขียนบอกว่ามาเกี่ยวอะไรกับปัญหาชายแดนใต้ มันเป็นประเด็นเรื่องชาติินิยมสมัยจอมพล . ต่างหาก และบอกว่ามันผิดที่ผิดทาง โยงท่อนฮุคที่ร้องโดยคุณ ธีร์ ไชยเดช กับเรื่องโรแมนติกชาตนิยม ...​ วิพากษ์ว่า เนื้อหาของเพลงสะเปะสะปะ เช่นใส่เรื่องเดือนตุลาแทรกเข้ามา ... วิพากษ์ประเด็นที่เรียกขบวนการที่ภาคใต้ว่า...” ทั้งที่แท้จริงเขาเรียนตัวเองว่า B.R.N. และทิ้งท้ายเอาไว้ในตอนท้ายว่า ความเป็นชาตินิยมนั้นแก้ปัญหาภาคใต้ไม่ได้  และมองว่าการยกย่องสดุดีทหารในเวลาและสถานการณ์แบบนี้ก็ดูเหมือนจะผิดกาละเทศะ

 

ผมเห็นด้วยในหลายประเด็นโดยเฉพาะที่บอกว่า  ชาตินิยมแก้ปัญหาภาคใต้ไม่ได้ และเรื่องนี้มีความซับซ้อนและละเอียดอ่อนของปัญหาต่างๆที่เชื่อมโยงการ มากกว่าความเป็นอิสลามและสำนึกเรื่องชาติพันธ์ุเสียอีก และก็เห็นด้วยกับอ.นิธิที่ผู้เขียนอ้างในตอนท้ายว่า ตำรวจ-ทหารไม่ใช่ทางออกของการปราบปรามการก่อการร้าย

 

อย่างไรก็ดี ผมเห็นว่า คุณอติภพ ถึงเปิดหูแต่ไม่ได้เปิดใจฟังเพลงนี้เสียเท่าไหร่ และไม่ได้เข้าใจจุดมุ่งหมายของเพลง เนื้อเพลงและวิธีการแต่งเพลง จึงได้วิจารณ์ในเรื่องเนื้อเพลงไปอย่างนั้น  นอกจากนี้ผมคิดว่า ข้อเขียนมีความสับสนในความเข้าใจศักยภาพในสื่อประเภทต่างๆ ในการสื่อสารความจริงอยู่มาก  

 

ประการแรก หากได้ฟังการสัมภาษณ์ หรือแม้กระทั่งฟังเนื้อเพลงดีๆก็ตาม เพลงนี้ไม่ได้มีจุดมุ่งหมายที่จะแก้ปัญหาชายแดนใต้แต่มีจุดมุ่งหมายเพื่อที่จะกระตุ้นเตือนไม่ให้คนไทยนั้นลืมว่า สถานการณ์ในภาคใต้ก็ยังไม่ได้หยุดหายไป และไม่ลืมว่ายังมีทหารตัวเล็กๆที่ถูกมอบหมายหน้าที่ให้ไปประจำการ ซึ่งเป็นเพียงเหมือนหมากตัวหนึ่งในยุทธศาสตร์การแก้ปัญหา (ไม่ว่าจะถูกหรือผิดทาง) เท่านั้น   

 

ถ้าฟังให้ชัดจะเห็นว่า เนื้อเพลงโดยหลักแล้วไม่ได้สนับสนุนการดำเนินการทางทหารในภาคใต้แต่ต้องการจะสื่อสารเสี้ยวหนึ่งของความจริงในจิตใจของทหารที่ถูกส่งไปประจำการในพื้นที่ภาคใต้ มาถึงคนในวงกว้างเท่านั้น  คือ ถ้าจะบอกว่า มันเป็นเพียงแนวคิดแบบโรแมนติคที่ต้องการจะปลุกความเป็นชาตินิยมเท่านั้นก็คงจะดูถูกน้ำใจทหารไทยไปหน่อย ซึ่งแน่นอนทหารเหล่านั้นก็คงถูกแนวคิดโรแมนติคชาตินิยมกล่อมใจให้กล้าหาญไปเป็นทหารและลงไปปฏิบัติหน้าที่ แต่ท้ายที่สุดแล้วเค้าก็มีความตั้งใจดีที่จะเสียสละเพื่อผู้อื่น ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องที่ควรจะตำหนิแต่อย่างใด ...​ผมลองฟังอีกหลายรอบก็ยังไม่เห็นจุดไหนเลยที่เนื้อเพลงส่งเสริมปฏิบัติการทางทหารดังกล่าว

 

ประการที่สอง ในส่วนของการคอมเมนต์เนื้อเพลงนั้น ผมเห็นว่าเป็นการคอมเมนต์ที่ไม่ได้ดูบริบทของเนื้อเพลงในช่วงนั้นๆ แต่เป็นการดึงขึ้นมาเพียงประโยคเดียว และจับมันเทียบกับ สิ่งที่คุณอติภพคิดว่าเป็น Theme ของเพลง เช่น  

 

-การคอมเมนต์์ช่วงประโยคเพราะรู้ว่าเลือดเนื้อเค้าจะสละไม่ให้เราเป็นทาสใคร”  ซึ่งจริงๆมันต่อมาจาก  “...เป็นหน้าที่ของกองพลทหารราบที่รักตัวเอง น้อยกว่าคนในชาติไทย ....​เพราะรู้ว่าเลือดเนื้อเค้าจะสละไม่ให้เราเป็นทาสใคร...”  ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงที่สาธยายอุดมการณ์ของทหารเหล่านั้น  โดยเนื้อเพลงไม่ได้กล่าวถึงสถานการณ์ภาคใต้ก่อนนั้นเลย ...​ฉะนั้น ผมก็คิดว่า เนื้อเพลงตรงจุดนี้มีความเหมาะสมและส่งเสริมเนื้อหาในท่อนแรกอยู่แล้ว และไม่ได้ผิดที่ผิดทางแต่อย่างใด

 

- การคอมเมนต์ ว่า เนื้อเพลงในส่วนนี้  “ในคืนที่ผมกินเหล้าอยู่นั่งเล่น ในคืนที่ป้าข้างห้องยังตั้งวงป๊อกเด้ง คืนที่เด็กมัธยมนั่งท่องตำราเอนท์จุฬา คืนที่ใครหลายคนลืมชื่อคนเดือนตุลา...” ถูกแทรกเข้ามาเฉยๆโดยไม่ได้มีบริบทเกี่ยวข้องเลย นั้น ก็เป็นเพราะว่าคุณอติภพมองเพียง “บริบท” ซึ่งในที่น่าจะเป็น สถานที่/เหตุการณ์ ที่อยู่ใน Theme ของเพลง  แต่คุณอติภพกลับลืมมองบริบทในเชิงของ “เนื้อหา” และ “จุดมุ่งหมาย” ของเนื้อเพลงส่วนนั้นไปอย่างน่าประหลาด  ผมฟังแล้วผมเข้าใจได้ว่า ท่อนนี้ทั้งท่อนหากตัดประโยค เดือนตุลา ออกไป มันจะเป็นเพียงการสาธยายเหตุการณ์ในคืนหนึ่ง ที่คนหลายๆคนทำกิจกรรมต่างๆกัน ...แต่ประโยคเดือนตุลา เมื่อใส่เข้ามาแล้ว มันก็เห็นจุดประสงค์ของผู้แต่งที่ต้องการจะย้ำ คนทั่วไปนั้นบางครั้งอาจจะสนใจเรื่องของตนเองจนลืมไปว่า มีคนที่เขาสละชีวิตของตนเพื่ออุดมการณ์ เพื่อสังคม เพื่อชาติ เหมือนคนเดือนตุลา เหมือนทหารในเนื้อเพลงนี้  ผมจึงไม่เห็นว่า ประโยคนี้จะมีความสะเปะสะปะหรือผิดบริบทแต่อย่างใด แต่มันทำหน้าที่ในการย้ำเนื้อหาหลักที่ต้องการจะสื่อให้ชัดขึ้น 

 

ประการที่สาม เพลงเป็นสื่อบันเทิง มุ่งให้ความบันเทิงหรือสร้างอารมณ์แบบใดแบบหนึ่งให้กับคนฟัง แน่นอนว่าเพลงมีพลังมากพอที่จะทำให้คนลุกขึ้นมาทำอะไรก็ตามทั้งดีหรือร้ายได้ จึงมีความจำเป็นท่ีจะต้องมีความระมัดระวังในการแต่งเนื้อเพลง ...​อย่างไรก็ดี  คุณอติภพคงเห็นว่า ควรจะต้องระวังกับ  Fact ให้มาก จึงได้ยกประเด็นเรื่อง ข.จ.ก. ซึ่งจริงๆแล้ว เป็น B.R.N. ขึ้นมา   

 

ในจุดนี้ผมเห็นค่อนข้างต่างมาก เพราะถ้าคุณอติภพมาแต่งเพลงจริงๆ จะพบว่า มันค่อนข้างยากมากที่จะหาคำแต่ละคำเพื่อให้มีสัมผัสที่ฟังได้ ยิ่งเพลงภาษาไทยยิ่งมีความลำบากมากเพราะมีข้อจำกัดเรื่องวรรณยุกต์เข้ามาเกี่ยวข้อง นอกจากนี้ เพลงหนึ่งเพลงมีความสามารถในการรวบรวมข้อมูลเทียบเท่ากับ essay สั้นๆ ที่เราเขียนส่งเวลาสอบภาษาอังกฤษเท่านั้น ไม่มากไปกว่านั้น ไม่สามารถใส่ footnote หรือวงเล็บอ้างอิงให้ถูกต้องตามหลักวิชาการได้ ฉะนั้นจริงๆแล้ว Fact ที่แม่นยำเป๊ะๆเหมือนที่คุณอติภพคาดหวังจากเพลงนี้นั้นเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้หรือทำได้ยากยิ่งยวดมากๆ  

 

สิ่งที่นักแต่งเพลงควรจะระมัดระวังในการแต่งเพลง ผมคิดว่า เป็นเรื่องของ “จุดมุ่งหมาย” ของเนื้อเพลงที่แต่งออกมามากกว่าที่ควรจะต้องระมัดระวัง เพราะเนื้อเพลงนี่เองที่หอบเอา “จุดมุ่งหมาย” ของคนแต่ง เข้าไปในใจของผู้ฟัง ถ้าจุดมุ่งหมายถูกเป็นแบบใด เนื้อเพลงก็จะสะท้อนออกไปแบบนั้น สำหรับผมเมื่อฟังเพลงราตรีสวัสดิ์ รวมถึงฟังการสัมภาษณ์ของผู้แต่งแล้ว  ผมเห็นว่า จุดมุ่งหมายกับเนื้อเพลงของเขานั้นมีความสอดคล้องกันอย่างแน่นแฟ้น ลงไปในระดับประโยคเลยทีเดียว  และจุดมุ่งหมายเพื่อให้เห็นใจและให้กำลังใจ คนที่ “ถูก” บัญชาการให้ไปประจำการในพื้นที่อันตรายนั้น ผมก็ไม่เห็นว่ามันจะมีความเสียหายตรงไหน  ซ้ำยังน่าจะกระตุ้นให้คนไทยไม่ลืมและไม่ชาชินกับปัญหาภาคใต้ รวมถึงกิจกรรมทางสังคมอื่นๆอีกด้วย

 

หากเพลงราตรีสวัสดิ์เป็นบทความที่ลงในหนังสือพิมพ์อย่างที่คุณอติภพเขียนแล้วละก็ ผมจะเห็นด้วยกับคุณอติภพอย่างยิ่งกับการตำหนิความไม่แม่นยำในเนื้อหา แต่ใช้เกณฑ์การวิเคราะห์บทความมาวิจารณ์เพลงนี่ผมเห็นว่ามัน “ผิดกาละเทศะ” ไปสักหน่อย 

 

ประเด็นสุดท้าย ผมคิดว่า การมองอะไรแบบผิวเผิน และใช้คอนเซปใหญ่ๆอย่างคำว่า “ชาตินิยม” มาจับอย่างเผินๆ โดยไม่ได้คำนึงถึง บริบท( ซึ่งในที่นี้หมายถึงจุดมุ่งหมายของคำแต่ละคำ ประโยค วรรค ที่มีหน้าที่ของตนมารวมกันเป็นเพลงเพื่อนำเสนอจุดมุ่งหมายหนึ่งๆ ) และรายละเอียดต่างๆในเพลงเลยนั้น ก็อาจทำให้การรับรู้เนื้อเพลงและจุดมุ่งหมายของเพลงพลาดไปก็ได้ ซึ่งผมก็ว่านี่เป็นการสะท้อนความ “บิดเบี้ยวทางความคิดและการรับรู้” อันเนื่องมาจากการศึกษาเช่นกัน

 

ท้ายที่สุดแล้ว ผมคิดว่าเพลงราตรีสวัสดิ์ได้ดึงให้ประเด็นภาคใต้กลับเข้ามาอย่ในความสนใจของคนในสังคมอีกครั้งหนึ่ง ทั้งในแบบที่เคลิ้มไปกับเพลง และแบบที่วิพากษ์วิจารณ์  สำหรับผมแล้ว ผมชื่นชมใน “ความตั้งใจดี” ของผู้แต่ง แม้ว่าจะไร้เดียงสา ขาดข้อมูล หรืออะไรก็แล้วแต่ตามที่ผู้คนจะว่ากันไป แต่ผมคิดว่า คนที่ “ตั้งใจดี” ควรจะได้รับการส่งเสริม การส่งเสริมนี้มีหลายรูปแบบรวมถึงการวิพากษ์ด้วย คือ การที่ตำหนิแต่ขณะเดียวกันก็มีการเสนอทางออกหรือแนวทางอื่นๆที่ดีกว่าให้ด้วย มิใช่ติแต่เพียงอย่างเดียว การติเพื่อก่อนี่เอง ที่จะทำให้คนที่ “ตั้งใจดี” ยังคงมีกำลังใจจะทำสิ่งดีๆต่อไป และพัฒนาสิ่งที่ทำให้ดียิ่งขึ้น ตรงจุดมากขึ้น และสร้างประโยชน์ให้กับคนหมู่มากยิ่งขึ้นไป 

 

หมายเลขบันทึก: 298874เขียนเมื่อ 19 กันยายน 2009 01:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:39 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

  • เห็นด้วยคร๊าบบบบ พอฟังสบายๆ แล้วกระตุ้นอารมณ์ห่วงใยผู้อื่นได้ดี
  • ไปดูหนังเรื่อง District 9 รึยังคุณชล

ยังเลยต้า ดูแต่ trailer ... ว่าแต่เห็นรูปโพรไฟล์ของต้าแล้วทำให้รู้สึกถึงตัวเอกของหนังเนอะ :P

จริงๆแล้วเพลงราตรีสวัสดิ์นี้กลายเป็นว่า เป้นที่ถกเถียงและวิพากษ์วิจารณ์ในทางลบ ในหมู่ของคนที่เรารู้จักที่ทำงานเรื่องสิทธิ์และทำงานเกี่ยวกับปัญหาภาคใต้นะเนี่ย ...​ เราก็เข้าใจประเด็นเขาที่ว่ามันเป็นประเด็นละเอียดอ่อน แต่ก็อยากให้เข้าใจข้อจำกัดและความตั้งใจของผู้แต่งเหมือนกันเนอะ :)

  • ขอบใจนะ ที่ดูรูปเราแล้วคิดถึงตัวเองของหนัง ว่าแต่ว่า ตัวเอกที่เป็นกุ้ง หรือเป็นคนดีล่ะ 
  • มิติของเพลงราตรีสวัสดิ์ ช่วยปลุกกระแสได้มากในกลุ่มผู้ฟังวัยรุ่นให้หันมาสนใจ และใส่ใจเรื่องราวรอบตัวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพราะมันถูกสร้างขึ้นด้วยความร่วมสมัย เราเห็นด้วยกับชลที่เน้นให้ฟังที่แก่น ไม่ใช่ที่เนื้อเพลงบางจุดเท่านั้น 
  • เราไปปัตตานีมาเมื่อสามสี่วันก่อน นี่ก็พึ่งกลับมา คุยกับน้องๆ เยาวชนที่ใต้ไม่เห็นจะมีใครรู้สึกไม่ดีกับเนื้อเพลง น้องๆ กลับรู้สึกชอบซะอีก ที่มีคนมาสนใจและอยากช่วยกันแก้ปัญหา 
  • เมื่อเราติดกรอบบางอย่าง กรอบนั้นบางทีมันจะทำให้มุมมองของเราแคบลง 
  • ก็แค่เปิดใจ แล 
ปล. ช่วงนี้น้องๆ ใต้มีโครงการดีๆ เยอะเชียวเดี๋ยวจะทยอยเล่า ตอนนี้ติดเกมส์ FB งอมแงม

แวะมาอ่านครับ

เข้าใจเนื้อหาได้ไม่ทั้งหมด แต่ก็สนใจและชื่นชมหลายบทหลายตอนครับ

ผมไม่รู้นะครับว่า คุณคือใคร แต่ข้อความที่คุณเขียนมาทั้งหมด มันคือสิ่งที่ผมคิด คุณพูดออกมาได้....สุดยอดมากครับ

ขอตบมือให้กับข้อความที่คุณเขียนมานี้เลยครับ คำเดียว สุดยอด

คุณนี้แหละ นักวิจารณ์ตัวจริงเสียงจริง วิจารณ์อย่างมีเหตุและผล ทั้งยังร่วมสมัย ตามโลกตามความคิด ไม่เหมือนกับ... ตบมือให้ครับ

ขอบคุณนะครับ ทุกๆคน

จริงๆตอนนี้ผมเจอตัวคุณอติภพแล้วครับ กำลังส่งบทความให้แกอ่านอยู่ เผื่อว่าแกจะมีความเห็นแลกเปลี่ยนกัน

ถ้าเกิดได้ยังไงแล้วจะนำมาแลกเปลี่ยเนพิ่มเติมครับ

รออ่านอยู่นะค่ะ อยากทราบความคิดเห็น แลกเปลี่ยน หรือไม่ เช่นกัน ขอบคุณค่ะ

สาวหนองหอย แกงหอย ล๊ำลำ

แหม่ม หล่อนไปช่วยผัวกู้ระเบิดอีกเหรอ ย่ะ แล้วฉันจะกลับมาก่อนสอบภาษาประกิต หล่อนกล่าวก่อนอำลาฉัน เพื่อนสาวไปตามหาหัวใจที่ ยะลา หล่อนบอกว่าอยู่ในค่ายปลอดภัยดี ใช่สิหล่อนเปิดฟัก ฟัง แก้ง่วง ฟักไม่ผิด มันเหมือนผลไม้ที่ทุกคนเรียกว่าผัก แกง อร่อย ตราบจวบจนไปถึง แกงที่จืด เรียกว่าแกงจืด แต่ถ้าขืนตอบฝรั่งเมื่อไหร่ว่าฉันชอบกินฟัก คงได้ฮาขำกลิ้ง

ขอขอบคุณ ในอาหารรสเลิศ ไม่มีใครถูกผิด แต่สิ่งที่ทำขึ้นมามันจะส่งผลให้คนเวลาไหน แน่นอน ใครก็ไม่ชอบกินฟักบูด บางคนเอาไปแกงอร่อย แต่บางคนไซร์ ยิ่งแกง ยิ่งฟัก Oh God. ดิฉันคนหนึ่งที่ชอบกินฟัก อร่อยมาก

เพลง ดนตรี ไม่มีความผิด มันเพียงแค่เป็นเสียงสะท้อนจากสังคมเท่านั้น ไม่มีใครจะทำอะไรไปถูกหมด สำหรับคนที่ขี้สงสัย คงไปเปิดว่าเพลงนี้มีอะไร แล้วคงไม่มานั่งหามิดะบนดอยปุย ใครหละจะมาแยกสุนทรีย ออกจากตรรกะ ยาก และยังมาอีมิดะไม่เจอ(มิดะฝากตอบว่า สุนทรี อยู่ติดกับเวชานนท์ กรรม!)

อีคงไปขายฟัก แหม่มกล่าว หล่อนไม่กลัวระเบิด พร้อมยอมพลีชีวีกาย เปHนแม่บ้านทหารบกกู้ระเบิด ใช่ หล่อนรักผัว(อธิบายไม่ได้) เรื่องบนเตียงใครเขาะเอามาเล่า ฉาวโฉ่

แวะเข้ามา ทักทายคะ ต้องไปแกงหอยต่อแล้ว

ขอบคุณค่ะอาจารย์

หนูเชื่อว่ามีคนอีกหลายคน(ซึ่งรวมถึงหนูด้วย) ที่เข้าใจถึงจุดมุ่งหมายของเพลงๆนี้ และชื่นชมผู้แต่งกับการลุกออกมากระจายจุดมุ่งหมายที่ดีๆนี้ให้กับสังคม (และชอบตัวเพลงมากด้วยค่ะ)

แม้ว่าวันนี้ เพลงราตรีสวัสดิ์จะออกมานานแล้ว.. แต่ความรู้สึกร่วมในเนื้อหาของเพลงก็ยังคงเกิดขึ้นกับหนูทุกครั้งที่ไ้ด้ฟัง ไม่ว่าจะเคยฟังไปแล้วกี่รอบก็ตาม

ขอบคุณอาจารย์ที่เป็นตัวแทนพวกเรา ทำให้ความคิดพวกนี้เป็นที่ได้ยินค่ะ

หนูเชื่อว่าสิ่งนี้คือการให้กำลังใจคนที่ทำสิ่งดีๆ ..ที่มาจากเจตนาที่ดีให้ยังคงเกิดขึ้นต่อไปค่ะ

..เราควรช่วยกันทำให้"ระบบการให้รางวัล"ในสังคมเรามันถูกที่ถูกทางมากกว่าที่เป็นอยู่ใช่มั๊ยคะอาจารย์ ?..

ด้วยความเคารพรัก

คุณอติภพ ภัทรเดชไพศาล เสนอทรรศนะที่ค่อนข้างวิพากษ์วิจารณ์แนวคิดแบบชาตินิยมที่ครอบงำดนตรี ซึ่งน่าสนใจอยู่มาก สำหรับของอาจารย์ชล บุนนาค เป็นมุมมองที่เน้นบริบทโดยรวมของเพลง

อ่านของทั้ง 2 ท่าน เป็นการเปิดมุมมองให้กว้างขวางและเข้าใจความต่างมากขึ้นครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท