"The Last Lecture" หนังสือดีที่ให้แง่คิดหลายด้าน


เพราะ "เวลาเป็นสิ่งเดียวที่คุณมี...และวันหนึ่งคุณอาจได้รู้ว่าคุณมีเวลาเหลือน้อยกว่าที่ตัวเองคิดไว้"

 

 

เนื้อหาโดยสรุป

                เนื้อหาโดยสรุปของหนังสือเล่มนี้เกี่ยวกับชีวประวัติ  และการเตรียมการปาฐกถาครั้งสุดท้ายของผู้เขียน(Randy Pausch)  ซึ่งจะเป็นการปาฐกถาครั้งสุดท้ายในชีวิตของเขาจริง ๆ เนื่องจากเขาป่วยเป็นมะเร็งในตับอ่อนระยะสุดท้ายและสามารถมีชีวิตอยู่ต่อได้ไม่นาน

                หนังสือกล่าวถึงชีวิตของผู้เขียน โดยมีการสอดแทรกแง่คิดในการใช้ชีวิตซึ่งในบางครั้งเรานึกไม่ถึง  ผสมกลมกลืนกับชีวิตในช่วงปัจจุบันที่เขาต่อสู้กับโรคร้ายที่ไม่สามารถรักษาหาย จนกระทั่งเตรียมการปาฐกถาครั้งสุดท้าย ซึ่งไม่เพียงแค่จะสื่อไปยังผู้ที่ชม  แต่เป็นการสร้างสมบัติชิ้นล้ำค่าให้แก่ลูกของเขา (ผู้เขียนมีลูก 3 คนซึ่งยังเด็กมาก)  ที่จะได้รู้จักว่าพ่อของเขาเป็นคนอย่างไร  มีลักษณะนิสัย  ความคิดอย่างไร  ซึ่งโดยภาพรวมแล้วเป็นหนังสือที่เป็นเรื่องราวของการมีชีวิตอยู่

 

Randy Pausch(ผู้เขียน)

 ศาสตราจารย์ประจำ มหาวิทยาลัยคาร์เนกีแมลลอน

 

ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับข้าพเจ้า

                ในครั้งแรกที่ข้าพเจ้าได้อ่านหนังสือเล่มนี้นั้น  เป็นเวลาหลังจากบิดาของข้าพเจ้าถึงแก่กรรมเป็นเวลาประมาณ 1 ปี  ทำให้ได้รู้ในแง่มุมของการเตรียมตัวการใช้ชีวิตว่าควรจะทำใจรับกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นอย่างไร  รู้ว่า “คนเราควรจะใช้เวลาที่มีอยู่ให้คุ้มค่ามากที่สุด  เพราะมันอาจจะมีน้อยกว่าที่เราคิดไว้”  และเมื่อต้นปีที่ผ่าน(พฤษภาคม 2552)มาก็เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกเสียใจมากที่สุดในชีวิตอีกเหตุการณ์หนึ่ง  คือการถึงแก่กรรมของมารดาข้าพเจ้า  ทำให้ข้าพเจ้าได้นำข้อคิดที่ได้จาการอ่านหนังสือในครั้งนั้นมาใช้เพื่อคลายความเสียใจได้บ้าง  ทำให้ข้าพเจ้าได้ข้อคิดในการที่จะมีชีวิตอยู่

ข้อคิดที่ได้

                ข้าพเจ้าชื่นชมในงานเขียนชิ้นนี้ของผู้เขียนมาก  เพราะมีความสามารถในการคิด  การดำรงชีวิตที่น่านำมาเป็นแบบอย่าง  ซึ่งเมื่ออ่านแล้วได้ข้อคิดต่างๆ ดังนี้

                - เราควรจะใช้เวลาที่มีให้คุ้มค่ามากที่สุดเพราะเราไม่สามารถย้อนกลับมาแก้ไขอะไรได้

                - เราควรจะมีการเตรียมพร้อมกับชีวิตทุกวินาทีว่าถ้าเกิดอะไรที่ไม่คาดคิดกับเรา  เราจะทำอย่างไร   เพราะว่าสิ่งที่ไม่คาดคิดนั้นสามารถเกิดได้ตลอดเวลา

                - เราควรที่จะรู้จักสังเกตในมุงมองที่แปลกใหม่กับทุกสิ่งรอบตัว  เพราะในบางครั้งมันมีแง่คิดอะไรอีกหลายอย่างที่เรามองข้ามไป

เอกสารอ้างอิง

Randy Pausch/Jeff  Zaslow .2551.The Last Lecture.พิมพ์ครั้งที่ 15.อมิทร์,กรุงเทพมหานคร

ลิงค์ The Last Lecture

http://www.youtube.com/watch?v=ji5_MqicxSo 

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้

http://www.scriptdd.com/diary/the_last_lecture.html

 

บันทึก 12 กันยายน 2552

หมายเลขบันทึก: 296842เขียนเมื่อ 12 กันยายน 2009 15:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:31 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (28)

เวลามีค่าจริงๆครับ

คนเก่งคนดังทั้งหลายล้วนให้ความสำคัญกับเวลา

ทุกวินาทีมีค่าครับ และการตรงต่อเวลาก็เป็นสิ่งสำคัญ

เพราะเวลาเพียงสิบนาที อาจจะหมายถึงชีวิต

ว่างๆผมจะยืมมาอ่านนะครับ ว่าที่หมอนิว

เป็นหนังสือที่ดีครับ สอนให้รู้จักคุณค่าของชีวิต

ให้เราดำเนินชีวิต ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท เหมาะสำหรับทุกวัย

เอาไปใช้ได้มากมาย

เอามาให้เค้าอ่านบ้างนะนิว

เวลาเป็นสิ่งมีค่าจริงๆ

เพราะงั้น เราจะทำเวลาที่เรามีอยู่ให้ดีที่สุดเนาะ

อยากอ่านบ้าง ดีจังเลย

เวลาที่ผ่านไปแล้วมันย้อนกลับคืนมาไม่ได้จริงๆ

เราควรใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุด เนอะ^^

เป็นหนังสือที่ควรค่าแก่การอ่านมากครับ

ทำให้เราใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่าครับ

วรภูมิ ตั้งใฝ่คุณธรรม

อืม ทุกคนมีเวลาในแต่ละวันเท่ากัน อยู่ที่ว่าเราจะใช้เวลานั้นยังไง

แต่แต่ละคนมีเวลาทั้งชีวิตไม่เท่ากัน จะตักตวงได้มากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคน

"Live as if you were to die tomorrow. Learn as if you were to live forever."

...มหาตมะ คานธี

เป็นหนังสือที่ดีมาก

หลายคนชอบหนังสือเล่มนี้นะ แล้วเค้าก็เป็นหนึ่งในนั้น

เป็นหนังสือที่บอกอะไรเราหลายๆอย่าง เหมือนกับเป็นสิ่งที่เตือนสติเรา

ทรรศนันท์ นิธิปรีชา

เห็นเพื่อนอ่านกันหลายคนเลย

เป็นหนังสือที่น่าสนใจจริงๆ

อืม เวลาเป็นสิ่งที่มีค่าเสมอ

เวลา เป็นสิ่งที่คนทุกคนในโลกนี้ได้รับอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะรวยหรือจน ดีหรือไม่ดี

สุดท้าย คนที่ได้เปรียบคือคนที่รู้จักการจัดการเวลาให้เป็นไปอย่างมีระเบียบ

หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่ดีมากๆเล่มหนึ่ง

เป็นหนังสือที่น่าอ่านมากเลย ว่างจะไปยืมอ่านนะ

"เราควรที่จะรู้จักสังเกตในมุงมองที่แปลกใหม่กับทุกสิ่งรอบตัว เพราะในบางครั้งมันมีแง่คิดอะไรอีกหลายอย่างที่เรามองข้ามไป"

เหมือนที่เคยได้ยินเลย บางทีเราีควรจะหยุด เพื่อมองทุกสิ่งรอบตัว" เดี๋ยวนี้อะไรๆไปเร็ว มาเร็ว ทุกคนดิ้นรนกับชีวิตตัวเอง

ก็เป็นกำลังใจให้นิวเนอะ

ชุตินันท์ จันทรขันตี

ช่างเป็นหนังสือที่มีค่าแก่การอ่านจริงๆ

บางครั้งก็ทำให้เรามองอะไรย้อนกลับไป ทำให้เราไม่มองข้ามสิ่งบางอย่าง

หนังสือเล่มนี้มีประโยชน์จริงๆนะ

เค้าคิดว่านิวต้องทำตามหนังสือเล่มนี้ได้ดีอย่างแน่นอน

เรื่องนี้เจ๋งมาก เค้าก็อ่าน

ได้แง่คิดดีๆเยอะ

คิดว่านิวคงได้เอาไปปรับใช้หลายๆอย่างเลย ^^

อยากอ่านมั่งจังเลย

เอามาแบ่งกันอ่านมั่งสิ

เคยได้ยินชื่อมานานแล้ว หนังสือเล่มนี้

แต่ยังไม่เคยอ่านซะที แต่ตอนนี้ก้อรู้สึกแล้วว่าเวลาเหลือน้อย

ไม่ค่อยมีเวลาเลยย ถ้ามีเวลาเมื่อไหร่ เดี๋ยวจะลองอ่านมั่งนะ

นางสาว วริษา ตยางคนนท์

ข้อคิดที่หนังสือเล่มนี้ให้ดีมากเลย

เป็นหนังสือที่น่าสนใจค่ะ

เวลาเป็นสิ่งที่มีค่ามากมายเลยค่ะ

ว่างๆเอามาให้เรายืมอ่านมั่งนะ ^^

ใดๆในโลกล้วน อนิจจัง

เป็นหนังสือที่น่าอ่านมาเลยครับ ว่างๆจะหามาอ่านให้ได้เลย

เสียใจเรื่องคุณแม่ด้วยนะครับ

ได้ยินมาเหมือนกัน

น่าสนใจมากพี่นิวววว หนังสือนี้

ได้ยินชื่อก็น่าสนใจแล้ว

พออ่านดู

ดีมากเลย

ดีจังเลย น่าสนใจมากๆ ว่างๆจะืยืมมาอ่านบ้าง

เห็นด้วยนะ

เราควรใช้ชีวิตให้คุ้มค่า

เพราะเวลาของชีวิตจะน้อยลงเรื่อยๆๆๆ

ใช่ๆ เห็นด้วยกับผู้เขียนนะ

ควรใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุดจริงๆ ค่ะ

ขอทุกคนให้ใช้เวลาที่มีอยู่อย่างมีค่านะครับ เพราะไม่รู้ว่าวันไหนจะเป็นวันสุดท้ายของชีวิต

คนที่รู้ว่าเวลาผ่านไปเร็วคือผู้สูงอายุ ผู้ป่วยระยะสุดท้าย ครับเวลามีค่ามาก ใช้ให้คุ้มค่าเพื่อชีวิต เพื่อประเทศและเพื่อโลกนะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท