หมอเจ๊ คนสวย แซ่เฮ
พ.ญ. ศิริรัตน์ เอกศิลป์ สุวันทโรจน์

แค่นเอาไว้ก่อน


แค่นตัดคำตอบที่เป็นความรู้สึกต่อคนอื่นทิ้งไปให้หมดจากคำตอบซะนะ เหลือคำตอบที่เป็นเรื่องของตัวเองซิงๆเอาไว้แค่นั้นแหละพอแล้ว ทำอย่างนี้ เชื่อไหมว่าใจจะเบาสบายขึ้นเรื่อยๆ จากคำตอบที่ผุดโผล่ขึ้นมาให้รับรู้ตน

คำว่า “แค่น” ที่บ้านใต้่เขาแปลว่า “กล้ำกลืน-ฝืน-ทน-พยายาม”
คำๆนี้จึงสามารถใช้ทั้งในทางบวกและลบได้
ทำใจหน่อย เขาก็จะใช้ว่า “แค่นๆเอาหน่อย”

เวลาชวนกันทำงานคุณภาพ
คนมักจะกลัวกับคำว่า “ดีเลิศ”

เดี๋ยวนี้เลยชวนกันบอกว่า “แค่นทำไปเท่าที่ทำได้”

แค่นๆกันไปก็ดูเหมือนจะยาก
สุดท้ายเลยช่วยกันบอกว่า “ช่วยกันลากให้แค่นๆหน่อย”

เลยปรากฎว่าได้อะไรที่เป็นปริมาณมาแทนบ้าง
ได้อะไรที่เป็นคุณภาพมาแทนบ้าง

ก้ำกึ่งกันอยู่อย่างนี้เสมอ

คนเป็นพี่เลี้ยงก็เลยต้องแค่นตัวเอง
ให้ปล่อยวางซะบ้าง

ซึ่งปรากฏว่าได้ผลดีกว่าในแง่
คนไม่ต้องแค่นลงมือทำ แต่เต็มใจทำ

เห็นฤทธิ์ของคำว่าแค่นรึยัง….อิอิ


แต่เรื่องแค่นกับการดูแลใจของคน
อย่าเผลอลุ้นให้ใช้โดยไร้สติเด็ดขาดเลยนะขอบอกกันซะก่อน

เพราะยิ่งแค่นคนยิ่งทรมาณใจของตน
เกิดทุกข์ทนแทนที่ใจจะเบาสบายอย่างที่หวังดีต่อเขา

หากว่าอยากให้เขาแค่นแล้วเกิดใจเบาสบาย
ให้แนะเขา ให้แค่นถามใจตัวเองว่า “กำลังตัดสินตัวเองอย่างไร”

บอกไปนะว่าให้ถามไปเรื่อยด้วยคำถาม “ทำไม”

ถามแบบเด็กเล็กๆที่ชอบถามเวลาเกิดความสงสัย อยากรู้นั่นแหละ

ได้คำตอบ แล้วให้ถามต่อด้วยคำว่า “ทำไม” แบบเด็กช่างสงสัยต่อไปนะ

แค่นไปเรื่อยแบบเล่นเกมส์ 20 คำถามหรือกว่าจะจนกับคำตอบที่ถามต่อด้วยทำไมไม่ได้อีกแล้ว

ทำอย่างนี้ เชื่อไหมว่าใจจะเบาสบายขึ้นเรื่อยๆ จากคำตอบที่ผุดโผล่ขึ้นมาให้รับรู้ตน


อย่าลืมแค่นกับเกมส์ 20 คำถาม ถาม”ความรู้สึกต่อตัวเอง” เท่านั้นนะ
จะพบเรื่องดีๆ ที่พาตัวเองให้เจริญเติบโตได้ จริงๆนะ

อ้อลืมไป เวลาตั้งคำถาม อย่าลืมแนะตัวเองให้แค่นทำเรื่องนี้ไปด้วย

นั่นก็คือ แค่นตัดคำตอบที่เป็นความรู้สึกต่อคนอื่นทิ้งไปให้หมดจากคำตอบซะนะ

เหลือคำตอบที่เป็นเรื่องของตัวเองซิงๆเอาไว้แค่นั้นแหละพอแล้ว

แค่นอย่างนี้ คือเรื่องที่เชียร์ให้ลองลงมือทำ เพื่อให้รางวัลตัวเอง

จะดึงตัวเองขึ้นมาจากหุบเหวนรกในใจได้ง่ายๆเลยเชียว……นะจ๊ะ นะจ๊ะ

ถ้าทำยากหรือยังมีนรกอยู่ในใจละก็

ให้ย้อนกลับไปอ่านแถวที่มีอักษรสีแดงข้างบนแล้วทำใหม่……นะจ๊ะ นะจ๊ะ

หมายเลขบันทึก: 297942เขียนเมื่อ 15 กันยายน 2009 20:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:33 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

แหะ แหะ มาอ่านบันทึกนี้ไม่ต้อง "แค่น" เลยครับ

อ่านด้วยความเพลิดเพลิน สนุกสนาน แถมสาระเพียบ

ไปอ่านประวัตินึกว่าเป็นนักเขียน ปรากฏว่าเป็นหมอ

แค่นเป็นหรือเปล่าครับ...

  • คุณ หนานเกียรติ ค่ะ
  • ขอบคุณค่ะที่บอกว่าไม่ต้องแค่นอ่านบันทึกนี้....ปลื้ม...อิอิ
  • .........
  • ขอบคุณที่บอกให้รู้เก็บ"สาระ" ได้จากบันทึกนี้....ดีใจ...อิอิ
  • .........
  • ขอบคุณที่ชวนให้ฝันว่าเป็นนักเขียนไปแล้ว...ตัวเริ่มลอย...อิอิ
  • .........
  • ขอบคุณที่ส่งคำถามมาให้ครุ่นคิด....อืม....อืม....น่าคิด...อืม..อืม....หัวคิ้วเริ่มผูกโบว์
  • .........
  • แค่นเป็นหมอรึเปล่า....ชวนให้หาคำตอบ....คิ้วยังผูกโบว์อยู่หน่อยๆ
  • .........
  • แล้วก็ได้คำตอบว่า....ไม่แค่น....ด้วยว่าหากว่า...แค่นเป็นเมื่อไร...คนไข้ในมือตายแน่ๆ...แบบไอ้หวังเลยนะคะ....ขอบอก...คิ้วคลายโบว์แล้ว....อิอิ
  • .........
  • จุ๊..จุ๊....กระซิบดังๆว่าอย่าเชียร์ให้คนอื่นนึกคิดเรื่อง...การแค่นเป็นหมอ...อีกนะคะ
  • .........
  • ก็ถ้าหากว่า...สังคมมีแต่คนที่แค่นเป็นหมอ....แล้วจะรู้สึกกันนะค่ะ....บรื๋อ..บรื๋อ....ไม่เอาน่า....เลิกคิดเหอะเรื่องอย่างนี้.....บรื๋อ...บรื๋อ
  • .........
  • ขอบคุณที่มากระตุกให้คิดเรื่องการแค่นเป็นหมอของผู้คน.....ให้ระวังไว้...ไม่ไปแค่นให้ใครต้องแค่นเป็นหมอ....ให้ต้องร้อง....ฮึ...ฮึ...อี๋..อี๋...ฮึ....ค่ะ
  • .........
  • ขอบคุณค่ะ

อ่านเพลินด้วยอาการยิ้มๆ ไม่ต้อง แค่น ค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท