หนึ่ง
นายเกรียงไกร หนึ่ง ศรีลาภ

10ผลไม้ใกล้รั้วบ้านที่มีประโยชน์


10ผลไม้ใกล้รั้วบ้าน

10 ผลไม้ใกล้รั้วบ้านที่มีประโยชน์

1. มะละกอ

      "มะละกอ"  เรามักจะได้เห็นมะละกอในรูปแบบของส้มตำจานเด็ดอยู่เสมอๆ แต่นอกจากส้มตำแล้ว มะละกอก็ยังเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ทางยาอีกมากมาย เช่น ใบมะละกอสดนำมาย่างไฟและนำมาประคบช่วยแก้อาการปวดบวมได้ ใบใช้ต้มกินเพื่อขับปัสสาวะ เมล็ดต้มกินเพื่อขับพยาธิ ขับประจำเดือน ยางมะละกอแก่พิษตะขาบกัดแมลง      สัตว์กัดต่อย รวมไปถึงช่วยหมักเนื้อให้นุ่มได้อีกด้วย
             แต่สิ่งที่เรามักใช้ประโยชน์กับมะละกอมากที่สุดก็คงจะเป็นผลมะละกอ ที่กินได้ทั้งสุกและดิบ ผลดิบก็สามารถนำไปประกอบอาหารได้หลายอย่าง นอกจากส้มตำแล้วก็ยังนำไปต้มหรือนึ่งกินกับน้ำพริกชนิดต่างๆ จะนำไปผัดกับไข่ หรือจะแกงส้มมะละกอก็อร่อยไม่น้อย
       ส่วนผลสุกนั้นต้องถือว่าเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพได้เลยทีเดียว เพราะในผลสุกนั้นอุดมไปด้วยวิตามินเอ บี 1 บี 2 แคลเซียม และที่สำคัญคือ สารเบต้าแคโรทีน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงและทำให้ผิวพรรณดียิ่งขึ้น รวมทั้งช่วยชะลอความแก่ และริ้วรอยก่อนวัยอันควร แถมยังช่วยบำรุงอวัยวะต่างๆ ภายในร่างกาย แก้กระหายน้ำ บำรุงโลหิต บำรุงระบบประสาท บำรุงสายตา และที่สำคัญ มะละกอสุกนั้นช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี แก้ท้องผูก ป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ด้วย

 

2. กล้วย

กล้วย ... เป็นผลไม้ที่สามารถหากินกันได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นกล้วยน้ำว้า กล้วยหอม กล้วยหักมุก หรือกล้วยไข่ นอกจากนี้จะมีรสชาติหอมหวานแล้ว ยัง อุดมไปด้วยแร่ธาตุต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น วิตามินเอ วิตามินบี วิตามินซี แคลเซียม ฟอสฟอรัส คาร์โบไฮเดรตสูง และมีเกลือแร่ที่จำเป็นต่อร่างกาย อีกเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยออกมาว่า กิน กล้วยเป็นประจำแค่สัปดาห์ละ 2 ผล จะช่วยลดความดันเลือดลงไปได้ถึง 10% เพราะเอนไซม์ในกล้วยจะไปช่วยขยายหลอดเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนได้คล่องตัวขึ้น และเมื่อไหร่ที่รู้สึกเครียด กล้วยก็ยังช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายได้ เพราะในกล้วยมีโปแตสเซียม ถือได้ว่า กล้วยสามารถเป็นยารักษาโรคเบื้องต้น ที่มีราคาถูก และหาซื้อได้ง่ายตลอดปี
              นอกจากนี้ กล้วยสุกงอม ... ยังเป็นอาหารชั้นดี สำหรับเด็กทารก ตั้งแต่อายุ 3 เดือน ถึง 2 ขวบ เป็นผลไม้ที่ช่วยให้เด็กทารเจริญเติบโต ได้เป็นอย่างดี หรือแม้แต่ในผู้ใหญ่ ก็ยังช่วยแก้โรคท้องผูก ท้องร่วง อาหารไม่ย่อย เพราะมีสารพวกเปคติน (pectin) อยู่มาก เป็นการช่วยเพิ่มกากอาหาร และมีเมือกลื่นช่วยให้ถ่ายสะดวก เพียงแค่กินกล้วยสุกวันละ 2-4 ผล คุณประโยชน์จากกล้วย ก็จะทำให้มีสุขภาพดีได้

