เพื่อนชีวิต


เย็นวันนั้น รถตู้ของเราฝ่าฝูงรถเมืองกรุงไปยังเป้าหมายคือที่พักโรงแรมแห่งหนึ่งแถววัดสระเกศ ก่อนเลี้ยวตรงอาคารพิพิธภัณฑ์พระปกเกล้า หรือกรมโยธาธิการเดิม ผมเหลือบเห็นคุณยายรุนรถเข็นที่มีของพะรุงพะรังไปอย่างเชื่องช้าริมฟุตปาทนั่น


นึกในใจว่า คุณยายครับอันตรายมากเลยที่มาเดินเช่นนี้ รถก็แน่นไปหมด คุณยายจะขยับไปทีละก้าวก็คอยจังหวะรถเคลื่อนตัว เพราะรถเข็นของยายจะไปถูกับรถต่างๆเข้า ก็เป็นเรื่องไปอีก

ผมคว้ากล้องที่เตรียมพร้อมเสมอไว้ออกมาถ่ายรูปคุณยาย ก็พอดีรถเคลื่อนตัว


ให้ตายซิ.....นั่น ดูนั่น ที่หัวรถเข็นคุณยาย มีแมวตัวหนึ่งนั่งอยู่มีเชือกผูกคอไว้อย่างหลวมๆ ปลายเชือกคุณยายกำไว้แน่นพร้อมๆกับดันรถเข็นไปข้างหน้า

ใครๆก็เดาเรื่องราวออกว่า นี่คือเพื่อนรักที่สุดของคุณยาย ท่ามกลางความเจริญสูงสุดของประเทศนี้ คุณยายที่เราไม่รู้รายละเอียดอะไรเลยแม้แต่น้อย เพียงภาพที่เห็นก็พอจะเดาเรื่องราวได้บ้าง


คนเราต้องการเพื่อน ต้องการสังคม ต้องการปฏิสัมพันธ์

แต่คุณยายที่อาจจะไม่มีหัวนอนปลายตีนนี้ ใครล่ะจะมาเป็นเพื่อน ใครเล่าจะมาสังคมด้วย ใครเล่าหนอจะมาปฏิสัมพันธ์ ลูกหลานมีไหม ครอบครัวอยู่ที่ไหน..สุดจะอธิบายได้

แต่สภาพเช่นนี้คงจะไม่มีอะไรเหลืออีกแล้ว


“มีเองกับข้าเท่านั้นเจ้าแมวเอ๋ย เองเป็นเพื่อนรักของข้า”...

สายตาที่คุณยายมองเจ้าแมวนั้น รับได้ว่าคุณยายเฝ้าดูแลมัน ห่วงมัน เกรงว่ามันจะกระโดดลงจากรถเข็นหนีจากยายไป รถจะทับเอา...


ไฟเขียว  รถเคลื่อนตัว คุณยายก็เข็นรถไป  สภาพที่อิดโรย สิ่งของต่างๆบนรถเข็นนั้นน่าจะเป็นทุกสิ่งทุกอย่างที่ยายจะยังชีวิตอยู่ได้...

คนทำงานในเมืองกรุงผ่านไปผ่านมา คนแล้วคนเล่า บางคนก็มองคุณยาย แล้วก็ผ่านไปเหมือนไม่ได้ฉุกคิด หรือสร้างผลสะเทือนทางความรู้สึกใดๆเลย  บางคนเห็นแมวน้อยก็ยิ้มที่มุมปากเล็กๆ แล้วก็รีบเดินไปตามเป้าหมายชีวิตของเขา

คนอีกหลายคนผ่านไปโดยไม่เห็นคุณยายท่านนี้ด้วยซ้ำ ในสมองเขาคงเต็มไปด้วยปัญหาข้างหน้าที่เขาเดินขบคิดอยู่


รถตู้ของคณะเราผ่านคุณยายไปแล้ว ผมพยายามเหลียวมองคุณยาย แต่ไม่เห็นเสียแล้ว

คนเราต้องการเพื่อน ทั้งเพื่อนร่วมชีวิต เพื่อนร่วมงาน เพื่อนร่วมสังคม เพื่อนร่วมชาติ เพื่อนร่วมโลก... หากคุณยายไร้เจ้าแมวน้อยตัวนี้ คุณยายจะอยู่ได้อย่างไร ชีวิตเพื่ออะไร คุณยายคงหาอาหารให้ ได้โอบอุ้มไว้ระหว่างอก คุณยายคงคุยเรื่องราวสารพัดกับแมวน้อย แม้มันจะไม่รู้เรื่องเลย..

แต่มันก็เป็นเพื่อนชีวิต มันอาจจะมาคลอเคลียที่ตักคุณยาย สร้างพลังใจให้คุณยายได้สู้กับชีวิตในวันต่อไปอีกท่ามกลางสังคมเมืองฟ้าอมร....

 

 

หมายเลขบันทึก: 295262เขียนเมื่อ 6 กันยายน 2009 17:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:29 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)
  • สวัสดีครับ อ.บางทราย
  • สังคมบ้านเรายังมีภาพอย่างนี้อยู่ให้เห็นทั่วๆ ไปนะครับ
  • หลายคนอาจมองเห็นแล้วคิดต่อ..มีคำถามว่าทำไม.? ? ?
  • หลายคนคงเห็นแล้วเฉยๆ
  • หลายคนอาจมองไม่เห็นเหมือนอาจารย์ว่า เพราะแค่กรอบชีวิตของตนเองก็คิดว่าหนักหนาแล้ว
  • วันก่อนผมก็เจอ ก็ได้แบ่งปันเท่าที่จะทำได้
  • ที่บันทึกนี้ ชีวิตกับความพอเพียง : 14. สุขใจเมื่อได้ให้...
  • คิดถึงครับ
  • สบายดีนะครับ
  • สวัสดีครับน้องสิงห์ป่าสัก
  • ก็เป็นภาพที่เราพบเห็นกันทั่วไปบ่อยๆ
  • ที่ใดยิ่งมีความเจริญก็ยิ่งมีจำนวนคนจนในเมืองมากขึ้น
  • เขาไม่มีทางเลือกมากนัก ทำในสิ่งที่พอเป็นช่องทางเขา
  • กลุ่มงานของรัฐไม่สามารถเข้าถึงคนจนกลุ่มนี้ได้เลย มองว่าเป็นปัญหาแต่ไม่ทำอะไรเท่าที่ควรจะทำ
  • ทั้งๆที่อยู่ใจกลางเมือง ใจกลางความเจริญ แต่สภาพเหมือนคนชายขอบ
  • รัฐทุ่มเงินเป็นแสนล้านเพื่อกลุ่มคนที่มีฐานะ แต่คนกลุ่มนี้รัฐกลับไม่มีงบประมาณลงมาถึง หรือไม่มีกิจกรรมลงมาถึง
  • อาจจะมีกลุ่ม NGO ลงมาทำ แต่ก็เล็กน้อยเทียบกับปริมาณคนกลุ่มนี้แล้วไม่เพียงพอ ซ้ำ เขาเองก็ดิ้นรนเพื่อจะหาแหล่งเงินทุนมาทำงาน ก็แสนยากเพราะแหล่งเงินทุนกล่าวว่า ไทยเจริญแล้ว
พระมหาแล ขำสุข(อาสโย)

เจริญพรโยมอาจารย์บางทราย

  • เคยได้ยินคำนี้อยู่เหมือนกันที่ว่า เราอย่าไปมองว่าใคร,เขา เป็นภาระเป็นปัญหา
  • แต่ควรมองว่า เป็นภาระหน้าที่ที่ทุกคนจะต้องช่วยเหลือเจือจานให้พ้นจากภาวะนั้น ๆ (ไม่ทราบว่าจำถูกต้องหรือไม่)
  •  ถ้ามองเป็นปัญหาคงแก้ยากอะไรประมาณนั้นหรือไร
  • บันทึกของอาจารย์ให้แง่คิดดี

เจริญพร

กราบนมัสการพระคุณเจ้าครับ

  • บางทีเป็นการทดสอบอารมณ์ที่เกิดขึ้นกับเรา กับใครๆครับว่า เมื่อเห็นความจริงเช่นนี้แล้วรู้สึกอย่างไร คิดอะไร
  • เอาหลายๆคนมาบอกกล่าวกัน
  • คำบอกกล่าวนั้นคงสะท้อนหลายๆอย่างของสภาพสังคมนี้นะครับท่านครับ
  • เช่น ทำไมเวลาคนดูละคอนในทีวี เมื่อถึงบทเศร้า ก็ร้องให้ น้ำตาไหลไปด้วย แต่เมื่อเห็นภาพเศร้าเช่นนี้ เขาเกิดอะไรขึ้น
  • กรายนมัสการครับ

อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่ท่าน

เห็นภาพอย่างนี้แล้วรู้สึก บอกไม่ถูกค่ะ

มักเจอกับสภาพเมือง ... ผู้สูงวัยถูกทอดทิ้ง

ความแตกต่างทางสังคม ...

แค่นี้ก่อนนะคะพี่ท่าน ไปทำงานล่ะคะ

มีความสุข รักษาสุขภาพค่ะ

 

สวัสดีครับน้องปู

มันสะท้อนสังคมว่าสังคมเราอยู่ตรงไหนของรัฐสวัสดิการ อยู่ตรงไหนของความเจริญที่แท้จริง..

 

ขอให้ทำงานอย่างมีความสุขนะครับ

เก็บทุกรายละเอียดของการเดินทาง ชีวิตอย่างนี้ยังมีอีกมากครับ

เราทำงานเชิงสังคม พัฒนาคน พัฒนาสังคม เห็นแล้วก็คิดไปต่างๆนานา โดยเแพาะแนวทางการแก้ไขปัญหา ทำอย่างไรไม่ให้เกิดสภาพเช่นนี้ หากเกิดแล้วจะทำอย่างไรต่อไป ก็หลายเรื่องได้แค่คิด บางเรื่องก็ทำได้ มากน้อยก็ยังได้ทำครับ

พวกอย่างพี่นี้บางทีก็เรียกพวกแบกโลก  อิอิ ครูเสือครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท