การเดินทางไปไร่ส้มในครั้งนี้เราทุกคนได้ทั้งความรู้ ความสนุก ได้สัมผัสประสบการณ์การเก็บส้มที่วัยรุ่นหลายคนยังไม่เคยได้ทำ ระหว่างที่เราพูดคุยซักถามกันต่างๆนาๆเกี่ยวกับสวนส้มนั้น ฉันก็สะดุดตา และเกิดคำถามในใจมากมายเกี่ยวกับเด็กคนหนึ่งที่กำลังเก็บส้มอยู่ด้วยกัน เอาจริงๆแล้วเด็กคนนี้คงจะมาเก็บส้มก่อนที่พวกเราจะมาถึงสวนส้มหลายชั่วโมงเลยล่ะ ว่าแล้วฉันก็เข้าไปทักทาย แต่รู้สึกว่าน้องกำลังง่วนอยู่กับงานของตนเอง จึงแอบเลียบๆเคียงๆถามพ่อกับแม่ (ในที่นี้ก็เจ้าของสวนส้มนั่นเอง) แล้วก็พยายามยื้อยุดฉุดกระชาก ฮ่าๆ เรียกว่าพยายามขอสัมภาษณ์น้อง จนในที่สุดพวกเราคุณหนูไร่ส้มก็ได้คุยกับชาวสวนส้มวัยกระเตาะ เรียกว่าเป็น Special interview ที่น่าจับตามอง
เด็กหญิงคนนี้ชื่อว่า “น้องปราณี” พบกันครั้งแรกสิ่งที่ฉันสงสัยในใจคือเด็กมาทำอะไรที่ไร่ส้มเด็กผู้หญิงผิวกร้านแดด ผมดำยาว หน้าตาดีทีเดียวล่ะ รูปร่างก็จัดว่าอุดมสมบูรณ์ ฉันเดาอายุไว้มากโข คิดว่าคงประมาณเด็กมัธยมต้น แต่พอได้คุยกันแล้ว เธอเป็นเด็กอายุ 12 ปีเท่านั้น น้องปราณีเป็นลูกคนงานในไร่ส้ม เธอติดสอยห้อยตามแม่บังเกิดเกล้ามาช่วยเก็บส้มได้เกือบปีแล้ว สิ่งที่น่าเสียดายคือเธอออกจากโรงเรียนมาตอนชั้นป.4ด้วยความจำเป็น เพราะแม่ป่วยเป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ มักจะเป็นลมบ่อยๆ เธอจึงต้องคอยดูแลอยู่ใกล้ๆ
ตอนนี้น้องปราณีอาศัยอยู่กับแม่และพ่อเลี้ยงซึ่งก็ทำงานเก็บส้มอยู่ด้วยกัน ทุกวันน้องปราณีจะออกจากบ้านมาตั้งแต่เช้าพร้อมกับอาหารมื้อเที่ยงที่ทำมาทานเอง เป็นเมนูไข่ ไข่ทอด ไข่เจียว และอีกสารพัดที่น้องปราณีสามารถทำได้ ถือว่าเป็นเด็กที่ทำอาหารเก่งเลยล่ะถ้าเทียบกับฉันซึ่งต้มมาม่าเป็นก็สุดยอดแล้วฮ่าๆ
เธอเรียนรู้วิธีการเก็บส้มจากแม่และผู้ใหญ่คนอื่นๆ ฉันถามน้องปราณีว่าอยากเรียนรึเปล่าสิ่งที่เธอตอบคือไม่หวังที่จะได้เรียนแล้วเพราะเห็นแม่เป็นแบบนี้คงไม่มีโอกาสเรียนอีก แต่น้องปราณีมีความชอบคือการร้องเพลง เธอบอกว่าเคยประกวดแล้วได้รางวัลมา เราเลยขอให้น้องปราณีร้องเพลงให้ฟัง น้องปราณีร้องเพลงเรียงความเรื่องแม่ และคนในหางตา เสียงน้องไพเราะมากเลยล่ะค่ะ ฟังแล้วเคลิ้ม พวกเราฟังไปด้วยกินส้มไปด้วยมีความสุขที่สุด
แอบเม้าท์เล็กน้อยกอก้อยเพื่อนของเราซึ้งจนเกือบร้องไห้เลยล่ะ อิอิ น้องปราณีบอกว่าทำงานในไร่ส้มสนุกแต่ได้กินส้มจนรู้สึกเบื่อไปเลย พอเราถามถึงอัตราค่าแรงที่ได้รับต่อวัน น้องปราณีบอกว่า ถ้าหากทำงานทั่วๆไปในสวนได้วันละ 40 บาท แต่ถ้าหากวันไหนเก็บส้มได้มากๆก็เพิ่มเป็น 100 บาท ทุกวันหลังจากทำงานเสร็จหรือไม่ได้มาทำงานที่สวนส้มหรือสวนผลไม้อื่นๆ เธอก็จะทำงานบ้าน กวาดบ้าน กรอกน้ำใส่ขวด ล้างจาน ทำกับข้าว แม่ก็จะให้เงิน 10 บาทเป็นค่าตอบแทน แหมดีกว่าเราซะอีกเรียนอยู่ที่มหาลัยยังไม่มีรายได้เป็นหลักเป็นแหล่งเลย ตอนนี้น้องปราณีจึงมีเงินเก็บเยอะเลยล่ะค่ะ แต่ถ้าหากแม่จำเป็นต้องเอาไปใช้จ่ายเธอก็ยินดีที่จะแคะกระปุกให้แม่อย่างแน่นอน
มีช่วงหนึ่งที่เราถามว่าโตขึ้นอยากทำงานอะไร น้องตอบว่าไม่ได้คิดเพราะ “น้องไม่มีวุฒินี่นา” รู้สึกใจหายค่ะ พวกเราจึงบอกน้องว่าการเรียนไม่จำเป็นต้องเรียนที่โรงเรียนตลอด เรายังเลือกเรียน กศน.(การศึกษานอกโรงเรียน) เรียนเฉพาะทางเพื่อประกอบอาชีพได้ และที่สำคัญความฝันของน้องคือการเป็นนักร้องอยู่ที่พรสวรรค์และการฝึกหัดมากกว่า เราจึงให้กำลังใจและพยายามที่จะให้น้องคิดในแง่บวกและพยายามเข้าใจที่จะเรียนรู้การใช้ชีวิต ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากสำหรับเด็กวัยนี้ ฉันรู้สึกโล่งใจที่น้องปราณีให้คำมั่นสัญญากับพวกเราว่า “ถึงไม่ได้เรียนก็ไม่เป็นไร แต่น้องก็จะยังคงร้องเพลง ร้องอยู่กับบ้านก็ได้ ร้องไปเรื่อยๆ เพราะเป็นสิ่งที่น้องชอบ” จะมีเด็กซักกี่คนที่จะเข้มแข็งและมีความมุ่งมั่นแบบนี้ ประโยคที่ว่า “คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เราเลือกที่จะเป็นได้” แวบเข้ามาในความคิดและทำให้ฉันได้คิดอะไรหลายๆอย่าง
ตลอดการสัมภาษณ์น้องปราณีตอบคำถาม และตอบรับมุขฝืดๆของฉันด้วยความน่ารัก ความเป็นเด็กใสซื่อ ไร้เดียงสา มันสามารถบอกให้เรารับรู้ความรู้สึกของเธอได้เป็นอย่างดี ฉันคิดแค่ว่าขอเพียงให้เด็กคนนี้ได้มีโอกาส มีโอกาสเรียน มีโอกาสเป็นในสิ่งที่ตนเองฝัน เท่านั้น เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนี้จะเป็นกำลังของชาติที่ดีทีเดียว
สุดท้ายสิ่งที่ฉันขอกับเธอในใจและหวังเป็นอย่างยิ่งว่ามันจะเป็นจริง คือขอให้น้องปราณีอย่าเพิ่งท้อ อย่าเพิ่งหมดหวัง และตั้งใจมุ่งมั่นทำสิ่งที่ตนเองฝันให้เป็นจริงให้ได้ สู้ต่อไปนะคะ พี่สาวเป็นกำลังใจให้เสมอ...
นี่เป็นอีกแง่มุมหนึ่งของชีวิตที่ไม่ได้มีแค่ในละครแต่มีอยู่ในชีวิตจริง หากเราเผชิญปัญหานี้กับตัวเอง อย่าลืมที่จะให้กำลังใจตัวเอง และวางแผนชีวิตให้รอบคอบเพื่อในอนาคตเราทุกคนจะได้พบกับความสุขของชีวิตที่แท้จริงซักที
โชคดีจงบังเกิด
จิรารัตน์
ขอเป็นกำลังใจให้น้องปราณีอีกคนครับ เด็กดีน่าสรรเสริญ ....คนเขียนบทความนี้เขียนออกมาได้ดีทีเดียวนะครับ....ว่างๆ...มาดู Blog กลุ่มเราด้วยนะ *-*