3. มะม่วงเบา

         “มะม่วงเบา” มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวคือ เนื้อผลขณะดิบ หรือแก่ จะฉ่ำน้ำ ให้น้ำเยอะ มีรสเปรี้ยวจัดมาก จึงนิยมปลูกเพื่อเก็บผลดิบใช้ประกอบอาหารจำพวกยำ โดยสับหั่นเป็นฝอยๆใส่พล่าเนื้อ ไม่ต้องใช้น้ำมะนาว ใส่ลงไปทั้งเนื้อมะม่วง หรือสับผสมกับข้าวยำปักษ์ใต้ รับประทานอร่อยมาก ในช่วงที่มะนาว มีราคาแพงสับละเอียดบีบเอาน้ำใช้แทนน้ำมะนาวได้สบาย

         ผลสุก รสหวานปนเปรี้ยว นิยมนำไปแปรรูปหลายอย่าง เช่น ทำมะม่วงกวน มะม่วงแผ่น และปั่นกับน้ำแข็ง เติมเกลือป่น น้ำเชื่อมเล็กน้อย เป็นเครื่องดื่มได้รับความนิยมแพร่หลาย และ ที่สำคัญ “มะม่วงเบา” เป็นมะม่วงพื้นเมืองที่ติดผลง่าย ผลดกเต็มต้นเป็นพวง แต่ละพวงมีผลตั้งแต่ 8-15 ผลขึ้นไป และลักษณะพิเศษอีกอย่างของ “มะม่วงเบา” คือ ลำต้นมีความแข็งแรงทนทานต่อโรคต่างๆดีมาก

4. มังคุด

 ช่วยในเรื่องของการทำงานของระบบไหลเวียนเลือด ระบบไหลเวียนเลือดซึ่งหมายรวมถึงหัวใจ เลือด และ หลอดเลือด การไม่ให้ความใส่ใจในเรื่องของการลดน้ำหนักรวม
ไปถึงสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อหัวใจเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตและทุพพลภาพ
       ช่วยในเรื่องของการทำงานของกระดูกข้อต่อ  กระดูกอ่อนเป็นเนื้อเยื่อที่ใช้ในการเชื่อมต่อพบในกระดูกข้อต่อ กระดูกซี่โครง หู และจมูก กระดูกข้อเข่าซึ่งมีความซับซ้อน มากที่สุดในร่างกายและเป็นส่วนที่ได้รับการบาดเจ็บได้บ่อยที่สุดเมื่อเทียบกับข้อต่อส่วนอื่นๆทั้งหมดในร่างกาย
        ระบบหายใจ   ช่วยในเรื่องของระบบหายใจ ง่ายต่อการติดเชื้อ โรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนเป็นโรคติดเชื้อหนึ่งที่เกิดมากที่สุดในโลก

       ช่วยในเรื่องของสุขภาพลำไส้ ระบบย่อยอาหาร ซึ่งหมายรวมถึง ปาก คอหอย หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ ในส่วนของโรคที่เกิดขึ้นคือโรคกระเพาะอาหาร โรคลำไส้อักเสบเป็นโรคที่เกิดขึ้นได้บ่อย

5. มะขาม

 สรรพคุณ  

      -  ถ่ายพยาธิ : เอาเมล็ดแก่มาคั่วแล้วกระเทาะเปลือก เอาเนื้อในเมล็ดไปแช่น้ำเกลือจนนุ่ม รับประทานครั้งละ 20-30 เมล็ด
    - ลดความดัน : นำดอกสด ไม่จำกัด ใช้แกงส้ม หรือต้มกับปลาสลิดรับประทาน

     -  ท้องผูก : ใช้เนื้อมะขามเปรี้ยวในฝักที่แก่จัด 10 - 20 ฝัก (70 - 80 กรัม)
จิ้มเกลือรับประทาน หรือ ดื่มน้ำตามมากๆ หรือ คั้นน้ำใส่เกลือเล็กน้อยดื่มเป็นน้ำมะขาม
      -  แก้หวัด : ต้มน้ำให้เดือดพลั่ก ทุบหัวหอมสัก 7 - 8 หัว ใบมะขามอ่อนและ
แก่ลงไป พอควันขึ้นก็เอาผ้าขนหนูผืนใหญ่คลุมทั้งหัวและหม้อหัวหอม ใบมะขาม สูดเข้าสูดออกสัก 5 นาที ระวังอย่าสูดไอร้อนๆอย่างเดียวตลอด พอร้อนทนไม่ไหวก็เอาผ้าคลุมออก เอาผ้าคลุมสูดใหม่ จนพอใจ เติมน้ำเย็นลงไปในหม้อกลายเป็นน้ำอุ่นๆ เอาหัวหอมกับใบมะขามโกรกหัวหลายๆ ครั้ง

      -  ไอ และมีเสมหะ : ใช้เนื้อในฝักแก่ หรือมะขามเปียกจิ้มเกลือรับประทานพอสมควร

6. เงาะ
เงาะเป็นผลไม้อีกชนิดหนึ่งที่มีขายกันอยู่ทั่วไป เป็นผลไม้รสหวานและอมเปรี้ยว  รับประทานเงาะสดสามารถแก้อาการท้องร่วงชนิดรุนแรงได้ผลดี นอกจากนี้ ผลเงาะนำมาต้ม นำน้ำที่ได้มาเป็นยาแก้อักเสบฆ่าเชื้อแบคทีเรีย รักษาอาการอักเสบในช่องปาก และโรคบิดท้องร่วง มีข้อควรระวัง คือเม็ดในของเงาะมีพิษแม้ว่าจะเอาไปคั่วจนสุกแล้ว แต่ถ้ารับประทานมากเกินไปจะมีอาการปวดท้อง เวียนศรีษะมีไข้ คลื่นไส้ อาเจียน ดังนั้นไม่ควรจะรับประทานเม็ด

7. ส้มโอ

        เป็นผลไม้ที่มีรสดีชุ่มคอ ชื่นใจ มีให้รับประทานตลอดทั้งปี เนื้อ เปลือกและเมล็ดล้วนใช้เป็นยา ส่วนเปลือกส้มมีน้ำมันหอมระเหยอยู่จำนวนมาก

        ส้มโอมีวิตามินซี เอ บี เเคลเซี่ยม ฟอสฟอรัส ช่วยบำรุงผิวสวยเต่งตึงมีน้ำมีนวล ดวงตาสดใส กระดูกเเข็งแรง

            ประโยชน์ที่สำคัญของส้มโอคือ ละลายเสมหะ แก้ไอ บำรุงกระเพาะ ช่วยย่อย

และแก้ปวด ตำหรับยาง่ายๆมีดังนี้ ไอเสมหะมาก – เนื้อส้มโอ 90 กรัม     ข้าวหมาก   15 กรัม น้ำผึ้ง 30 กรัม ตุ๋นรับประทานวันละครั้ง อาหารไม่ย่อย ท้องอืดท้องเฟ้อ ใช้เนื้อส้มโอ 60 กรัม รับประทานให้หมด วันละ 3 ครั้ง สตรีแพ้ท้อง คลื่นไส้อาเจียนเปลือกส้มโอ 15-20 กรัม สับให้ละเอียด แล้วเติมน้ำจำนวนพอเหมาะต้มดื่มแทนน้ำชา นอกจากนี้เปลือกส้มโอยังใช้เชื่อมเป็นขนมหวานเช่นจังหวัดเพชรบุรีมักนิยมนำเปลือกส้มโอมาเชื่อมจนเป็นสินค้าพื้นเมือง ส่วนเนื้อที่เปรี้ยวใช้ประกอบกับข้าวยำทางภาคใต้ เนื้อหวานอมเปรี้ยวใช้ทำส้มโอลอยแก้ว ส่วนเนื้อหวานใช้ รับประทานเป็นผลไม้สด เป็นต้น

 

8. ทุเรียน

         เนื้อทุเรียน - รสหวานร้อน ทำให้เกิดความร้อน แก้โรคผิวหนัง ทำให้ฝี-หนอง แห้ง เนื้อทุเรียนมีฤทธิ์ขับพยาธิ  

         เปลือกหนามทุเรียน - รสเฝื่อน นำมาสับแช่ในน้ำปูนใสใช้ชะล้างแผลที่เกิดจากน้ำเหลืองเสีย แผลพุพอง หรือนำมาเผาทำถ่าน บดจนเป็นผง คลุกในน้ำมันมะพร้าว หรือน้ำมันงา ลดความบวมพองจากคางทูม และเผาเอาควันไล่ยุงและแมลง   ใบทุเรียน-รสเย็นและเฝื่อน ใช้ต้มน้ำอาบแก้ไข้ แก้ดีซ่านและเป็นส่วนผสมในยาขับพยาธิ  

         รากจากต้นทุเรียน – ตัดเป็นข้อ ๆ ต้มให้เดือด ดื่มบรรเทาอาการไข้และรักษาอาการท้องร่วง

 

9. ขนุน

          ส่วนที่ใช้เป็นยา ใบ ราก (ขนุนละมุด) แก่นและราก ยาง เนื้อหุ้มเมล็ด เนื้อในเมล็ด รสและสรรพคุณในตำรายาไทย

         1. ใบ รสฝาดมัน รักษาหนองเรื้อรัง ใบสดนำมาตำให้ละเอียดอุ่นพอกแผล

         2. ราก (ขนุนละมุด) รสหวานอมขม แก้ท้องร่วง แก้ไข้ แก้ธาตุน้ำกำเริบ โลหิตพิการ ฝาดสมาน บำรุงกำลัง บำรุงโลหิต

         3. แก่นและราก รสหวานอมขม บำรุงโลหิต แก้กามโรค ขับพยาธิ ระงับประสาท แก้โรคลมชัก

         4. ยาง รสจืด ฝาดเฝื่อน แก้อักเสบบวม แผลมีหนองเรื้อรัง แก้ต่อมน้ำเหลืองอักเสบ ขับพยาธิ ขับน้ำนม

         5. เนื้อหุ้มเมล็ด รสหวานมันหอม บำรุงกำลัง ชูหัวใจให้ชุ่มชื่น

         6. เนื้อในเมล็ด รสหวานมัน บำรุงน้ำนม ขับน้ำนม บำรุงกำลัง

        ที่ใช้เป็นอาหาร ยอดอ่อนรสฝาดอมเปรี้ยวเล็กน้อย ใบอ่อนและผลอ่อนรสมันหวาน

        ยอดขนุน รสฝาดอมเปรี้ยวเล็กน้อย ผลอ่อน รสมันหวาน สรรพคุณฝาดสมาน รักษาอาการท้องเสีย

10. มะพร้าว

มะพร้าว เป็นต้นไม้ที่มากด้วยสรรพคุณ แต่มีคนจำนวนไม่มากนักที่เล็งเห็นคุณค่าและคนนำทุกส่วนของต้นมะพร้าวมาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างคุมค่าที่สุด ประโยชน์ของมะพร้าวว่า ส่วนใหญ่เรามักจะเน้นในเรื่องของอาหาร ทั้งที่ในความจริงแล้วมะพร้าวมีประโยชน์มากมาย เช่น ในสมัยโบราณนิยมให้สตรีมีครรภ์ดื่มมะพร้าวอ่อนมากๆเพื่อช่วยให้ทารกที่เกิดใหม่เนื้อตัวสะอาด ผิวดี ซึ่งว่าที่คุณแม่บางคนยังยึดถือปฏิบัติกันอยู่ในปัจจุบันสำหรับสาวๆที่มีผิวแห้ง หยาบกร้าน น้ำมันมะพร้าวสามารถนำมาทาผิวให้ความชุ่มชื่นแก่ผิวได้เป็นอย่างดีเพียงชโลมน้ำมันมะพร้าวให้ผิวกายเป็นประจำหลังอาบน้ำ และน้ำมันมะพร้าวยังมีสรรพคุณในการรักษาผิวแตกบริเวณส้นเท้า ซึ่งเป็นบริเวณที่จะแตกมากกว่าส่วนอื่น บางคนเป็นมากถึงขั้นแตกเป็นริ้วๆและมีอาการเจ็บจนไม่อยากเดินวิธีรักษาส้นเท้าแตกแบบง่ายๆ เพียงทาน้ำมันมะพร้าวบริเวณส้นเท้าที่แตกให้ชุ่มนำผ้าที่สะอาดมาพันรอบบรีเวณดังกล่าว เพื่อให้น้ำมันซึมเข้าภายในและทิ้งไว้ทำเช่นนี้เป็นประจำทุกวัน รอยแตกที่แยกออกก็จะหายกลับเป็นเหมือนเดิม ส่วนผู้ที่มีปัญหาเส้นผมแตกปลาย หรือผมหงอกก่อนวัย ก็ให้ใช้น้ำมันมะพร้าวหมักประมาณ 15-20 นาที ก่อนสระผม ทำเช่นนี้เป็นประจำ เส้นผมจะนุ่มไม่แห้งฟู และดกดำเป็นเงางาม

  • จาวมะพร้าวใช้นำมาเป็นอาหารได้
  • น้ำมะพร้าวและเนื้อมะพร้าวใช้ถ่ายพยาธิได้
  • เปลือกหุ้มรากมะพร้าวใช้รักษาโรคคอตีบได้
  • น้ำมันจากกะลามะพร้าวใช้รักษาโรคผิวหนังได้

       ในผลมะพร้าวอ่อนจะมีน้ำอยู่ภายใน เรียกว่าน้ำมะพร้าว ใช้เป็นเครื่องดื่มเกลือแร่ได้ เนื่องจากอุดมไปด้วยโพแทสเซียม นอกจากนี้น้ำมะพร้าวยังมีคุณสมบัติปลอดเชื้อโรค และเป็นสารละลายไอโซโทนิก (สารละลายที่มีความเข้มข้นเท่ากับภายในเซลล์ ซึ่งไม่ทำให้เซลล์เสียรูปทรง) ซึ่งด้วยเหตุนี้จึงสามารถนำน้ำมะพร้าวไปใช้ฉีดเข้าหลอดเลือดเวน (หลอดเลือดดำ) ในผู้ป่วยที่มีอาการขาดน้ำหรือปริมาณเลือดลดผิดปกติได้

 

หมายเลขบันทึก: 296292เขียนเมื่อ 10 กันยายน 2009 18:33 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 10:30 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

นี่ก็เป็นผลงานชิ้นที่ 2 ของผมน่ะครับ ได้เรียบเรียงขึ้น เพราะจะให้ผู้อ่านได้รับทราบถึงผลไม้ที่ปลูกกันทั่วไปใกล้บ้านว่ามีประโยชน์อย่างไรบ้างน่ะครับ มีข้อติชมอย่างไรสนทนากันได้น่ะครับ

ขอบใจที่ให้ความรู้ค่ะ แต่ลองกลับไปดูหัวข้อนิดหนึ่งนะค่ะ คุณครูจะตีนะ

ขอขอบพระคุณครับที่ชี้แนะ เขียนผิดครับ

หากใครต้องการหาความรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับสุขภาพ ผักผลไม้ ก็บอกมาได้น่ะครับ

เก่งจังเนอะ   คิดดายยางงาย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท