หว่านพืชไม่หวังผล
หว่านอะไร ใจก็หวัง ได้อย่างนั้น
กำไรพลัน คืนทุน ทันตาเห็น
เสียทั้งแรง และเวลา แลลำเค็ญ
ขอให้เป็น ประโยชน์ กับตัวตน
จงหัดหว่าน โดยไม่หวัง ดูบ้างซิ
ทำความดี ทำกุศล ดูสักหน
ไม่ต้องหวัง ได้กำไร คืนสู่ตน
นี่ละคือ บุคคล อัตตาจาง
ความเห็น (10)
แวะเข้ามาทักทาย ขอบคุณที่เข้าไม่เยี่ยมชมบล็อกนะคะ
หว่านพืชก็หวังผลเล็กน้อยถึงปานกลาง ไม่เบียดเบียนใครก็พอ ^_^
สวัสดีค่ะ
คนไม่มีรากจำได้ว่า ครูประยงค์ รณรงค์ แมกไซไซ ปี 2547 บอกว่า...
ทำดีน่ะดีอยู่แล้ว แต่จะได้ดีหรือเปล่า...เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ไม่ทราบจะเกี่ยวกันไหม...ที่แน่ ๆ หากอยากทำอะไรดี ๆ ทำไปเถอะ เพราะทำดีน่ะดี แต่อย่างหลงดีจะเหนื่อย ติดดีก็คือ...โง่...
รักษากาย-ใจนะคะ
(^___^)
หว่านพืช เพื่อให้ต้นพืชนั้นได้เจริญเติบโต แม้ว่าเราจะไม่ได้เก็บเกี่ยวผลผลิตนั้น แต่ว่าคนอื่นๆ ก็ยังได้ประโยชน์จากพืชที่เราหว่าน ขอบคุณค่ะ สำหรับข้อคิดดีๆ
หว่านพืช เพื่อให้ต้นพืชนั้นได้เจริญเติบโต แม้ว่าเราจะไม่ได้เก็บเกี่ยวผลผลิตนั้น แต่ว่าคนอื่นๆ ก็ยังได้ประโยชน์จากพืชที่เราหว่าน ขอบคุณค่ะ สำหรับข้อคิดดีๆ
ขอบคุณคุณ Au ครับที่มาเยี่ยม
สวัสดีคุณคนไม่มีรากครับ
ทำดีแล้วจบลงที่ดีครับ เราอิ่มใจ แต่จะได้ดีหรือไม่ไม่ต้องกังวลครับ
ถ้าทำดีแล้วไม่ค่อยได้ดีแล้วเลิกทำดีก็น่าเสียดายครับ
สวัสดีครับคุณ blue star
คนอื่นได้ประโยชน์ก็ดีมากๆครับ เราจะได้ไม่ได้ก็ปล่อยไปครับ ขอบคุณครับ
สวัสดีค่ะ
- ตามกันกว่าจะเจอ...ลำบากยากเย็นจริงนะคะ
- หลายอย่างนะคะ คำสอนผิดไปเพราะการเปลี่ยนแปลงทางสังคม
- พี่คิมไม่ชอบคำว่า...น้ำขึ้นให้รีบตัก...ไม่ชอบมาตั้งแต่เด็กแล้วค่ะ
- มาอ่านแล้วได้จุดประกายไฟ...ออกไป จะไปเขียนบันทึกใหม่ค่ะ
- ต่อจากบันทึกนี้ของน้อง
- พี่คิมมีบันทึกใหม่แล้วค่ะ
- http://gotoknow.org/blog/krukim/299071
เห็นด้วยเหมือนกันครับ
ว่าตามกันยากสักหน่อย ผมชอบเข้าไปที่คอมเม้นท์เก่าๆแล้วคลิ๊กที่ชื่อเพื่อนๆ พี่พี น้อง ถ้าต้องการตามความเคลื่อนไหว
น้ำขึ้นให้รีบตัก ก็ไม่ค่อยถูกชะตากับผมเท่าไหร่
สมัยก่อนอาจเป็นเรื่องปกติ แต่ตอนนี้รู้สึกว่า สอนให้คนเห็นแก่ตัวได้ง่ายๆเหมือนกัน ถ้าต่างคนต่างตัก ไม่แ่บ่งกันตามสมควร
เห็นด้วยค่ะน้ำขึ้นให้รับตัก รีบทำไมเกิดหน้ามืดตักน้ำที่มีพิษภัยที่มองไม่เห็น เพราะพิษบางชนิดมันใสผสมกับน้ำได้เลยล่ะจ๊ะ อิ อิ
